แสร้งยินดี
[ประเทศออสเตรเลีย]
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อคมตามแบบฉบับหนุ่มเอเชีย แต่ความแพรวพราวของเขาทำให้หญิงสาวพากันหลงใหล
"จะกลับไทยแล้วเหรอคะคริส" หญิงสาวผมบลอนด์ลูบแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามวนเบาๆ พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน
"อืม" ชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆ เท่านั้น เขามาเรียนที่ออสเตรเลียตั้งแต่อายุสิบสอง ทีแรกตั้งใจจะกลับไทยหลังจากเรียนจบมัธยมแต่สุดท้ายก็ขออยู่ต่อจนเรียนจบปริญญาโท
"ไม่กลับไม่ได้เหรอคะ เกรซต้องคิดถึงคุณแน่เลยค่ะ" หญิงสาวยังคงออดอ้อนใช้ใบหน้าสวยถูไถกับแผงอกแกร่งของเขาเบาๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเพียงคู่นอนครั้งคราวเท่านั้น
"ฉันต้องกลับไปรับธุรกิจต่อจากพ่อเอาไว้ฉันจะมาหา" คริณแค่พูดเพื่อให้อีกคนมีหวัง ถ้าเขาไม่ถูกพ่อกับแม่บังคับให้กลับเขาก็คงอยู่ที่นี่ถาวรแต่เพราะครอบครัวของเขามีลูกชายคนเดียวเขาจึงต้องไปสานต่อธุรกิจของที่บ้าน
"ต้องมาหาเกรซนะคะคุณคริส" ชื่อของเขาคือคริณ แต่ทุกคนที่นี่จะเรียกเขาว่าคริสด้วยความชินปากซึ่งคริณเองก็ไม่ได้มีปัญหากับชื่อที่ทุกคนเรียก
"แต่ตอนนี้ทำให้ฉันก่อนสิคนสวย" มือหนากดหัวของอีกคนให้ก้มต่ำลงไปที่เป้ากางเกงตุงๆ หญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะจัดการควักแก่นกายใหญ่จนเกือบใช้มือกำไม่รอบเข้าปากช้าๆ
ทั้งสองคนละเลงบทรักกันอย่างเมามันแล้วจบด้วยการถอดถุงยางอนามัยทิ้งลงถังขยะพร้อมกับทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ข้างเตียง
"เกรซจะคิดถึงคุณนะคะ" คริณไม่ได้โต้ตอบ เขาใส่เสื้อผ้าแล้วออกจากโรงแรมทันที เขาไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นเพียงที่ระบายเท่านั้นและรอบตัวเขายังมีผู้หญิงอีกมากมายให้เลือกสรร
แกร๊ก เสียงประตูเปิดออกช้าๆ ด้วยความเบามือของผู้ที่เพิ่งกลับถึงที่พัก ชายหนุ่มค่อยๆ ย่องเบาๆ ไปที่ห้องนอนของตัวเองเพื่อไม่ให้รูมเมทอีกคนตื่น
"ไปหาสาวมาอีกแล้วสินะคริณ" เสียงหวานของหญิงสาวผู้เป็นรูมเมทของคริณเอ่ยราวกับรู้ว่าเขาไปไหนมา เธอคือธิชาเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมของคริณ ทั้งคู่อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันแต่แยกกันอยู่คนละโซนเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ครอบครัวของธิชาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเขา แต่เธอได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่จนจบปริญญาโท คริณรู้จักกับธิชาตั้งแต่สมัยมัธยมเพราะในห้องเรียนมีแค่เขากับเธอที่เป็นคนไทยทำให้สามารถพูดคุยกันได้
"ก็นิดหน่อย มะรืนต้องกลับไทยแล้วต้องสั่งลากันบ้างสิ" คริณมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสายตาแพรวพราว แต่ธิชากลับเบือนหน้าหนี
"ฉันเลื่อนกลับไฟล์ทเดียวกับนายนะ" จู่ๆ เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมา ธิชาตั้งใจจะกลับไทยสัปดาห์หน้าแต่สุดท้ายก็เลื่อนกลับพร้อมกับคริณ
"ก็ดีสิ งั้นฉันไปเก็บของก่อนนะ" คริณแยกตัวเข้าห้องนอนทางฝั่งขวาของบ้าน เมื่อเข้าห้องมาชายหนุ่มแอบอมยิ้มน้อยๆ ที่จะได้กลับพร้อมกับเธอ คริณแอบชอบธิชาแต่กลัวอีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกัน เขาจึงเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้คนเดียว
อีกด้านของคนที่รอการกลับมาของคริณอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากรู้ข่าวว่าชายที่แอบปลื้มใกล้จะกลับมายิ่งทำให้เธอตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ
"คุณนับไปพักก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวแก้วจัดการเอง" พนักงานสาวในร้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเจ้าของร้านคนสวยยืนหาวฟอดๆ ตั้งแต่เช้า
"ไม่เป็นไรจ้ะ" นับดาวขยี้ตาเบาๆ ให้รู้สึกตื่น เธออดหลับอดนอนเพราะมัวแต่ดีใจที่วันพรุ่งนี้คนที่เคยให้สัญญากำลังจะกลับมา
"อย่าโหมงานนักนะคะคุณนับเดี๋ยวร่างกายจะแย่เอาค่ะ"
"ขอบใจนะ นับแค่ดีใจที่พี่คริณจะกลับมาน่ะ" นับดาวไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเอง เธอคิดถึงเขามาก คิดถึงจนแทบขาดใจแต่เขาจะคิดถึงเธอบ้างหรือเปล่า
"คุณคริณที่คุณนับเลยเล่าให้แก้วฟังน่ะเหรอคะ"
"ใช่จ้ะ พี่คริณคนนั้นเลย"
"ว้าว แบบนี้คุณนับก็จะได้แต่งงานแล้วสิคะตื่นเต้นแทนเลยค่ะ" แก้วหรือแก้วตาหญิงสาวผู้เป็นลูกจ้างประจำร้านดอกไม้ของนับดาว เธอมักจะได้ยินเรื่องของคริณบ่อยๆ จากการที่นับดาวชอบเล่าให้ฟัง
"คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกพี่คริณต้องกลับมารับธุรกิจต่อจากพ่อของเขาน่ะ" นับดาวพูดไปยิ้มไป เธอมักจะยิ้มทุกครั้งที่ได้เอ่ยชื่อของเขา
"คุณนับทั้งสวยและเก่งขนาดนี้ใครได้ไปเป็นภรรยาต้องโชคดีมากแน่ๆ ค่ะ"
"ชมกันเกินไปแล้วแก้ว" นับดาวเขินจนหน้าแดงเธอไม่ค่อยชินเวลามีคนชมเพราะตอนเด็กเธออ้วนจ้ำม่ำมีแต่คนล้อเสียมากกว่า
"คุยอะไรกันครับสองสาว" ตะวันเปิดประตูร้านเข้ามาเห็นสองสาวกำลังคุยกันน่าสนุกจึงมาร่วมผสมโรงด้วย
"กำลังคุยเรื่องเจ้าบ่าวในอนาคตของคุณนับกันค่ะ" แก้วตาเอ่ยอย่างยิ้มๆ แต่คนที่ได้ยินยืนนิ่งก่อนจะแสร้งยิ้มแสดงความดีใจ
"พรุ่งนี้พี่คริณน่าจะถึงไทยช่วงเย็น นับไปรับพี่คริณด้วยกันไหม" ตะวันเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ยืนยิ้มหวานตาเป็นประกาย
"ไปค่ะ นับมีของขวัญต้อนรับพี่คริณกลับมาด้วยค่ะ" นับดาวดีใจออกนอกหน้าช่วงเวลาหลายสิบปีที่ไม่ได้เจอกันเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอได้เห็นการใช้ชีวิตของเขาผ่านทางโซเชียลเท่านั้น
"พี่คริณต้องดีใจแน่ๆ ที่นับไปรับ"
"จริงเหรอคะ" เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะลืมเธอไปหรือยัง แต่เธอไม่เคยลืมเรื่องราวของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขายังคงเป็นคริณคนเดิมที่อยู่ในใจของเธอเสมอ
ตะวันทำได้แค่ยืนหน้าซึม ตอนนี้คนสำคัญของเธอกำลังจะกลับมา เขาคงกลายเป็นเพียงแค่คนที่ถูกเมิน หน้าที่พี่ชายจำเป็นคงจะหมดไป นับดาวคงไม่ต้องการเขาอีกแล้ว
"คุณตะวันคะ"
"ครับ" ตะวันที่มัวแต่ยืนเหม่อรีบขานรับเมื่อถูกเรียก
"จะเก้าโมงครึ่งแล้วไม่ไปทำงานเหรอคะ" แก้วตาเอ่ยเตือนพร้อมกับชี้ไปที่นาฬิกาบ่งบอกเวลาไปทำงานของตะวัน
"ชะ..ใช่ต้องไปทำงานสินะ" ตะวันเรียกสติกลับมาไม่ให้เป็นที่สงสัย เขายืนมองนับดาวที่สีหน้าบ่งบอกถึงความสุขก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"เฮ้อ แกควรดีใจกับนับสิ ไอ้ตะวัน" ชายหนุ่มเตือนสติตัวเอง เขาควรดีใจที่คริณกลับมาเพราะนับดาวจะได้มีความสุข สิ่งที่เขาอยากเห็นในทุกวันคือรอยยิ้มของเธอ
