บท
ตั้งค่า

การกลับมาของคริณ

[สนามบิน]

ผู้คนขวักไขว่เต็มไปทั่วสนามบิน มีทั้งคนที่กำลังเดินทางไปและคนที่กำลังเดินทางกลับมา นับดาวส่งสายตามองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างใจจดใจจ่อกลัวจะคลาดสายตากับคนที่เธอรอมานานนับสิบปี

"ดอกไม้สวยจังเลยจ้ะหนูนับดาว" วาลินผู้เป็นแม่ของคริณและยังเป็นเพื่อนสนิทของแม่นับดาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นช่อดอกไม้ในมือของนับดาว

"ขอบคุณค่ะคุณป้า นับทำมาให้พี่คริณค่ะ" นับดาวตั้งใจจัดช่อดอกไม้นี้มาเพื่อรอต้อนรับคริณกลับบ้าน ช่อดอกไม้ประณีตที่ถูกบรรจงจัดด้วยความเอาใส่ใจของเธอ

"ตาคริณต้องชอบแน่ๆ จ้ะหนูนับ" วาลินยิ้มหวานส่งให้หญิงสาว ผู้เป็นลูกสาวของเพื่อนที่สนิทกันมานาน นับดาวเป็นเหมือนลูกสาวอีกคนของเธอเพราะเห็นและเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กๆ

"คุณแสงโทรตามลูกสิคะทำไมป่านนี้ยังไม่มา" วาลินเอ่ยบอกกับสามีที่ยืนไม่รู้ร้อนรู้หนาว แสงหรืออาทิตย์อดีตชายที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ผู้เป็นพ่อของคริณ

"ใจเย็นๆ ก่อนสิลิน ลูกอาจจะกำลังมาก็ได้" อาทิตย์คอยพูดให้ภรรยาคนสวยใจเย็น เขารู้ว่าวาลินคิดถึงลูกชายมากถึงจะไปหาลูกปีละสองครั้งแต่คนเป็นแม่ก็ยังไม่หายคิดถึง

"ตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่ตะวัน" นับดาวมองมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ จึงรีบเช็ดกับกระโปรงตัวสวย เธอไม่ได้เจอคริณมาสิบสามปีไม่แปลกใจที่หญิงสาวจะรู้สึกตื่นเต้น

"เหงื่อออกหมดแล้ว" ตะวันค่อยๆ เช็ดเหงื่อบนใบหน้าสวยด้วยความอ่อนโยนไม่นึกรังเกียจแม้แต่น้อย สายตาคมคอยลอบมองคนข้างๆ ไม่วางตา หากวันนี้เป็นเขาที่กลับมานับดาวก็คงไม่ดีใจถึงเพียงนี้

"คริณ ทางนี้ลูก" วาลินตะโกนเรียกลูกชายเสียงดังทันทีเมื่อเห็นคริณลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตกำลังเดินมาทางที่เธออยู่

"คิดถึงจังเลยครับ" ชายหนุ่มโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ทันควันด้วยความคิดถึง

"กลับบ้านเราแล้วนะลูก" อาทิตย์ตบบ่าลูกชายที่เมื่อก่อนตัวเล็กนิดเดียวแต่ตอนนี้โตขึ้นจนแทบจำไม่ได้ ครั้งล่าสุดที่ไปหาคริณยังไม่ได้ตัวโตถึงขั้นนี้

"ครับพ่อ อยากกินอาหารฝีมือของแม่ใจจะขาดแล้วครับ" คริณทำหน้าเป็นเด็กน้อยอ้อนผู้เป็นแม่คนสวยที่ในอดีตเป็นถึงนางเอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย

"ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนเลย" คุณแม่คนสวยบ่นอุบอิบเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าให้กับความขี้อ้อนของลูกชาย

"ไม่ทักทายกันเลยนะครับพี่" ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยทักคนที่โตกว่าและยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาอีกด้วย

"คิดถึงจังเลยไอ้น้องชาย" คริณเดินเข้าไปโอบไหล่ตะวันอย่างสนิทสนม ทั้งคู่โตมาด้วยกันถึงคริณจะไปเรียนต่อต่างประเทศแต่ก็ยังติดต่อกับตะวันอยู่เสมอ

"ครับๆ ทักผมแล้วอย่าลืมทักนับดาวด้วยสิครับ" ตะวันจับพี่ชายหันไปหาหญิงสาวอีกคนที่ยืนก้มหน้าก้มตามองพื้นด้วยความประหม่า

"ยะ..ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ" นับดาวก้มหน้ายื่นช่อดอกไม้ส่งให้เขา คริณจึงรับมาด้วยความมึนงง

"ขอบใจนะ"

"ค่ะ" หญิงสาวเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้กับเขา คริณนิ่งอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงจ้ำม่ำในอดีตโตขึ้นจะสวยสะพรั่งได้ขนาดนี้

"จ้องน้องเสียนานเลยลูก น้องเขินหมดแล้ว" คริณรีบสะบัดหัวเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ทำให้เขาได้สติขึ้นมา

"ผมก็แค่ตกใจน่ะครับ นับดาวโตขึ้นแล้วสวยจนจำไม่ได้เลย" ชายหนุ่มทำปากหวานส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองที่หญิงสาวร่างบางน่าทะนุถนอม ส่วนคนตัวเล็กพอได้ยินคำชมก็รีบก้มหน้าไม่ให้เขาเห็นแก้มแดงๆ ของเธอ

"กลับกันเลยไหม จะได้ไปกินมื้อเย็นกัน" อาทิตย์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับชวนตะวันกับนับดาวให้ไปด้วยกัน

"อ้อ เดี๋ยวก่อนครับทุกคนพอดีมีเพื่อนของผมมาด้วย"

"เพื่อน คนไหนล่ะลูก" วาลินขมวดคิ้วเพราะลูกชายไม่ได้บอกก่อนว่ามีเพื่อนตามมาด้วย

"รูมเมทผมเองครับ นั่นไงมาพอดี" ชายหนุ่มชี้ไปทางหญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินลากกระเป๋าใบโตมาทางเขา นับดาวหันมองตามที่คริณชี้แล้วได้แต่ยืนอึ้งตะลึงงัน

"ขอโทษที่ช้าฉันเข้าห้องน้ำอยู่" ไม่ใช่แค่นับดาวที่อึ้ง แม้แต่พ่อแม่ของเขาก็อึ้งเช่นกัน ที่คริณบอกว่ารูมเมททุกคนคิดว่าเป็นผู้ชายไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิง

"นี่ธิชาครับ พ่อกับแม่คงไม่เคยเจอ" คริณแนะนำหญิงสาวให้ทุกคนรู้จัก ธิชาจึงยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน

"สวัสดีจ้ะ แม่ไปหาตาคริณบ่อยๆ ทำไมไม่เคยเจอเลยล่ะ" วาลินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอไปหาลูกปีละสองครั้งแต่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกอยู่ร่วมบ้านกับรูมเมทผู้หญิง

"ก็พ่อกับแม่มาหาผมตอนที่ธิชาไปเรียนนี่ครับเลยไม่มีโอกาสได้เจอกันสักที" ชายหนุ่มอธิบายให้ทั้งสองท่านเข้าใจ อาทิตย์พยักหน้าน้อยๆ เพราะรู้ว่าลูกชายคงโตพอที่จะตัดสินใจอะไรได้เองแต่วาลินยังคงขมวดคิ้ว

"ดอกไม้สวยจังเลยคริณ" ธิชาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดอกไม้ในมือของคริณ

"อยากได้เหรอเอาไปสิ" ชายหนุ่มส่งช่อดอกไม้ให้คนข้างๆ โดยไม่ได้ถามความรู้สึกของคนที่ตั้งใจทำมาให้เขาแม้แต่น้อย

"ให้จริงเหรอคริณ ขอบคุณนะสวยจัง" ธิชารับดอกไม้มาถือพร้อมกับเอ่ยชมไม่ขาดปาก ส่วนนับดาวทำได้แค่มองตาละห้อย ดอกไม้ที่เธอตั้งใจจัดให้เขาหลายชั่วโมงแต่เขาแทบไม่ได้สนใจเลย

"น้องนับอุตส่าห์ทำให้นะ คริณจะให้คนอื่นได้ยังไง" เป็นวาลินที่เอ่ยปรามกับสิ่งที่ลูกชายทำโดยไม่รู้ตัว

"ไม่เป็นไรค่ะป้าลิน" นับดาวรีบโบกไม้โบกมือพัลวัน ถึงจะเสียใจอยู่บ้างแต่ในเมื่อให้เขาไปแล้วเขาจะให้ใครต่อก็สิทธิ์ของเขา

"แล้วทำไมนายไม่บอกว่าน้องเขาทำมาให้นาย" ธิชาส่งดอกไม้คืนแต่คริณกลับไม่ยอมรับ

"เอาไปเถอะ ฉันก็ไม่ค่อยชอบดอกไม้อยู่แล้ว" ชายหนุ่มตอบไปตามความจริง แต่เขาจะรู้หรือเปล่าว่าบางอย่างก็ไม่ควรพูดความจริงเพราะมันทำให้คนที่ตั้งใจทำให้เสียใจ

"ไปกันเถอะครับหิวแล้ว" คริณเดินนำหน้าไปพร้อมกับธิชา นับดาวได้แต่มองทั้งสองคนที่ดูสนิทกันแล้วได้แต่อิจฉา

"พี่ตะวันคะ" นับดาวดึงชายเสื้อของพี่ชายแสนดีเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินไป

"ว่าไง"

"นับคงต้องขอตัวกลับก่อน ฝากขอโทษป้าลินกับลุงแสงด้วยนะคะ" นับดาวส่งยิ้มจางๆ ให้คนตรงหน้า หากเธอไปเธอก็คงกลายเป็นส่วนเกินและคริณก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจเธอเลยสักนิด

"ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง" ตะวันอาสาไปส่งเขาเองก็ไม่ได้อยากจะไปกินข้าวกับทุกคนอยู่แล้วถ้าไม่มีนับดาวไปด้วย

"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ตะวันไปกินข้าวเถอะค่ะ"

"ไม่เอาหรอก ให้ครอบครัวเขาอยู่ด้วยกันดีกว่า เราไปหาอะไรทำแก้เบื่อกันดีไหม" ตะวันยีผมคนตัวเล็กเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน เขารู้ว่านับดาวเสียใจที่คริณพาผู้หญิงอีกคนกลับมาถึงจะบอกว่าเป็นรูมเมทกันแต่ความสนิทสนมของทั้งสองคนทำให้เธอได้แต่มองด้วยความน้อยใจ

เธอไม่ได้เจอเขาตั้งสิบกว่าปี จะเอาอะไรไปสู้กับคนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน เธอรู้สึกว่าตัวเองแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม คำสัญญาวัยเด็กคงต้องทำใจลืมมันไปเสียแล้ว คำสัญญาจะมีค่าอะไรถ้าคนให้คำมั่นไม่เคยจดจำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel