บท
ตั้งค่า

เจ้าสาวไร้รัง-3 จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง

ปัจจุบัน...

"เอาล่ะเอาตามที่ฉันสรุปแล้วกัน ฉันจะให้แม่เดือนและหนูน้ำค้างมาอยู่ที่นี่ในฐานะคนในปกครองและคนสนิทของฉัน ถ้าใครไม่พอใจจะย้ายไปอยู่ที่อื่นฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ ว่ายังไงล่ะแม่พิไลเธอจะคัดค้านอะไรไหม? แกล่ะตาภูเบศ?"

"ผมตามใจคุณแม่ครับ คุณแม่ว่ายังไงผมก็ว่ายังงั้น"

"เอิ่ม... พิไลก็แล้วแต่คุณแม่ค่ะ"

"ดี ไม่มีใครคัดค้านอะไรก็ดีแล้ว เรื่องอดีตที่ผ่านมาก็ปล่อยให้มันผ่านไปอย่าไปยึดติด ฉันหวังว่าเธอคงจะคิดได้นะแม่พิไล เอาล่ะทุกคนแยกย้ายกันไปทำอะไรก็ไป แม่เดือน หนูน้ำค้างพาฉันไปเรือนของฉันที"

"ค่ะคุณท่าน" ทั้งสองแม่ลูกพาคุณหญิงมาติกากลับไปเรือนของท่านทันที เพราะตั้งแต่ภูเบศแต่งงานกับพิไลท่านก็ปลูกบ้านหลังใหม่ไว้อยู่ส่วนตัวในอีกโซนของพื้นที่ในคฤหาสน์ เนื่องจากท่านมีความขุ่นเคืองใจในตัวลูกชายและลูกสะใภ้ แต่ท่านก็ไม่เคยรังเกียจหลานชายอย่าง...ภูษิต กลับกันท่านกลับรักและห่วงมากถึงขนาดให้แช่มคนเก่าคนแก่ที่สนิทที่สุดเป็นแม่นมให้หลานชาย

ด้านตึกใหญ่

"คุณคงดีใจมากสินะที่มันกลับมา เห็นมองตาละห้อย กลับมาไม่มาเปล่าแถมพาลูกสาวกลับมาด้วย คงคิดจะมาเกาะคุณแม่ทั้งแม่ทั้งลูก"

"คุณคิดอะไรของคุณ เรื่องมันผ่านมานานแล้วผมไม่ใส่ใจหรอก อีกอย่างคุณแม่จะอุปถัมภ์ใครมันก็สิทธิ์ของท่าน เดือนจะพาลูกเขามาด้วยก็ไม่แปลก คุณอคติมากไปหรือเปล่า"

"แม้ๆ..ฉันพูดแค่นี้รีบร้อนตัว แถมออกโรงปกป้องเลยนะคะ ใช่สิ!คุณยังรักมันอยู่ คุณไม่เคยลืมมันเลยถึงขนาดเก็บของที่มันเคยให้ไว้อย่างดี คุณยังอาลัยอาวรณ์มันอยู่ใช่ไหมตอบฉันมานะ..."

ตุ๊บ..ตุ๊บ..ตุ๊บ..เสียงคุณพิไลระดมทุบอกสามีด้วยอารมณ์ที่โกรธจัด และร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั่น

"ตอบฉันมาสิ ตอบฉันมา ว่าคุณยังรักมันอยู่ใช่ไหม ตุ๊บ..ตุ๊บ..ตุ๊บ"

"หยุดนะ!!คุณพิไล ผมเจ็บนะ..เลิกบ้าสักที โถ่เว้ย"

พลั่กกกกก.!!

"อ้ายยยย!" 

ฟุบบบ...

"นี่คุณกล้าผลักฉันเหรอคะ คุณภูเบศ..ฮือ..ฮือ..ฮือ"

"เอาไว้คุณใจเย็นแล้วค่อยมาคุยกันต่อ ตอนนี้พูดอะไรไปคุณก็คงไม่ฟัง"

ภูเบศก้าวเดินออกไปขึ้นรถและขับออกจากคฤหาสน์ไปในทันที โดยไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ในตอนที่เขาและภรรยามีปากเสียงกัน

"คุณแม่เป็นไงบ้างครับ? คุณแม่เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า ทำไมคุณพ่อถึงทำกับคุณแม่อย่างนี้ทั้งที่คุณพ่อไม่เคยทำแบบนี้เลย"

"ตาภูมิ..ลูกแม่..ฮือ..ฮือ..ฮือ พ่อเขาไม่รักเราแล้วลูก"

"ทำไมครับคุณแม่ ทำไมคุณพ่อไม่รักพวกเรา"

"เพราะสองแม่ลูกคนนั้นไงลูก..ที่คุณหญิงย่าพาเข้ามาอยู่ในบ้าน แม่เคยรู้จักกับแม่เด็กนั่นมาก่อน มันพยายามจะแย่งพ่อของลูกไป มันจะแย่งทุกอย่างของเราไป เขาไม่ใช่คนดี แม่มันร้ายลูกมันก็ต้องร้าย ภูมิต้องช่วยแม่นะภูมิต้องอยู่ข้างแม่นะลูกแม่ไม่มีใครแล้ว ใครๆก็ไม่รักแม่ไม่สนใจแม่เลย...ฮือ..ฮือ..ฮือ เพราะสองคนแม่ลูกคุณพ่อถึงทำกับแม่อย่างนี้ แม่เสียใจ..ฮึก.ฮือ.ฮือ แม่เกลียดพวกมัน เกลียด เกลียด ภูมิอย่าทิ้งแม่เหมือนคุณพ่อนะลูก แม่ไม่มีใครแล้วแม่มีแต่ลูกคนเดียวเท่านั้น..ฮือ.ฮือ"

"ครับคุณแม่ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งคุณพ่อหรือทุกอย่างไปจากเราได้ ผมสัญญา ผมจะไม่ทิ้งคุณแม่ผมจะอยู่ข้างคุณแม่ ใครไม่รักคุณแม่แต่ผมรัก ไม่ต้องร้องแล้วนะครับลุกขึ้นแล้วขึ้นห้องไปพักผ่อนนะครับคุณแม่"

"แม่รักลูกมากนะภูมิ"

"ผมก็รักคุณแม่มากครับ"

หลังจากนั้นเป็นมาถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ภูษิตมักจะกลั่นแกล้งน้ำค้างเสมอ แต่ไม่ว่ายังไงน้ำค้างก็ไม่เคยปริปากฟ้องใครแม้แต่คนเดียว แม้จะมีรอยฟกช้ำ ถลอกบ้าง น้ำค้างเองก็ไม่เคยจะบอกใคร

"ตายแล้วหนูน้ำค้าง ข้อศอกไปโดนอะไรมาลูกทำไมเลือดออกแบบนั้น" คุณหญิงมาติกาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าศอกของน้ำค้างมีเลือดออก

"เอิ่ม..คือว่าหนูลื่นหกล้มค่ะ ไม่ทันระวังค่ะคุณท่าน" เด็กหญิงน้ำค้างโกหกออกไป เพราะเด็กชายภูษิตได้ขู่เธอเอาไว้

ย้อนกลับไปเมื่อ1ชั่วโมงก่อนหน้านี้...

ขณะที่น้ำค้างนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะม่วง เด็กชายภูษิตเห็นจึงตั้งใจแกล้ง เตะลูกบอลให้กลิ้งมาทางเธอที่นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่

"นี่..เธอนั่นแหละยัยกาฝาก! หยิบลูกบอลมาให้ฉันที" เด็กหญิงก้มเก็บลูกบอลไปยื่นให้เด็กชาย แม้ในใจลึกๆจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอีกก็ตาม

เด็กชายภูษิตรับลูกบอลมาแล้วแกล้งดันผลักให้เด็กหญิงหงายหลังล้มลงก้นกระแทกพื้น และข้อศอกขูดไปกับพื้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้มีเลือดไหลออกมา

"อะ!! ตุ้บบบ.. โอ๊ยยยย ฮึก..ฮึก"

"ฮา.ฮา.ฮา สมน้ำหน้า ยัยกาฝาก แบร่ๆๆๆ จำไว้นะถ้าเธอฟ้องคุณย่าหรือใครก็แล้วแต่ฉันจะไม่หยุดแค่นี้แน่!! ถ้าไม่อยากให้แม่เธอเดือดร้อนก็ปิดปากให้เงียบซะ"

"เอ้า เด็กคนนี้ ทีหลังทำอะไรหัดระวังมั้งนะลูก พาไปล้างแผลใส่ยาไป" คุณหญิงมาติกาหันไปบอกเดือนแรมเพื่อให้พาบุตรสาวไปทำแผล พอกลับเข้าในห้องพักเดือนแรมจึงจัดการทำแผลให้บุตรสาวและได้เอ่ยถามบุตรสาวของตนว่า

"เจ็บไหมลูก" เด็กหญิงได้แต่พยักหน้า แต่ไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยออกมา

"ต่อไปนี้อย่าไปเล่นแถวบ้านใหญ่นะลูก อยู่ในส่วนของเราพอและพยายามอย่าไปเผชิญหน้ากับคุณหนูภูมิ หลบได้ก็หลบเลี่ยงได้ก็เลี่ยงที่แม่บอกลูกเข้าใจไหม คนรักเราก็มีคนเกลียดเราก็มี เมื่อวันหนึ่งที่ลูกโตขึ้นลูกก็จะเข้าใจเอง อดทนไว้นะลูกสักวันความดีจะเอาชนะทุกสิ่งได้" เด็กหญิงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจที่มารดาของตนสั่งไว้ไม่ให้ไปเล่นในตึกใหญ่อีก

ไม่ใช่ว่าเดือนแรมไม่รู้ว่าบุตรสาวของตนถูกรังแกอยู่บ่อยๆ ตนก็ได้แต่บอกให้บุตรสาวของตนคอยหลบคอยหลีกผู้เป็นเจ้านายอยู่เสมอ ที่ตนไม่เอ่ยพูดอะไรไปเพราะตนก็อาศัยบ้านและข้าวแดงแกงร้อนของคฤหาสน์หลังนี้อยู่ จึงไม่อยากให้ปัญหาลุกลาม และเดือนแรมเองพอจะรู้นิสัยของตัวพิไลและกิตติศัพท์ของบุตรชายของอดีตเพื่อนรักจากคำบอกเล่าของคนในบ้านหลายคน ดังนั้นตนจึงเลือกที่จะเงียบไว้

ในวันที่ภูษิตอายุครบ15ปี ที่คฤหาสน์สุวรรณมณีวงศ์มีงานจัดเลี้ยงเกิดขึ้นให้กับหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนาน ข้างต้นมะม่วงใหญ่มีเด็กหญิงวัย10ขวบแอบมองอยู่ พลันสายตาเจ้าของวันเกิดก็เหลือบไปเห็นพอดีจึงคิดแผนการที่จะแกล้งให้อับอาย เพราะนานแล้วที่ไม่ได้แกล้งเด็กหญิง นานๆทีจะได้กลั่นแกล้งสักครั้ง เพราะตลอด3ปีเด็กหญิงจะคอยหลบและไม่มาแถวตึกใหญ่

"น้ำค้าง มานี่สิมากินเค้กด้วยกัน อะ..ฉันให้" ภูษิตยื่นเค้กให้เด็กหญิง และทำหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร

เด็กหญิงน้ำค้างค่อยๆเดินออกมาจากหลังต้นมะม่วงอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ด้วยเห็นว่าคนเยอะและมีเพื่อนๆของเขาจึงคิดว่าเขาไม่น่าจะทำอะไรเธอแล้ว และระยะเวลาที่ไม่ค่อยพบเจอกันมันก็นานแล้ว

น้ำค้างเอื้อมมือไปจะรับเค้กที่เขายื่นให้แต่สิ่งที่ไม่คิดก็เกิดขึ้น เมื่อภูษิตจับมือของเด็กหญิงดึงมาแล้วโปะเค้กไปที่หน้าของน้ำค้างเต็มแรง ทำให้น้ำค้างสะดุดหงายหลังตามแรงที่เขาผลักและตกลงไปในสระว่ายน้ำบริเวณที่จัดงาน ทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภูษิตเองก็ตกใจไม่น้อยที่เผลอทำให้น้ำค้างตกลงสระน้ำไป

"ช่วยด้วย ชะ.ชะ.ช่วยด้วย..ช่วยด้วย" เป็นนักรบเพื่อนของภูษิตที่มาร่วมงานวันเกิดโดดลงไปช่วยเด็กหญิงได้ทัน

"ฮึก..ฮึก..ฮืออออ แม่คะช่วยน้ำค้างด้วยน้ำค้างกลัว..ฮือ..ฮือออออ" เดือนแรมที่รู้ข่าวรีบวิ่งตามมากอดปลอบบุตรสาวตัวเองไว้ด้วยใจที่เจ็บปวด และน้ำตาที่ไหลรินอาบสองแก้ม

"เงียบนะลูกขวัญเอ๋ยขวัญมา แม่ขอโทษ ขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดี เรากลับไปอยู่ในที่ของเราเถอะนะลูก แม่สัญญาจะไม่มีใครรังแกลูกได้อีก ฮือ.ฮือ.ฮือ"

"เธอพาลูกกลับไปพักผ่อนก่อน ทางนี้ฉันจะจัดการเอง" ภูเบศบอกและสั่งให้ทุกคนแยกย้ายจบงานทันที

"แกทำอะไรฮะ!ตาภูมิ แกทำแบบนี้ได้ยังไง" พิไลกำลังจะเอ่ยขอสามีให้ใจเย็นลง แต่ภูเบศตวาดใส่และไล่ให้พิไลกลับขึ้นห้องไปทันที

"พรุ่งนี้แกเตรียมเก็บของไปเรียนต่อที่อเมริกา เรียนจบแกค่อยกลับมา ฉันจะให้คุณอานนท์จัดการให้"

"อะไรนะคุณพ่อ คุณพ่อจะส่งผมไปเรียนเมืองนอกพรุ่งนี้เหรอครับ คุณพ่อเห็นยัยเด็กกาฝากดีกว่าผอมที่เป็นลูกเหรอครับ"

"แกหยุดเถียงฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ดูสิ่งที่แกทำวันนี้สิคิดว่ามันถูกแล้วเหรอ ไม่ต้องพูดนี่คือคำสั่งกลับขึ้นห้องแกไปซะ และเตรียมตัวให้พร้อมด้วย ขึ้นห้องไปซะ!!" ภูษิตวิ่งกลับขึ้นห้องไป ได้แต่นั่งกำมือขบกรามแน่นนึกแค้นเคืองอยู่ในใจ

"คอยดูนะยัยกาฝาก ฉันจะทำให้เจ็บมากกว่าฉันและแม่ของฉันเป็น100เท่า เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้"

รุ่งสายของอีกวันภูษิตถูกส่งไปเรียนต่อต่างประเทศทันที โดยมีทุกคนร่วมส่งทำให้คุณพิไลเสียใจเป็นอย่างมาก และยิ่งเพิ่มความเกลียดชังในตัวสองแม่ลูกคู่นี้เป็นทวีคูณ

-----------------------------------------------------------------------

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel