ไม่ได้เรื่อง
ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าผู้คนเริ่มออกทำงานหาเงินแต่มีหนึ่งคนที่เพิ่งได้กลับบ้านหลังจากจัดปาร์ตี้ที่ผับจนเมาเละกลับมา
"ไอ้แดนถ้ามึงไม่นิ่งกูจะทิ้งมึงไว้หน้าบ้าน" ชายหนุ่มร่างสูงพยุงเพื่อนสนิทเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล เขาพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุดเพราะกลัวคนในบ้านจะตื่น
"ปาย ต่อกันโว้ย ยาวไปๆ"
"ยาวไปบ้านมึงสิ หุบปากไอ้แดน" เอ็ดเพื่อนทันทีเมื่อเพื่อนสนิทยังไม่ยอมเงียบจะไปต่อท่าเดียว คณาธิปผู้เป็นเพื่อนสนิทกับดนัททำให้มีกุญแจสำรองเข้าหลังบ้านจึงรีบไขเร็วๆ เพื่อพาเพื่อนไปส่งที่ห้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามีหน้าที่ตามเก็บศพของเพื่อนสนิทคนนี้อยู่เรื่อยตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
"เมาแอ้มาเลยนะคะ" ดลรวีที่กำลังจะไปซ้อมว่ายน้ำเอ่ยทักเมื่อเห็นพี่ชายกับเพื่อนพี่ชายกำลังเดินทุลักทุเลเข้าบ้าน
"น้องดา" คณาธิปสะดุ้งตัวโยนทั้งตกใจและดีใจที่ได้เห็นเธอจึงรีบปล่อยเพื่อนสนิทลงพื้นอย่างไม่สนใจไยดี
ตุ้บ! เสียงคนตัวโตไร้สติร่วงลงกับพื้นทันทีที่ถูกเพื่อนปล่อยทิ้ง
"เมาเละกลับบ้านอีกแล้ว เมื่อคืนหมดไปเท่าไหร่คะ" ดลรวีส่ายหน้าอย่างเอือมระอา มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเธอที่เห็นภาพแบบนี้เพราะพี่ชายเธอเวลาดื่มเหล้าก็ไม่มีคำว่าพอยิ่งโดนท้ายิ่งได้ใจดื่มไม่หยุด แถมยังจ่ายไม่ยั้งจนมีหลายครั้งที่โดนผู้เป็นแม่ยึดบัตรเครดิต
"ไม่เท่าไหร่หรอก" คณาธิปพยายามกลบเกลื่อนความจริงให้เพื่อน
"แปดหมื่นเบาๆ เอิ๊ก" คนเมาไร้สติตะโกนเสียงดังฟังชัดไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนสนิทกำลังแก้ตัวให้อยู่
"นี่! เลี้ยงคนทั้งร้านเหรอคะ" ดลรวีตาโตตกใจกับจำนวนเงินที่พี่ชายจ่ายไป
"เลี้ยงเด็ก" ดนัทยังคงนอนหลับตาเถียงน้องสาวฉอดๆ ด้วยความเมา
"เลี้ยงเด็ก แกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะไอ้ลูกตัวดี" ผู้เป็นแม่ที่บังเอิญเดินผ่านมาพอดีได้ยินเต็มสองรูหู เธอกำลังจะไปตามลูกชายที่ห้องแต่ได้ยินคนคุยกันที่หลังบ้านทำให้เปลี่ยนทิศทางการเดินแล้วก็ได้ยินเรื่องดีๆ ในตอนเช้าเสียได้
"คุณป้า สะ..สวัสดีครับ" คณาธิปรีบยกมือไหว้แม่ของเพื่อนทันควันอย่างเกรงกลัว
"สวัสดีจ้ะตาทอย เพิ่งพาไอ้ลูกตัวดีมาส่งสินะ"
"คะ..ครับ" คณาธิปรู้สึกเหมือนชะตาของเพื่อนจะขาดเสียแล้วเพราะดูสีหน้าแม่ของเพื่อนตอนนี้พร้อมเอามีดมาสับได้เลย
"ดาไปก่อนนะคะแม่" ดลรวีรีบปลีกตัวออกให้สองแม่ลูกจัดการกันเอง
"เดี๋ยวพี่ส่งนะน้องดา" คณาธิปเพื่อนแสนรู้งานรีบหาข้ออ้างออกไปจากตรงนี้อย่างเร็ว เขาถือว่าเขาทำดีที่สุดแล้วแต่ชะตาของเพื่อนวันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"ไอ้ลูกตัวดีนอนตรงนี้ไปแล้วกัน" คุณหญิงดาราฉายหันหลังเดินหนีลูกชายสภาพเมาเละเทะจนน่าเอือมระอา
แสงแดดในช่วงกลางวันตกกระทบทำให้คนที่เมาเริ่มได้สติ ดนัทขยี้ตาก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งมองรอบๆ อย่างมึนงง
"บ้านนี่หว่า แล้วทำไมนอนตรงนี้วะ" ดนัทมึนงงกับตัวเองที่นอนอยู่กับพื้นตรงบริเวณหลังบ้าน
"ตื่นแล้วเหรอ" เสียงผู้เป็นแม่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
"อรุณสวัสดิ์ครับแม่" ดนัทได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ก็คิดว่ายังเช้าอยู่
"อรุณสวัสดิ์ นี่แกคิดว่ากี่โมง ใส่บาตรด้วยไหมล่ะฉันจะได้ให้คนเตรียมของให้" คุณหญิงดาราฉายเอ่ยประชดประชันลูกชายตัวเองที่ไม่รู้เวลา
"โมโหอะไรใส่ผมเนี่ยครับแม่" ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วยีหัวตัวเองแรงๆ ให้ได้สติกว่าเดิม
"มันน่าโมโหไหมล่ะ ทำไมเมาเละกลับบ้านแบบนี้แล้วบ้านช่องหัดอยู่ให้มันติดบ้าง"
"แม่ครับผมจะสามสิบแล้วนะไม่ใช่เด็กแล้ว" ดนัทรู้สึกว่าตัวเองโตแล้วจึงไม่อยากให้แม่คอยเป็นห่วง
"ยังดีที่รู้ตัวเพราะฉะนั้นไปอาบน้ำอาบท่า ฉันจะพาไปหาหนูขวัญ"
"ใครครับ หนูขวัญ" ดนัทยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่เพราะชื่อที่แม่เอ่ยมาเขาไม่เคยได้ยิน
"เจ้าสาวของแกไง อย่าถามมากไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แล้วอย่าคิดหนีนะไม่งั้นแกกับฉันเห็นดีกันแน่" ผู้เป็นแม่ประกาศคำขู่ก่อนจะเดินไปนั่งทำความสะอาดเครื่องเพชรชุดโปรดต่อโดยไม่ได้สนใจลูกชายอีกต่อไป ชายหนุ่มเมื่อเห็นแม่มัวแต่สนใจอย่างอื่นจึงรีบย่องออกทางประตูหลังบ้านแล้วขับรถตัวเองออกไปทันที
"ตาแดน แกได้โดนดีแน่" คุณหญิงดาราฉายได้ยินเสียงรถของลูกชายแล่นออกไปอย่างเร็วก็โมโหจนควันแทบออกหูจึงรีบยกโทรศัพท์โทรหาสามีเรื่องการดูตัวทันที เธอไม่ยกเลิกการดูตัวกับลูกสาวของเพื่อนสามีแต่จะเร่งเวลางานแต่งให้เร็วขึ้นอีกด้วยทีแรกตั้งใจจะให้ลูกชายไปดูหน้าเจ้าสาวในอนาคตด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องเพราะเธอจะไม่รีรออีกแล้ว
