แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
ตะวันอาสาขับรถมาส่งนับดาวที่บ้าน แต่ตลอดทางเธอได้แต่เงียบไม่พูดไม่จา สายตาสวยทอดมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย
"เป็นอะไรนับ" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับวางมือที่ศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา
"ปะ..เปล่าค่ะ" นับดาวรีบปฏิเสธเธอไม่อยากทำให้ตะวันไม่สบายใจเพราะเขามักจะทุกข์ใจแทนเธออยู่ตลอด
"คิดมากเรื่องพี่คริณใช่ไหม"
"พี่ตะวันรู้เหรอคะ" นับดาวทำหน้าตกใจไม่คิดว่าเขาจะมองเธอออกขนาดนี้
"พี่อยู่กับนับมาตั้งแต่ห้าขวบนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ล่ะ" เพราะในสายตาของเขามีแค่นับดาวมาตลอด แต่ในสายตาของเธอนั้นมีแต่คริณ
"พี่คริณเขาคงลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับนับแน่เลยค่ะ" ใบหน้าสวยก้มหน้าสลด เธอตั้งใจรอเขามาสิบสามปีแต่สิ่งที่เขาทำกับเธอวันนี้ทำให้เธอปวดหนึบในหัวใจ
"ให้เวลาพี่คริณหน่อยนะ" ตะวันไม่อยากพูดให้นับดาวช้ำใจ คริณไม่ใช่คนที่จะรักษาสัญญาเขาแค่สัญญาเพื่อให้ทุกอย่างจบๆ ไปเท่านั้น
"รอมาตั้งสิบสามปีก็รอมาแล้ว ทำไมจะรอไม่ได้ล่ะคะ" นับดาวแสร้งทำเป็นยิ้ม ตะวันได้แต่ทำหน้าซึม นับดาวรอคริณอย่างมีความหวังมาตลอดจนไม่เปิดใจให้ใคร
ตะวันมองหน้านับดาวแล้วได้แต่ถอดใจ เธอไม่เคยมองเขาเป็นอย่างอื่นนอกจากพี่ชายที่แสนดี เขาแค่อยากให้เธอลองมองมาที่เขาสักครั้ง ผู้ชายที่ชื่อตะวันคนนี้พร้อมจะดูแลเธอไปตลอดไม่ปล่อยให้เธอต้องรออีกต่อไป
"แต่พี่คริณกับคุณธิชาดูสนิทกันมากเลยนะคะ" คนตัวเล็กเริ่มก้มหน้าสลดอีกครั้ง แค่ได้เห็นทั้งสองคนที่สนามบินเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ทำให้เธอรู้ว่าทั้งคู่สนิทกันมาก ส่วนเธอก็กลายเป็นแค่คนไร้ตัวตนในสายตาของเขาไปโดยปริยาย
"ไม่ต้องคิดมากหรอก ทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน"
"จริงเหรอคะ นับรู้สึกเหมือนแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเลยค่ะ" ตอนนี้เธอกับคริณเหมือนเป็นแค่คนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น เขาจะรู้ไหมว่ามีผู้หญิงบ้าๆ คนหนึ่งรอเขามาตลอดสิบกว่าปี
"อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นสิ นับไม่ได้แข่งกับใครสักหน่อย"
"ต่อให้แข่งก็แพ้ค่ะ" นับดาวหน้าสลด เธอถอดใจตั้งแต่วันแรกที่เขากลับมา ภาพที่วาดฝันว่าเขาจะดีใจที่ได้เจอเธอเป็นเพียงแค่ฝันของเธอคนเดียว
"ไม่ทำหน้าแบบนี้สินับไม่เชื่อใจพี่คริณเหรอ"
"เชื่อค่ะ แต่นับเสียใจที่วันนี้พี่คริณทำเหมือนกับว่านับเป็นแค่คนรู้จักของเขา" ตะวันสบเข้ากับดวงตาสวยที่มีน้ำตาเอ่อคลอ ใจของเขากระตุกวูบ วันนี้ที่คริณทำกับนับดาวเกินไปจริงๆ แถมยังพูดไม่ถนอมน้ำใจเธอเลยสักนิด
"เชื่อพี่เถอะยังไงพี่คริณก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนับ" เขาจะช่วยเธอเองต่อให้ต้องเป็นคนที่เจ็บ แต่เขาไม่อาจเห็นนับดาวร้องไห้เสียใจเพราะคริณได้อีกแล้ว
"จริงเหรอคะ" นับดาวเหมือนมีความหวังขึ้นมา พลางคิดเข้าข้างตัวเองในใจว่าเขาคงจะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางจึงยังทำตัวไม่ถูก
"อย่าร้องไห้อีกเลยนะ นับดาวเวลายิ้มน่ารักกว่าตั้งเยอะ" ตะวันเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนใสของอีกคนเบาๆ นับดาวกลับมายิ้มร่าอีกครั้งเมื่อได้กำลังใจจากพี่ชายที่แสนดี
ทางฝั่งครอบครัวสุขสันต์ที่กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันในรอบหลายปี วาลินผู้เป็นแม่นั่งมองลูกชายที่มัวแต่บริการหญิงสาวที่พามาด้วยจนลืมไปว่าบนโต๊ะอาหารมีพ่อกับแม่นั่งหัวโด่อยู่ตรงหน้า
"คริณไม่คิดจะตักให้แม่กับพ่อบ้างหรือไง" เสียงหวานของผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกชายที่ดูแลคนข้างๆ เกินหน้าเกินตา
"ครับๆ นี่ครับคุณแม่คนสวย"
"แล้วหนูธิชาจะกลับบ้านวันไหนล่ะจ๊ะ" วาลินถามหญิงสาวที่ลูกชายพามาด้วย
"คงต้องรอให้คุณแม่จัดการเรื่องบ้านให้เสร็จก่อนน่ะค่ะ ระหว่างนี้ธิชาคงต้องอยู่คอนโดแถวนี้ไปก่อน" ธิชาเอ่ยอย่างยิ้มๆ ครอบครัวของเธอกำลังจะซื้อบ้านหลังใหม่ ช่วงนี้เธอจึงต้องอาศัยอยู่แถวนี้ไปพลางๆ ก่อนที่บ้านจะเรียบร้อย
"จะไปอยู่คอนโดทำไม บ้านฉันไงมีห้องเยอะแยะมาอยู่บ้านฉันก็ได้" คริณเสนอความคิดแต่ไม่ค่อยถูกใจผู้เป็นแม่เสียเท่าไร
"ไม่เอาฉันเกรงใจ อีกอย่างช่วงนี้อยากหางานทำไปพลางๆ ด้วยน่ะ" หญิงสาวปฏิเสธเพราะเกรงใจ และไม่อยากถูกมองว่าต้องพึ่งพาแต่คริณ
"งั้นมาทำงานที่บริษัทฉันสิ ตำแหน่งเลขายังว่างอยู่พอดีใช่ไหมครับพ่อ" คริณหันไปถามผู้เป็นพ่อที่นั่งเงียบอยู่นาน
"หะ..อ๋อใช่ๆ" อาทิตย์ที่มัวแต่นั่งเหม่อมองภรรยาคนสวยรีบตอบกลับด้วยความตกใจ เขาชอบแอบมองภรรยาตนเองอยู่บ่อยๆ เพราะวาลินเป็นคนที่สวยจนหยุดมองไม่ได้
"เห็นไหมไปทำงานกับฉันสิ" คริณยิ้มดีใจออกนอกหน้า แต่มีชายอีกคนที่โดนสายตาดุๆ ของภรรยามองขวางเข้าให้
"อย่าไปบังคับหนูธิชาสิคริณ" วาลินส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวตรงหน้า ไม่ใช่เธอไม่ชอบธิชาแต่เธอแค่สงสารนับดาวที่รอคริณอย่างใจจดใจจ่อแต่แล้วลูกชายของเธอกลับสนใจผู้หญิงคนอื่นมากกว่า
"ไหนๆ ก็ต้องหางานอยู่แล้วก็ทำด้วยกันไปก่อน ถ้าได้งานใหม่ค่อยว่ากันก็ได้" คริณยังไม่ยอมแพ้เขาอยากให้ธิชามาทำงานด้วยกัน
"ถ้างั้นก็ได้ แต่ฉันจะรีบหางานใหม่ให้ได้นะ" ธิชายอมตกลง เพราะเธอเองก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินเช่นกัน
"คุณแสงนี่ล่ะก็ไม่รู้อะไรบ้างเลยนะ" เมื่อลูกชายกับเพื่อนลุกไปเข้าห้องน้ำวาลินจึงเริ่มเอ็ดสามี
"อ้าว ฉันทำอะไรผิดล่ะลิน" อาทิตย์ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดภรรยาถึงได้โกรธแบบนี้
"คุณดูไม่ออกหรือไงคะ ว่าลูกชายเราคิดยังไงกับหนูธิชา" วาลินค่อนแคะสามีที่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย
"ฉันเป็นผู้ชายเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ แต่ลูกคิดอะไรก็เรื่องของเขาสิ คริณโตแล้วนะลิน" อาทิตย์พูดไปจ้องภรรยาคนสวยไปพลางไม่วางตา
"แล้วนับดาวล่ะคะ คุณก็รู้นี่คะว่านับดาวรู้สึกยังไงกับคริณ" วาลินเข้าใจหัวอกคนแอบรักได้ดีเพราะเธอก็เคยแอบรักอาทิตย์ข้างเดียวเช่นกัน
"หรือว่าจะให้คริณแต่งงานกับนับดาวดีคะ" วาลินเอ่ยอย่างไม่ทันคิด เพราะคิดว่าวิธีนี้จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด
"ลิน เราไม่เคยบังคับลูกนะ เขาจะเลือกอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา ถ้าไปบังคับแล้วตอนจบมันไม่ได้สวยเหมือนพวกเราละคนที่เสียใจก็คือนับดาวนะ" อาทิตย์พยายามอธิบายให้ภรรยาเข้าใจ
เขากับเธอก็เริ่มต้นไม่ดีนัก ทั้งคู่แต่งงานเพื่อกลบข่าวฉาวทั้งที่ไม่เคยรักกันมาก่อน แต่สุดท้ายอาทิตย์ก็พ่ายแพ้ให้กับวาลินจนได้
"ก็จริงนะคะ ลินคงคิดน้อยไปสงสารก็แต่หนูนับรายนั้นเฝ้ารอคริณมาตั้งสิบสามปี" วาลินทำหน้าซึม นึกถึงความพยายามของนับดาว ถึงจะไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้นับดาวรอคอยคริณมาตลอดแต่ทุกคนรู้ดีว่าในใจของนับดาวมีแต่คริณ
