บท
ตั้งค่า

2

ด้านกิตติคุณรีบเดินจนชนร่างเล็กที่เดินสวนทางมา ชายหนุ่มเหลือบสายตามอง ฝ่ายนั้นถอยห่างและรีบขอโทษ

“ขอโทษค่ะคุณเก้า”

“จะไปไหน”

มาติกาแปลกใจที่เจ้านายเจ้าอารมณ์สนใจใยดีเธอ สาวน้อยวัยสิบแปดแหงนหน้ามอง

“ไปนั่งดูดาวตรงโน่นคะ”

“สบายจริงๆ นะลืมหรือไงมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”

ลืมเรื่องที่เขาสนใจใยดีไปเถอะ มาติกาหันหลังมุ่งไปทางที่ต้องการ คนหน้าดุเสมอเดินห่างไป มาติกาหันกลับมามองแผ่นหลังกว้าง ตั้งคำถามซ้ำๆในใจ

เมื่อไหร่คุณเก้าจะพูดดีกับเธอเหมือนพูดกับคนอื่น แม้เขาจะลดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดลงบ้างแต่ความดุยังทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกให้คนที่นี่เสมอ

คำดุด่าได้ยินจนชินตอนอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อมาอยู่ที่นี่ การโดนคนอื่นตะคอกทุกวี่วัน ใช้เหมือนกับทาส ก็เรียกน้ำตาผู้หญิงที่คิดว่าตนเองเข้มแข็งได้เหมือนกัน

ผาเดินมาใกล้มาติการีบถอยห่างไป ภาวนาให้ไม่มีใครมาเรียกหาเธอ ทำงานทั้งวันได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติคงช่วยบำบัดร่างกาย จิตใจได้บ้าง ทว่าเมื่อเดินไปนั่งเพียงนาทีเดียวที่ริมโขดหินใกล้พุ่มเฟื่องฟ้า ก็รู้สึกคิดถึงบ้าน ห้ามใจแล้วแต่ยากเกินจะหักห้าม

โตมาจนเกือบยี่สิบปี เธอไม่เคยไปไกลบ้าน ห้องนอนแม้ไม่กว้างขวางแต่เป็นที่ซึ่งนอนหลับสนิทที่สุด

เมื่อไหร่จะมีใครมารับมากลับบ้าน แม่เองเคยโทรถามข่าวคราว แต่นั่นมันเกือบเดือนแล้ว โทรไปก็บอกว่ายุ่งหาเงินใช้หนี้ที่พ่อสร้างไว้ คิดว่าต้องติดเหงกอยู่ที่นี่ตลอดไป ไม่ได้ไปร่ำเรียนอย่างที่ใฝ่ฝัน มาติกาก็มองดวงจันทร์ไม่สวยอย่างเคย

หรือที่เธอแกล้งทำตาบอดจะเป็นความจริง ไม่มีใครต้องการเธอ

มาติกาไม่อยากเศร้าแต่น้ำตาก็ไหลออกมา ชีวิตช่างเดียวดาย เธอรู้สึกหว้าเหว่เหลือจะทน

“คุณมาติกาคุณเก้าเรียกหาครับ”

มือเล็กป้ายน้ำตาด้วยความรวดเร็ว สายตากังวลหันมองนายผาซึ่งมองเธอด้วยสายตาเป็นมิตรเสมอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ไม่ทราบครับแต่คุณเก้ารออยู่”

รออยู่คือบอกให้รีบ มาติการีบเดิน ถึงหลังบ้านเธอผ่อนเท้าให้ช้าลง ร่างสูงทำให้เธอต้องแหงนหน้าซักถามอย่างเคย

“เรียกมาเหรอคะ”

“รู้แล้วทำไมต้องถามอีก”

มาติกาเงียบ รอเพียงคำสั่งอย่างที่เคยทำ

ไม่ทันได้พูดอะไรมือใหญ่ที่กร้านงานจับมือขวาเธอแน่น มาติกายึดข้อมือใหญ่ไว้

“ไปไหนคะ ปล่อยค่ะมาเดินเองได้”

“ไปเถอะน่าอย่าถามมาก ไม่พาไปเชือดอย่างที่เธอหวังหรอก”

มาติกาหน้าแดง “พูดอะไรคะ มาเปล่าคิดแบบนั้นสักหน่อย”

“ก็นั่นมันงานที่เธอตั้งหน้าตั้งตารอไม่ใช่เหรอ รอได้ปรนนิบัติฉัน มาเป็นตัวแทนของพี่สาวเธอ”

ว่าจะไม่พูดแต่ก็อดไม่ได้เพราะแม่สาวขัดดอกมาต่อปากต่อคำ แม้ที่ผ่านมาเธอไม่ได้ยั่วยวนเขาอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรก ทว่าก็ยังอยากแขวะอยู่ดี ผู้หญิงบ้านนั้นจะมาดี ไม่มีทาง

สาวเจ้าเงียบตามนิสัยที่ชักชิน กิตติคุณเข้าเรื่อง

“ไปหาปุ้ยฝ้ายกัน พี่สาวเธอมาไม่ดีใจหรือไง”

“พี่ปุ้ยฝ้ายเหรอคะ” น้ำเสียงตื่นเต้น แต่สีหน้าไม่ได้แสดงความดีใจมากมาย กิตติคุณชิงชังชื่อนี้ ชิงชังที่จะพูดเรื่องอดีตแต่เหตุการณ์ก็พาไป

“เธอรู้หรือเปล่ามาติกาแม่เธอเป็นหนี้บ้านฉันเท่าไหร่”

ใบหน้าราบเรียบจ๋อย เขาชอบที่จะทำให้ผู้หญิงตรงหน้าความหวังพังภินท์และดูเหมือนทำสำเร็จ

“ค่ะ”

“ดีที่จำได้ จำไว้คนอย่างฉัน ไม่ชอบให้ใครมาทำเหมือนฉันเป็นเด็ก ในเมื่อเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะคนขัดดอก ถ้าฉันไม่บอกว่ากลับได้ ต่อให้มีเงินมากมายมากองก็ยังกลับไม่ได้”

น้ำเสียงดุดันเหมือนสองสามวันแรกที่เขารู้สึกตัว รับรู้เรื่องที่พี่สาวเธอไม่สนใจใยดีเขา มาติกาแอบหวั่นใจ

เขาต้องการอะไร

“เข้าใจมั้ย ฉะนั้นอย่าทำเป็นเด็ก ไม่อย่างนั้นครอบครัวเธอได้เดือดร้อนแน่ แม่ฉันไม่อยู่แล้ว พี่สาวฉันเห็นธาตุแท้พี่สาวเธอแล้ว คราวนี้ไม่เข้ามายุ่งเรื่องที่ฉันจะทำหรอก”

“แต่ที่ผ่านมาฉันทำงานให้คุณไม่เคยเกี่ยงงานเลยนะคะ ถ้าพี่สาวฉันมีเงินฉันก็ควรได้กลับบ้านไม่ใช่หรือ”

มาติกายังอยากหาทางออกให้ตนเอง ใครจะช่วยเธอได้ นอกจากตัวเองในตอนนี้

“ถ้าจ่ายเป็นเงินเดือนให้เธอก็แค่เศษเงินของฉันเท่านั้น ไม่พอแม้เสี้ยวของดอกเบี้ยที่แม่เธอเอาไปหรอก”

ใบหน้าเธอหม่นหมองซึ่งเคยเห็นน้อยมาก กิตติคุณเบือนหน้าหนี

มาติกามองใบหน้าดุดัน อะไรเธอก็ต้องยอมเพื่อความสบายใจของแม่ “เอาที่คุณสะดวกเถอะคะ ขอเพียงได้บ้านคืน มายอม”

บ้านเป็นสมบัติที่เหลืออยู่เพียงชิ้นของพ่อ เธอคงยอมจำนนเขาทุกอย่างในตอนนี้

“ดี ฉันพูดอะไรอย่าขัดใจจำไว้”

ใบหน้าที่ดุดันอยู่แล้วยิ่งน่ากลัวยามมีหนวดเครา มาติกาไม่อยากมองให้นาน แสร้งมองอย่างอื่น

ถ้าหญิงสาวที่แม่เอ็นดูไม่เป็นผู้หญิงหน้าเงิน เนรคุณความตั้งใจแม่ พี่สาวตน เรื่องราวคงไม่เป็นแบบนี้ ลวงโลก คิดถึงคู่หมั้นกิตติคุณอยากจะอาเจียน ที่ผ่านมาเธอชอบตีหน้าเศร้า ขอโน่นนี่แม่ตน กับเขาเช่นกัน ดีที่เขาเฉยกับหล่อนมาตลอด

“ไปกันยังคะ”

ชายหนุ่มกระตุกมือเล็กเข้าข้างใน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel