2
ในห้องรับแขกของบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ มาติกาเห็นพี่สาวยืนอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์รัดรูป รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ไม่ว่าใส่อะไรก็ดึงดูดคนให้มองเสมอ เธอเดินไปจับมือนุ่มนิ่ม ปุ้ยฝ้ายยิ้มให้เธอ แต่สายตาหวานส่งให้ผู้ชายที่จูงเธอเข้ามา มาติกาหันมอง ทว่าเจ้าบ้านกลับยืนใบหน้าเคร่งขรึมไม่ยิ้มแย้ม ปุ้ยฝ้ายหรือศสิมายังทักทายเสียงหวาน
“คุณเก้าสบายดีนะคะ”
ปุ้ยฝ้ายไม่เคยสนใจความเย็นชาของคู่หมั้น ใช่เขาจะเป็นครั้งแรกเมื่อไหร่ ในเมื่อต้องการกลับมาขอคืนดีเธอจะไม่รีรอทำอย่างที่ตนเองต้องการและที่แม่กำชับมา
“ขับรถเร็วจังนะ ลืมไปแล้วใช่มั้ย…ผมไม่ชอบเสียงอะไรก็ตามที่มารบกวนในบ้าน”
อย่างน้อยเมื่อก่อน เธอไม่เคยโดนกิตติคุณตำหนิต่อหน้าใครๆ หญิงสาวใบหน้าเจื่อนเอ่ยขอโทษ “ขอโทษค่ะปุ้ยคงดีใจไปหน่อยที่ได้มาที่นี่”
“มารับมาใช่มั้ยคะพี่ปุ้ย ดีจัง โทรไปหาแม่ไม่ค่อยว่างเลย ส่วนพี่…”
“แน่นอนพี่มารับเธอกลับ”
ปุ้ยฝ้ายยิ้มให้น้อง ไม่อยากให้น้องสาวถามว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ไม่อยากให้อดีตคู่หมั้นต้องระคายหู แต่เจ้าบ้านกลับเดินไปนั่งและพูดให้เธออึ้ง
“จะมาหา รับสายเธอได้ยังไงมาติกา เธอไม่รู้หรือไงหลายเดือนที่ผ่านมาพี่สาวเธอเขาไปเที่ยวกับแฟน”
อดจะแขวะไม่ได้ บอกจะไม่คิดแต่ไปกับเพื่อนสุดชังของเขา นายกิตติคุณต้องตอบคำถามเพื่อนๆ มากมายซึ่งน่าเบื่อมาก
มาติกากระตุกแขนพี่ “พี่ปุ้ย” เธอไม่เชื่อพี่สาวจะไปเที่ยว ทิ้งให้เธอมาเป็นคนรับใช้ รองรับอารมณ์ของกิตติคุณที่สำคัญเธอต้องพลาดการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย
ยังจำได้ดีแม่บอกเสียสละครั้งนี้เพื่อครอบครัว พี่ปุ้ยเองก็ต้องไปทำงานหนักเพื่อหาเงินใช้หนี้ เธอนั้นไม่มีความรู้เหมือนพี่สาวที่จบปริญญาโทจึงต้องมาดูแลเจ้าหนี้ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ทำไมไม่ปฏิเสธน้องเธอไปล่ะปุ้ย” น้ำเสียงเยาะ แววตาคาดคั้น ปุ้ยฝ้ายน้ำเสียงอึกอัก “พี่ไปทำงานมาจ๊ะ คนอื่นอาจคิดว่าไปเที่ยว นี่ไงได้เงินมาใช้หนี้คุณเก้าแล้วด้วย จะได้พาเธอกลับบ้านเสียที”
มาติกาโผสวมกอดพี่สาว ฝ่ายพี่ไม่กอดตอบอีก เพราะตอนนี้ชักกังวลเรื่องคู่หมั้นที่ต้องการหวนคืน ดูท่าเขาจะรู้อะไรมากกว่าที่ต้องการให้รู้
ใครช่างกล้าแส่ ไหนแม่บอกว่าทุกคนคงเก็บเป็นความลับเพราะไม่อยากให้กิตติคุณเสียใจ แม่มั่นใจนักหนาว่าผู้ชายตรงหน้าหลงเธอหัวปักหัวปำ ซึ่งผ่านมาหลายปีเธอยังไม่เห็นแววตาแบบนั้นสักครั้ง บอกใครก็ออกความคิดเห็นว่าเขาไม่ชอบแสดงออกเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้
ตอนแรกเมื่อเจอดูเซอร์ๆ ออกไปแนวซกมกด้วยซ้ำ ดีที่มีความร่ำรวยให้น่าสนใจ คิดแล้วปุ้ยฝ้ายก็เซ็งจนไม่อยากฉีกยิ้ม แต่เรื่องราวใหม่ๆ ที่ได้รู้ก็บอกให้เธอยิ้มสู้
มาติกานั้นไม่สนใจอะไรหยิบเงินมาดู เธอหันไปหาเจ้าหนี้ คิดว่าเขาคงดีใจที่ได้เงินคืน ลืมเรื่องที่พูดกับเขาก่อนเดินเข้าบ้านไปเสียสนิท
“คุณเก้านับดูสิคะ”
กิตติคุณลุกขึ้นมารับซองไป ปุ้ยฝ้ายมองขาคู่หมั้นด้วยความสนใจ…เขาไม่ได้ขาหักหรอกหรือ
“ไม่เห็นโทรมาบอกก่อน” สายตาดุดันไม่ได้สนใจเงินตั้งคำถามบางอย่าง ปุ้ยฝ้ายรีบตอบเสียงหวาน
“ปุ้ยโทรหาหนูเล็กแล้วค่ะ ไม่บอกเก้าหรอกหรือคะ” ปุ้ยฝ้ายแสดงความสนิทสนมอย่างเมื่อก่อน
“พี่หนูเล็กไม่ได้บอกอะไร แต่ไม่เป็นไร คุณมาก็ดีจะได้พูดอะไรกันซะเลย”
กิตติคุณมองหน้าผู้หญิงที่เคยคิดแต่งงานด้วย รู้สึกเจ็บจี๊ดเมื่อเจอหน้า ความหลังเข้ามาในสมองอย่างไม่อาจห้ามได้ เจ็บที่โดนทรยศ แต่ไม่ได้เสียใจกับอนาคตที่แม่ปูทางให้ เธอทิ้งไปเพียงเพราะเขาประสบอุบัติเหตุสลบไปหนึ่งเดือน โผไปหาผู้ชายคนใหม่ เงินที่แม่หล่อนเคยติดค้างทั้งต้นและดอก ชดใช้ด้วยผู้หญิงที่ชื่อมาติกา ไม่ได้ถามใครเลยว่าต้องการหรือเปล่า พี่สาวเขารับมาติกาไว้ด้วยความงงงวย
ที่เคยเชียร์เพื่อนแทบขาดใจคงทำให้พี่สาวจุกจนไม่อยากพูดอะไรกับตน แต่เขาก็ไม่ซ้ำเติมพี่สาว ความผิดพี่เขาเมื่อไหร่
และตั้งแต่มาติกาเข้ามาอยู่ไร่ทิวากร เธอเป็นกระโถนให้นายเก้าจอมใจร้ายอย่างเขารองรับอารมณ์นับครั้งไม่ถ้วน แต่นานวันความอ่อนน้อมของเธอทำให้กิตติคุณค่อยๆ รามือลงแต่ให้ใจดีเป็นพ่อพระเหมือนเธอเป็นคนเก่าแก่ในบ้านเขาก็ไม่ทำ
เสียงซุบซิบจากคนสนิทว่าเขาช่างมีคุณธรรม ดอกเบี้ยเนื้ออ่อน มาอยู่ตรงหน้ายังมองข้าม เขาไม่สนใจ
ใครจะกลืนเข้าไปได้ถึงอย่างไรเธอก็ได้ชื่อว่าน้องสาวปุ้ยฝ้าย ถ้าเขาเกิดทำเด็กคนนี้ตั้งท้อง เรื่องราวอะไรจะเกิดตามมา
