คนที่เฝ้ารอ
[ร้านดอกไม้ ND]
หญิงสาวร่างบางน่าทะนุถนอมผู้เป็นเจ้าของร้านดอกไม้ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือการจัดดอกไม้และความสวยของเจ้าของร้าน
กริ๊ง เสียงประตูร้านถูกเปิดโดยคนที่มาเยือนทำให้หญิงสาวรีบวิ่งออกมาต้อนรับ
"สวัสดีค่ะ..พี่ตะวัน" เสียงสดใสเอ่ยชื่อคนที่เดินเข้ามาในร้านซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เขาคือ..ตะวัน พี่ชายแสนใจดีที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
"ทำไมวันนี้อยู่ร้านคนเดียวล่ะนับ" ตะวันมักจะแวะมาหานับดาวที่ร้านทุกวันก่อนไปทำงาน เขาเป็นช่างภาพมืออาชีพและค่อนข้างมีชื่อเสียง
"วันนี้แก้วตาขอลาครึ่งวันเช้าน่ะค่ะ เห็นว่าต้องพาลูกพี่สาวไปสมัครเรียน" นับดาวเอ่ยอย่างยิ้มๆ เธอเป็นผู้หญิงอ่อนโยนราวกับดอกไม้ที่อยู่ในร้าน ความสวยของเธอทำให้ใครหลายคนจ้องมองราวกับถูกมนต์สะกดหนึ่งในนั้นก็คือตะวัน
"แล้วจะไม่เหนื่อยเกินไปเหรอนับทำคนเดียวจะไหวไหม" ตะวันเตรียมพับแขนเสื้อเพื่อเข้ามาช่วยเธอจัดช่อดอกไม้ให้ลูกค้าที่มีออเดอร์ไม่ต่ำกว่าห้าสิบช่อต่อวัน
"ไหวค่ะ แค่จัดดอกไม้เองค่ะ พี่ตะวันต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอคะ"
"งานพี่ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก" ตะวันสามารถทิ้งงานเพื่ออยู่ช่วยนับดาวได้โดยไม่ต้องคิด แต่นับดาวมองเขาเป็นพี่ชายที่ใจดีมาตั้งแต่สมัยเด็กแม้เขาจะอยากเป็นมากกว่าพี่ชายของเธอก็ตาม
"โธ่ พี่ตะวันคะนับไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะงานแค่นี้นับทำได้ค่ะ" นับดาวไม่อยากถูกมองว่าอ่อนแอทั้งที่แค่งานจัดดอกไม้เธอสามารถทำได้สบาย
"แน่ใจนะ"
"แน่ใจค่ะ" นับดาวส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้าที่ดูแลเธอมาโดยตลอด
"มาพี่ช่วยก่อน" ตะวันยังคงทำตามใจตัวเอง เขาคือคนที่จัดดอกไม้สวยๆ กับนับดาวอาจเป็นเพราะมาช่วยเธออยู่บ่อยๆ จนได้ความชำนาญติดตัวไปด้วย
"เอาแต่ใจอีกแล้วนะคะ"
"ก็ยังไม่ถึงเวลางานนี่นาอีกตั้งชั่วโมง" ตะวันเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน เขาเป็นช่างภาพค่าตัวหลักแสนที่ไม่เคยต้องง้อใครมีแต่ลูกค้าที่ต้องมาขอร้องอ้อนวอนให้เขารับงาน
"พี่ตะวันก็เป็นแบบนี้ทุกที" นับดาวส่ายหน้าให้เขา ตะวันคือคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอเสมอ ตอนเด็กนับดาวค่อนข้างขี้แยและอวบอ้วนกว่าเด็กวัยเดียวกันทำให้โดนเพื่อนในห้องล้อเลียนอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ได้พี่ชายคนนี้ยื่นมือมาช่วยทุกครั้ง
"พี่ตะวันไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม"
"เหมือนเดิมยังไง" ตะวันเงยหน้าจากดอกไม้ขึ้นมาสบตาคนตรงหน้า
"ก็ใจดี อ่อนโยน อย่างกับเทพบุตรมาเกิด" นับดาวพูดไปตามความเป็นจริงทำให้คนได้ยินถึงกับเขินหน้าแดง
"พูดแบบนี้พี่เขินเลย" ชายหนุ่มเบนหน้าหนี ถูกผู้หญิงที่ชอบชมต่อหน้าขนาดนี้ไม่ให้เขินได้อย่างไร
"คิกๆ หล่อขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟนล่ะคะ จะอยู่ขึ้นคานเหรอคะ" นับดาวแกล้งถามเพราะไม่เคยเห็นตะวันคบใครจริงจังเสียที
"เดี๋ยวเถอะเรา..ว่าแต่นับรู้ข่าวพี่คริณหรือยัง" ตะวันทำชี้หน้าขู่อีกคนอย่างไม่จริงจังก่อนจะเอ่ยขึ้นถึงลูกพี่ลูกน้องที่ไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่มัธยมไม่ยอมกลับไทยอีกเลยจนถึงทุกวันนี้
"พี่คริณทำไมเหรอคะ" หญิงสาวตาโตรีบถามด้วยความตกใจ
"เห็นป้าลินบอกว่าจะกลับไทยอาทิตย์หน้านับไม่รู้เหรอ" ตะวันนึกสงสัยเพราะคิดว่านับดาวรู้เรื่องนี้แล้ว
"ไม่ค่ะ พี่คริณไม่ตอบเมลของนับตั้งนานแล้วค่ะ" หญิงสาวทำหน้าซึมเธอส่งเมลหาเขาทุกเทศกาลแต่ก็ไร้การตอบกลับจากเขาตลอด แม้แต่ในวันเกิดของเขาที่เธอส่งไปอวยพรเขาก็ยังไม่คิดจะตอบกลับ
"พี่คริณคงไม่ว่างแหละ" ตะวันพยายามปลอบใจไม่ให้อีกคนเศร้า ตะวันเองก็ไม่ได้เจอคริณอีกเลยมีเพียงได้คุยกันผ่านวิดีโอคอลเท่านั้นเพราะอีกคนไม่ยอมกลับไทยท่าเดียวจนต้องถูกผู้เป็นแม่บังคับให้กลับ
"คงงั้นมั้งคะ" นับดาวแกล้งแสร้งยิ้ม เธอหลอกตัวเองมาหลายปีว่าเขาคงไม่ว่างจริงๆ หรือเพราะเขาไม่อยากคุยกับเธอกันแน่ แล้วเขาจะจำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอได้หรือเปล่า
"พี่เชื่อว่าพี่คริณไม่ลืมนับหรอก" ตะวันลูบผมนับดาวด้วยความอ่อนโยน
"หวังว่าแบบนั้นนะคะ" นับดาวกลัวใจเขาเหลือเกิน กลัวเขาจะลืมว่ามีเธอที่รออยู่
"เชื่อใจพี่คริณหน่อยสิ" ตะวันช่วยให้กำลังใจเธอ แม้จะอยากเป็นมากกว่าพี่ชายแต่เขาไม่อาจเปลี่ยนใจเธอได้ เพราะรู้ว่าในใจของนับดาวมีแค่คริณคนเดียว
"คิดถึงเมื่อก่อนนะคะ ตอนที่พวกเราอยู่พร้อมหน้ากัน"
ทั้งคริณ ตะวันและนับดาวทั้งสามคนเคยสนิทกันมากช่วงที่เป็นเด็ก พ่อแม่ของพวกเขาชอบนัดเจอกันทำให้ทั้งสามคนสนิทกันไปโดยปริยาย แต่แล้วคริณต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทำให้ทั้งสามคนไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกเลย
คริณเคยให้สัญญากับนับดาวว่าถ้าเขากลับมาจะให้นับดาวเป็นเจ้าสาวของเขา นับดาวจดจำคำนั้นได้ดีและไม่เคยลืมคำพูดของเขาเลย แม้ในตอนนั้นเธอยังเด็กก็ตาม
"พี่ไม่ได้ลืมนับจริงๆ ใช่ไหมคะ" นับดาวมองรูปเธอกับคริณและตะวันที่เคยถ่ายด้วยกันเมื่อหลายสิบปีก่อน เธอคิดถึงเขามากไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เธอเคยคิดที่จะไปหาเขา แต่สุดท้ายก็ต้องหยุดความคิดแล้วทำได้แค่รอเขากลับมา
