บทที่ 2-2
“แล้วคุณจะเอาอย่างไร คุณต้องการอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่หย่า” ชายหนุ่มย้ำคำเดิมหนักแน่น
“จะต้องให้ฉันทำอย่างไรคะ คุณถึงจะยอมเซ็นใบหย่า” เมธาวีถามอย่างตรงไปตรงมา
พรตไม่ตอบแต่กลับก้าวเดินช้าๆ ไปรอบตัวเธอ ใช้สายตามองพิจารณาร่างกายของเมธาวีอย่างพินิจพิเคราะห์
“ทำไมเธอถึงต้องการหย่า” เขาเอ่ยถามคำแรก
“ฉันมีเหตุผลส่วนตัว และมีเรื่องต้องจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”
“อ้อ เหตุผลส่วนตัว เรื่องต้องจัดการ เหตุผลอะไร เรื่องอะไรล่ะ ทำไมต้องส่วนตัว ทำไมถึงบอกสามีตามกฎหมายอย่างฉันไม่ได้” เขาย้อนถามด้วยท่าทีกวนประสาทไม่เปลี่ยน
“ก็บอกแล้วไงคะว่าเรื่องส่วนตัว ฉันอยากรีบจัดการให้เรียบร้อย” หญิงสาวไม่อยากอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น
“ไอ้เรื่องส่วนตัวที่ว่าเนี่ย คือการมีผู้ชายอื่นงั้นซิ” พรตถามตรงประเด็น เมธาวีตกใจคำพูดของเขาเล็กน้อย
“อย่าคิดว่าฉันมองไม่เห็นหรือไม่รู้พฤติกรรมของเธอ จะหย่าเพราะมีคนอื่นที่ถูกใจก็น่าจะบอกกันดีๆ ไม่ใช่เอาเหตุผลไร้สาระมาอ้างแบบนี้”
“คุณพรต ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด เรื่องหย่าเป็นความต้องการของฉันไม่มีใครมาเกี่ยวข้อง ฉันต้องการคืนอิสระให้คุณและต้องการมีอิสระของตัวเอง สามารถทำในสิ่งที่อยากทำโดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคุณอีก”
“หมายถึงการคบผู้ชายอื่นได้อย่างออกหน้าออกตางั้นเหรอ” พรตสวนทันควัน เมธาวีชักโกรธที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง
“ไม่ใช่เรื่องผู้ชาย แล้วคนอย่างฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายมาอยู่ในชีวิตตลอดไปด้วย”
“หรือว่าเธอชอบผู้หญิง” พรตแกล้งว่าไปอีกเรื่อง
“ไม่ใช่เรื่องผู้หญิงหรือผู้ชายอะไรทั้งนั้น ฉันอยากมีอิสระ อยากทำอะไรได้ด้วยตัวเอง และไม่อยากจะให้คุณต้องมารับผิดชอบชีวิตฉันด้วยความจำยอม” เมธาวีถอนหายใจเบาๆ
“เธออยากมีอิสระมากขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่กลัวหรือไงที่จะถูกเรียกว่าแม่ม่าย” เขาไม่เข้าใจเมธาวีเลยจริงๆ
ข่าวการแต่งงานของทั้งคู่เป็นที่รู้กันในสังคม ใครๆ ก็รู้ว่าเมธาวีคือภรรยาตามกฎหมายของนายพรตคนนี้ แต่จู่ๆ เธอกลับมาป่าวประกาศว่าต้องการเป็นอิสระ และเรียกร้องการหย่า นี่ใจคอจะไม่สนเลยหรือไงว่าคนอื่นจะมองตัวเองอย่างไร
“คนอื่นจะเรียกอย่างไรก็ช่าง ฉันไม่สน ฉันรู้แค่ว่าการหย่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันและคุณ และฉันก็คิดว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายมาดูแล โลกมันเปลี่ยนไปแล้วผู้หญิงสามารถดูแลตัวเองได้”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว” พรตพยักหน้าเบาๆ
“อยากเป็นโสด ไม่ต้องมีพันธะ เพื่อจะคบกับใครก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ ว่างั้นเถอะ”
เมธาวีไม่ตอบเพราะไม่อยากอธิบาย พรตจะเข้าใจอย่างไรก็เรื่องของเขา ขอแค่เซ็นเอกสารให้ก็พอ
“แต่แหม จะคบใครทั้งทีก็เอาที่มันดีกว่าฉันหน่อยไม่ได้เหรอ ฉันเสียหน้านะถ้าผู้ชายคนใหม่ของเธอด้อยกว่าฉันทุกด้าน” น้ำเสียงเขาเย้ยหยันในที
“คุณพูดอะไรของคุณ” เมธาวีงงหนักกว่าเดิม
“เอาเป็นว่าฉันรับรู้ว่าเธอไม่ต้องการมีฉันดูแล อยากมีอิสระเพื่อจะได้คบกับใครตามใจชอบ ฉันเข้าใจและเห็นใจเธอมาก แต่ฉันไม่หย่า” พรตเน้นคำว่า ‘ฉันไม่หย่า’ ชัดเจน
“คุณพรต” เมธาวีสุดจะทนเขาแล้วจริงๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่า ฉันไม่ใช่คนที่ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้ง่ายๆ ตอนเธอต้องการแต่งงงาน เธอก็ทำให้คุณย่าบังคับฉันให้แต่งงาน พอเธออยากจะหย่า เธอก็มาร้องแรกแหกกระเชิงหาเหตุผลมาอ้างขอหย่า เห็นฉันเป็นอะไร นึกอยากจะทำอะไรทำกับฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะเมธาวี” พรตตาวาวเป็นประกายจนเมธาวีรู้สึกกลัว
“อยากทำตัวเป็นผู้หญิงไม่แคร์สังคม ไม่แคร์ว่าใครจะว่าอย่างไร ไม่สนคำนินทา นั่นมันก็เรื่องของเธอ แต่ฉันสนและฉันจะไม่ยอมให้ใครมาหัวเราะเยาะเป็นอันขาดว่าเมียตัวเองไปคบผู้ชายอื่นที่ด้อยกว่า หรือมีคำถามว่าฉันบกพร่องตรงไหน”
“คุณพรต” เมธาวีถอยหลังทีละก้าวจนเกือบจะสุดประตูแล้ว เพราะพรตย่างเข้ามาหาอย่างช้าๆ ด้วยท่าทางที่เอาจริงเหลือเกิน
“ฉันไม่หย่าและเธอก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้อีก ถ้าฉันไม่เป็นคนอยากหย่าก่อน เธอก็ไม่สิทธิ์มาบอกว่าจะหย่า เข้าใจไหม”
“คุณพรต มันจะมากไปแล้วนะ ฉันแค่ต้องการให้คุณเซ็นเอกสาร เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางหูขวางตาคุณเนี่ย แค่นี้ทำไมคุณทำให้ไม่ได้”
“เพราะคนที่จะพูดคำนี้ก่อนคือฉันไม่ใช่เธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดคำนี้กับฉัน เข้าใจไหม เมธาวี” พรตโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ เมธาวีตกใจพยายามเบือนหน้าหนีแต่ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งแกล้งและจงใจให้ลมหายใจพัดผ่านที่ปลายจมูกของเธอ
“จะทำอะไรคุณพรต ปล่อยนะ” เมธาวีถามเสียงสั่นเมื่อปลายจมูกคมของพรตแนบลงมาที่ปลายจมูกของตน
“เธออาจจะน้อยใจที่ฉันไม่เคยทำหน้าที่สามีเลยสักครั้ง ก็เลยอยากประชดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉันใช่ไหม” เขาถามเสียงแหบพร่าขยับตัวเข้ามาใกล้เสียจนเมธาวีขยับไปไหนไม่ได้
“ฉันไม่เคยคิดอะไรทั้งนั้น ถอยออกไปได้แล้ว”
“บางทีถ้าเราเล่นตามน้ำที่คุณย่าต้องการแต่แรก มันอาจจะดีก็ได้ ฉันจะลองคิดดูใหม่ว่าควรทำไงดี”
“ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้สิ่งที่คุณควรทำคือหย่าให้ฉันซะ” เมธาวีเสียงแข็ง
“แหม ใจร้อนจริงๆ กลัวใครจะรอไม่ไหวหรือไง” เขายั่วประสาทขึ้นอีก
“พูดบ้าอะไรของคุณ ถอยไปไหน” หญิงสาวเอามือผลักหน้าอกของเขาออก แต่ไม่สะเทือนซ้ำพรตยังหัวเราะชอบใจอีกด้วย
“จะเล่นบทขับไล่ไสส่งให้ฉันเข้าหาหรือไง”
“คนบ้า ฉันไม่คิดสั้นๆ ทำอะไรอย่างนั้นแน่” เมธาวีชักจะหมั่นไส้เขามากขึ้นทุกทีแล้ว
“หรือว่าเธอต้องการที่จะ...” เขาใช้ปลายนิ้วไล้มาที่คางได้รูปเบาๆ ช้าๆ เมธาวีหน้าแดงด้วยความโกรธกับท่าทีหยามเกียรติเช่นนี้ของพรต
“ฉันไม่เคยคิดอะไรกับคุณแม้แต่นิดเดียว อย่าหลงตัวเองให้มากนัก” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างไม่หวั่นเกรง
“แน่ใจว่าเธอไม่ได้ต้องการฉันสักนิด” พรตโน้มใบหน้าลงมาหาอีก
“ไม่ แม้แต่จะคิด ฉันต้องการอิสระเท่านั้น” เมธาวีพูดชัดถ้อยชัดคำ พรตนิ่งไปเล็กน้อย เขาจ้องมองใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้
ดวงตา ริมฝีปาก แก้มสาว ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเป็นของนายพรตคนนี้ นี่ทำไมเขาถึงเพิ่งรู้สึกว่าวันนี้เมียตัวเองน่ามองเหลือเกิน ไม่ซิ ที่ผ่านมาพรตไม่เคยสนใจแม้แต่จะชายตาสักติด แต่พอได้อยู่ใกล้ ได้มองชัดๆ มันก็เพลินตาเพลินใจดีเหมือนกัน
“ปล่อยนะ” เมธาวีเสียงสั่นเมื่อพรตทำท่าจะโน้มใบหน้าลงมาอีก อีกนิดเดียวเท่านั้นริมฝีปากของเขาจะแนบประกบลงมาแล้ว
“ฉันไม่อยากจะปล่อย มีอะไรไหม” ไม่วายที่เขาจะกวนประสาท
“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ฉวยโอกาส ข่มเหงผู้หญิง” สารพัดที่เมธาวีจะคิดคำต่อว่าเขาได้ตอนนี้
“แหม ผู้ชายของคุณคงดีกว่าผมมากซินะ” จู่ๆ เขาก็ลอยหน้าลอยตาพูดถึงใครขึ้นมาอีก
“บอกแล้วไงว่า มันหมดยุคที่ผู้หญิงจะให้ผู้ชายมาดูแลปกป้อง ผู้หญิงมีความสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ และไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่ไม่ได้มีจิตใจหรือความรู้สึกที่จริงใจต่อเรา”
“จะพูดว่าผู้ชายคนอื่นจิตใจดีจริงใจต่อคุณ มากกว่าสามีตามกฎหมายอย่างผมงั้นซิ” พรตย้อนถาม
เมธาวีไม่ตอบ การเงียบของเธอทำให้พรตหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เมธาวีทำให้เขาเสียหน้าเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว คอยดูเถอะพรตไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ ผู้ชายหน้าไหนมันจะมาดีไปกว่าเขาได้อีก ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงผู้ชายที่อยู่ข้างล่าง
“ฉันขอยืนยันอีกครั้งว่าต้องการหย่า คุณกรุณาจัดการให้ด้วย ฉันจะขอบคุณมาก” เมธาวีเอ่ยอีกครั้ง พรตหมดอารมณ์เล่นสนุกแล้ว เขาขยับตัวออกห่างเล็กน้อยพร้อมสบตาเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ถ้าอยากจะหย่ามากนักล่ะก็ ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะหย่าขึ้นมาจริงๆ ซะ ไม่งั้นก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะเซ็นใบหย่าให้เธอง่ายๆ”
“ฉันจะทำทุกทางให้คุณยอมหย่า” เมธาวีเอ่ยอย่างมาดมั่น พรตหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วเอ่ยว่า
“แล้วฉันจะรอ”
โชคยืนงงที่เห็นพรตเดินลงมาจากข้างบน และยิ่งแปลกใจที่เห็นเมธาวีเดินตามลงมาไล่หลังกันไม่นานด้วยท่าทางหัวเสีย เสียงรถที่แล่นออกไปด้วยความเร็วทำให้โชครู้ว่าพรตกำลังโกรธ และเดาไม่ยากเลยว่าใครเป็นคนทำให้ชายหนุ่มอยู่ในอาการนั้น
“เกิดอะไรขึ้นคุณวี” โชคถามเมื่อเห็นเมธาวีหน้าบึ้งลงมา
“ไม่มีอะไรหรอก คนบ้าคงไม่ได้กินยาตามหมอสั่ง” เมธาวีพูดด้วยความโมโห
เธอโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ โกรธตัวเองที่ไม่รู้จักสู้เพื่อปกป้องไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น และโกรธที่คนทำผิดเดินลอยหน้าลอยตาลงมาเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ซ้ำเสียงรถเมื่อครู่ทำให้รู้ว่าเขาโกรธ จะโกรธใครก็ช่างแต่ตอนนี้เมธาวีโกรธพรตเต็มหัวใจแล้ว
“คุณพรตอยู่ที่ไหน” โชคถามลอยๆ เมธาวีสะดุ้งรู้สึกตัวจึงรีบบอก
“ไปเจอบนห้อง วีว่าเขาจงใจแกล้งให้เรารอ” หญิงสาวเดาว่าเป็นเช่นนั้นแน่
“แกล้งเหรอ” โชคฟังแล้วงง พรตจะทำอย่างนั้นไปทำไม แต่ก่อนที่เขาจะถามอะไรต่อเมธาวีก็เอ่ยว่า
“โชคไม่ต้องตามวีกลับอยุธยาหรอก วีฝากจัดการเรื่องเอกสารการหย่าให้เรียบร้อยด้วยแล้วกัน เขาไม่ยอมเซ็น พูดยังไงก็ไม่ยอม”
“แล้วคุณพรตบอกเหตุผลไหมว่าทำไมไม่หย่าให้” ชายหนุ่มอยากรู้เหตุผลมากกว่า
“บอก” เมธาวีตอบตามจริงแต่เลือกที่จะไม่พูด
“เหตุผลคืออะไร” คนฟังอยากรู้
“ช่างเถอะ เหตุผลไม่มีสาระของคนเอาแต่ใจ โชคช่วยทำธุระเรื่องนี้ให้วีหน่อย เรื่องที่อยุธยาวีจะจัดการเอง”
“เรื่องนี้ให้คุณท่านจัดการดีกว่าไหม ผมตามไปช่วยคุณวีที่อยุธยาดีกว่า เกิดว่าพวกนั้นไม่ทำตามที่พูด แล้ว...”
“วีดูแลตัวเองได้ ถ้าพวกนั้นไม่ทำตามที่พูดไว้ วีจะแจ้งตำรวจแล้วรีบบอกโชคดีไหม” เมธาวีสบตาชายหนุ่มแล้วเอ่ยต่อว่า
“โชคตามดูแลวีไม่ได้ตลอดหรอก วีบอกแล้วไงว่าดูแลตัวเองได้ อีกอย่างพวกนั้นคงไม่กล้าไม่รักษาคำพูดหรอก อย่าลืมซิว่าตัวต้นเรื่องไม่อยู่แล้วนะ”
“แต่ว่าถ้าพวกเขา...” โชคกำลังจะอ้าปากพูดแต่เมธาวียกมือห้ามไว้
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด วีทำให้คนอื่นลำบากมามากแล้ว ต่อไปวีจะดูแลตัวเอง จะไม่กลัว จะกล้ายอมรับความจริงและจะสู้มันให้ถึงที่สุด โชคจัดการเรื่องคุณพรตให้วีเถอะนะ”
“เอางั้นเหรอ” โชคลังเลเล็กน้อย ใจหนึ่งก็ห่วงเมธาวีกับปัญหา อีกใจก็รู้ว่าเรื่องที่เธอไหว้วานสำคัญไม่น้อย
“ตามนี้แหล่ะ ไม่ต้องห่วงวีดูแลตัวเองได้ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก”
โชคจำต้องทำตามที่เมธาวีขอร้อง หญิงสาวขับรถกลับอยุธยาเพียงลำพัง ในหัวมีแต่คำถามว่าทำไมพรตถึงไม่ยอมหย่า และต้องทำอย่างไรเขาถึงจะยอมหย่าให้แต่โดยดี
