บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. รักษาตัว

ชานนท์รักษาตัวอยู่นานจนหมอมั่นใจว่าเขาจะกลับมาหายดี เพียงแค่ไม่ใช่คนหนุ่มเรี่ยวแรงเต็มร้อยเช่นเดิม และระหว่างนี้เขาต้องทำกายภาพบำบัดให้สองขากลับมาใช้งานได้อย่างปกติ

ทว่าเมื่อกลับมากรุงเทพฯ เพื่อนฝูงที่คบหา ไม่ซิ! จะเรียกว่าเพื่อนก็คงไม่ได้อีกต่อไป คนที่แทงข้างหลังคนอื่นได้ไม่ควรใช้คำว่าเพื่อนอีกต่อไป คนที่มาบอกว่ามาเยี่ยมนั้น แท้จริงมาดูว่าสภาพเขาน่าสมเพชแค่ไหน เขาไม่อยากจะอยู่เมืองไทยด้วยซ้ำ แต่พ่อกับแม่ขอร้องแกมบังคับ เพราะถ้าเขาไปอยู่อเมริกาก็ไกลหูไกลตา ท่านไม่อาจจะได้ดูแลลูกชายคนเดียวได้

“เอาอย่างนี้ พ่อกับแม่มีบ้านที่จังหวัด มันอยู่ไกลสักหน่อย แต่ไม่มีใครรู้จักหรอก ลูกไปอยู่ที่นั้นสงบๆ ไม่เจอผู้คนแล้วพักฟื้นตัวเองดีกว่า”

“ที่ไหนครับ”

พ่อกับแม่บอกสถานที่ไป เขาทำหน้างุนงง ไม่นึกว่าแม่จะปลูกบ้านไว้ในที่ไกลกันดารไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวอีกต่างหาก ก็เขามีคอนโดริมทะเล มีบ้านพักตากอากาศหลายแห่ง แต่บ้านติดทุ่งนานี่นะ! เขาเพิ่งจะเคยรู้\

ชานนท์ไม่อยากขัดใจแม่กับพ่ออีก ระหว่างที่รับการรักษาตัว มีหลายความคิดประดังประเดเข้ามา เขาเอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ จนอายุ 30 แล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน งานการที่บริษัทมีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานแต่ก็เหมือนเป็นตุ๊กตาเพราะตัวเองไม่ได้ทำอะไรมากนัก ช่วงที่ป่วยสำนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำตัวเป็นลูกที่ดีนัก หากเป็นอะไรไปโดยไม่ได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่เลยก็ช่างน่าละอายนัก เขายอมอดทนต่อความเจ็บปวดในการรักษา เพียงเพื่อจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่อีกครั้ง

และเมื่อพ่อกับแม่ขอร้องให้เขามาที่นี่ เขาก็จำใจต้องมาอย่างไม่เต็มใจ เพียงเพราะไม่อยากขัดใจพ่อกับแม่อีกแล้ว

แต่การที่สองขายังไม่ค่อยมีแรงนั้นทำให้เขาหงุดหงิด การใช้ชีวิตติดรถเข็นมานานก็ไม่ได้ช่วยให้เขาเข้ากับมันได้ แม้จะพยายามฝึกเดินมากเท่าไหร่ ก็เหมือนจะยิ่งเดินได้ช้าลง ทุกอย่างดูขวางหูขวางตาไปหมด

เมื่ออยู่คนเดียว ชานนท์เริ่มสงบสติอารมณ์ได้ เห็นข้าวของที่พังเพราะน้ำมือเขาก็ได้แค่ถอนหายใจ คนรอบข้างคงลำบากใจเพราะเขาอีกแล้ว ชายหนุ่มขยับรถเข็นแล้วมองไปนอกหน้าต่าง แถวนี้เงียบสงบจริงๆ แค่สองทุ่มก็เหมือนทุกอย่างตกอยู่ในความมืด แม้จะอยู่ในหมู่บ้าน แต่บ้านแต่ละหลังก็ห่างกันพอสมควร เขาเห็นเพียงแสงสว่างจากบ้านหลังที่ใกล้ที่สุด

การที่เขามาพักฟื้นที่นี่ ไม่มีใครรู้ มันอาจจะดีกว่าต้องเจอคนมาแสดงความห่วงใยแบบจอมปลอบ เอาเถอะ พรุ่งนี้เขาจะเริ่มฝึกเดินอย่างจริงจังอีกครั้ง

ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ แล้วก้มมองขาตัวเอง มันคงเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องชดใช้กรรม แต่เขาก็จะพยายามที่จะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้

..........

เสาร์-อาทิตย์นี้ ณิชาไม่ได้ไปขายของที่ถนนคนเดินเพราะใกล้สอบแล้ว แถมยังมีรายงานที่ต้องเร่งทำส่งอาจารย์ให้ทันตามกำหนด ถึงจะเสียดายเงินที่หดหายไป แต่การอดทนเพื่อเรียนให้จบนั้นก็สำคัญกว่า หญิงสาวช่วยงานในบ้านของแม่เสร็จก็หิ้วโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานที่ใต้ถุนบ้าน พร้อมกับกาแฟร้อนกับขนมไทยที่แม่ทำไว้ให้ ครู่หนึ่งก็มีมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่มาจอดหน้าบ้าน แม่ก็แต่งตัวด้วยชุดสีดำออกมาจากในบ้านพอดี

“แม่ไปช่วยงานศพบ้านผู้ใหญ่ต๋องก่อนนะลูก”

“จ๊ะแม่”

ณิชาร้องยิ้มให้เด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเธอที่สวมเสื้อสีดำแม่เดินไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คนรู้จักแล้วรถก็เคลื่อนออกไป หญิงสาวรวบผมขึ้นเป็นหางม้า เธอไม่ค่อยชอบผมยาวของตัวเองนักหรอก แต่ทำยังไงได้ ก็แม่ขอไว้

“ไหนๆ ก็เกิดมาเป็นลูกสาวแม่ทั้งที ช่วยทำตัวเป็นผู้หญิงให้แม่หน่อยได้ไหมเนี้ย”

แม่มักจะบ่นที่เธอซนทะโมนเป็นลิงอยู่เสมอ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็เป็นอย่างนี้มาตลอด พ่อมักจะตามใจเธอไม่ค่อยดุว่าอะไร มีแต่แม่ที่เอาแต่ดุเธออยู่เรื่อย ถ้าหนักหน่อยก็โดนก้านมะยมฟาดสักทีสองที แค่บีบน้ำตาพ่อก็รีบเข้ามาห้ามแม่แล้ว

เธอนั่งทำงานได้ครู่ใหญ่ก็รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ลุกขึ้นเดินเล่นบริเวณบ้านแก้เมื่อยขบ แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าหมาในบ้านตัวเองไม่ครบ

“ไข่ดาวหายไปนะเนี้ย” หญิงสาวบ่นแล้วตะโกนเรียกหมาพันธุ์ทางที่พ่อของเธอเก็บมาเลี้ยง

“ไข่ดาว อยู่ไหนออกมากินขนมเร็ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel