2
“ทำไมยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีก”
“นวลถอดชุดไม่ออกค่ะ ปลดซิปด้านหลังไม่ได้”
“หึ!”
เขาทำเสียงในลำคอก่อนจะเดินไปรูดซิปออกให้แบบกระชาก นวลอนงค์สะดุ้ง มองเขาหน้าตาเหลอหลา
“ฉันไม่พิศวาสผู้หญิงโสโครกแบบเธอหรอกนะ ไม่ต้องทำท่าทางไร้เดียงสาแบบนั้น มันน่ารำคาญ”
เขารูดซิปแล้วผลักร่างเธอจนล้มซุนลงไปกับพื้นห้อง
นวลอนงค์รีบตะเกียกตะกายเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด หน้าของเธอยังมีเครื่องสำอางอยู่เต็ม ผมก็ยังเกล้าอยู่บนศีรษะ ไม่ได้รับการแกะให้เรียบร้อย
“เสร็จหรือยัง”
เขาตบประตูปัง ๆ ๆ นวลอนงค์รีบก้าวไปเปิดประตู เขาก็กระชากเธอจนแทบหัวคะมำ
“ชุดแต่งงานเอาไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการให้”
เขากระชากให้เธอเดินออกไปจากห้องหอ พร้อมกับกระเป๋าใบโต นวลอนงค์ถูกยัดเข้าไปในรถ ก่อนที่เขาจะขึ้นมานั่งใกล้ๆ และสั่งให้คนขับรถออกรถในทันที
เขาออกจากโรงแรมในช่วงดึก และไม่คิดจะพักผ่อน เธอนั่งตัวลีบไปกับเบาะรถอีกด้าน สีหน้าเย็นชาของเขาบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ มันกระด้างและเยือกเย็น
นวลอนงค์อยากรู้ว่าเขาจะพาไปไหน แต่ปากหนักเกินกว่าจะกล้าถาม เธอเลยได้แต่นั่งเงียบไปตลอดทาง หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็โดนกระชากลงจากรถ
“โอ๊ย!” ร้องอย่างตกใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ
ไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อยตรงหน้าทำให้เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะโดนลากเข้าไปในบ้านพักหลังเล็กๆ
“นี่ที่พักของเธอ”
คนบอกเหวี่ยงเธอเข้ามาในห้องพักเล็กๆ แคบๆ ก่อนจะเดินจากไปแบบไม่แยแส
นวลอนงค์เดินไปปิดประตูก่อนจะกวาดสายตามองสภาพห้องพักแคบๆ ของตัวเอง แต่ก็ดีกว่าบ้านที่เธออาศัยอยู่กับบิดาและมารดาเลี้ยงอีก ที่นั่นเหมือนนรก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะเจออะไรอีก
หญิงสาวถอนใจหนักๆ เธอไม่ร้องไห้เพราะร้องไห้มามากพอแล้ว จึงจัดการรีบอาบน้ำและเข้านอน พรุ่งนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง เตียงแข็งๆ ที่เธอทิ้งตัวลงนอนก็ดีกว่าฟูกเก่าๆ ของที่บ้าน อะไรที่เป็นของใช้ดีๆ มารดาเลี้ยงของเธอเอาไปให้พี่สาวใช้จนหมด แม้กระทั้งฟูกนอนนิ่มๆ ที่โยธินเคยซื้อให้
ความเหนื่อยล้าและเรื่องราวสับสนมากมายในชีวิตทำให้เธอหลับลงในทันที
นวลอนงค์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะแรงกระชากจากร่างสูงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
“ตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง”
คนที่ยืนถมึงทึงอยู่ตรงหน้าทำให้เธอผวา หายง่วงนอนเป็นปลิดทิ้ง
“มาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำงาน จะนอนกินบ้านกินเมืองเหมือนอยู่ที่บ้านไม่ได้นะ”
คนพูดสั่งให้เธอไปล้างหน้าแปรงฟัน บอกว่าจะพาออกไปทำงาน เธอก็ทำตามไม่เกี่ยงงอน ไม่ได้คิดจะมานอนงอมืองอเท้าอย่างที่เขาว่า
“ค่าสินสอดเธอเป็นล้าน เธอก็ต้องทำงานชดใช้ เพราะฉันไม่ได้ให้ฟรีๆ และไม่ได้คิดอยากได้เธอเป็นเมียแต่แรก ผู้หญิงสำส่อนแบบเธอ แค่เฉียดเข้าไปใกล้ ฉันก็รังเกียจจะแย่ หน้าตาก็ดีนะ แต่จิตใจหยามช้าต่ำทราม”
เขาด่าว่าขณะผลักให้เธอเดินเข้าไปในไร่มันสำปะหลังที่แยกส่วนจากไร่อ้อย
“คุณโยจะให้นวลทำอะไรคะ”
เธอเอ่ยถามเขา หันรีหันขวาง หวาดกลัวเขาก็หวาดกลัว แต่เธอไม่มีที่ไป เขาเป็นที่พึ่งเดียวในตอนนี้
บิดากับมารดาเลี้ยงไม่ให้เรียนหนังสือ เรียนจบแค่ม. 6 ก็ออกมาหางานทำ วุฒิการศึกษาน้อยนิดทำให้เธอไม่มีที่ไปมากนัก สมองเธอไม่ค่อยดีไม่เหมือนพี่สาวอย่างโฉมชบาที่ใครๆ ก็อยากส่งเสียให้เล่าเรียน
“ขุดมันพวกนี้ให้หมดจากตรงนี้ไปถึงตรงโน้น แล้วค่อยพักไปกินข้าว โรงอาหารคนงานอยู่โน่น ทำได้ไหมล่ะ”
“ค่ะ”
เธอรับคำ ในขณะที่เขาทำสีหน้าไม่เชื่อถือ แต่ก็เดินจากไปแบบไม่แยแสเช่นเดิม
เธอมองท้องร่องของไร่มันสำปะหลังกว้างใหญ่ จากตรงที่เธอยืนอยู่สุดไปอีกด้านหนึ่งก็ไกลมากพอสมควร เธอต้องรีบทำงานให้เสร็จตามที่เขาบอก
คนที่ไม่เคยปริปากบ่นหรือต่อล้อต่อเถียงอะไรกับใครเลยรีบจัดการขุดมันใส่เข่งไปเรื่อยๆ เธอขุดแล้วก็ปัดดินออกจากหัวมันอย่างไม่ปริปากบ่น
แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามากระทบใบหน้า เธอไม่มีหมวกคลุมศีรษะ จึงค่อนข้างร้อน แต่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่เกี่ยงงอน จะเดินกลับไปบ้านพักซึ่งไกลพอสมควรอาจจะเสียเวลา เธอกลัวจะทำงานไม่เสร็จ
