บังคับแต่ง
ท่านพิภพยื่นข้อเสนอให้ลูกสาวของตนแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนทำให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน ทีแรกท่านวิสุทธิ์เหมือนจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ยอมตกลงเมื่อได้เห็นรูปลูกสาวของเพื่อนที่ทั้งสวย ทั้งน่ารักแถมยังดูอ่อนโยนและเชื่อว่าลูกชายของตนเองต้องไม่กล้าขัดแน่นอน
"เป็นไงคะคุณได้ว่าที่ลูกสะใภ้ฉันไหม" คุณหญิงดาราฉายภรรยาของท่านวิสุทธิ์เอ่ยถามสามีทันทีที่เห็นสามีก้าวเท้าเข้าบ้าน
"ผมเคยทำให้คุณผิดหวังหรือเปล่า" สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันมาหลายสิบปีแต่ยังคงหวานใส่กันอยู่เสมอ
"จริงเหรอคะ เป็นใครคะๆ"
"เป็นลูกสาวเพื่อนตอนสมัยเรียนของผมเอง บริษัทของเขากำลังแย่น่ะเลยขอให้ผมช่วยนิดหน่อย" ท่านวิสุทธิ์ไม่เคยมีความลับกับภรรยาทำให้รักของทั้งคู่ยืดยาวมาจนเนิ่นนานขนาดนี้
"แย่จังเลยนะคะ คุณต้องช่วยเขานะคะ" คุณหญิงดาราฉายที่มักจะเห็นใจคนอื่นอดเห็นใจเพื่อนของสามีไม่ได้
"แน่นอนสิ ผมรับปากเขาแล้วเขาเลยแนะนำลูกสาวให้รู้จักแลกกับการที่ผมช่วยธุรกิจของเขา" ท่านวิสุทธิ์เอ่ยบอกภรรยาจนหมดทั้งที่ตนเองไม่ได้อยากได้อะไรเป็นการตอบแทนแต่อีกคนไม่ยอมท่าเดียวเพราะกลัวจะเป็นที่ครหาจากคนอื่นเลยอยากให้สองตระกูลเกี่ยวดองกันแล้วค่อยๆ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป
"มีรูปไหมคะๆ" คุณหญิงดาราฉายตื่นเต้นอยากเห็นรูปว่าที่ลูกสะใภ้ของตนเอง
"นี่ไง" ท่านวิสุทธิ์เปิดรูปลูกสาวของเพื่อนที่ได้มาให้ภรรยาดู
"ว้าว น่ารักจังเลยค่ะ ตกลงค่ะฉันจองคนนี้คุณรีบบอกเพื่อนคุณนะคะว่าฉันจอง" คุณหญิงดาราฉายแค่เห็นรูปก็รู้สึกถูกชะตาไม่ร้องรำทำเพลงอะไรตอบตกลงทันที
"ตกลงง่ายจังเลยนะคุณหญิง"
"ก็ถูกใจฉันนี่คะ" คุณหญิงดาราฉายเอ่ยจุดประสงค์ของตัวเอง แต่ใช่ว่าจะถูกใจทั้งหมดเพราะแค่ดูจากรูปก็อาจจะบอกอะไรไม่ได้ทุกอย่าง ต้องเจอตัวจริงเสียก่อนถึงจะรู้ได้
"โอเคๆ ไว้ผมจะบอกให้นะ"
"ถ้าฝั่งนั้นสะดวกวันไหนนัดเจอได้เลยนะคะ"
"แล้วลูกเราล่ะไม่ถามตาแดนก่อนหรือ" ท่านวิสุทธิ์นึกถึงลูกชายที่ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่
"ฉันให้เวลาตาแดนมานานแล้วค่ะ หนนี้ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด" คุณหญิงดาราฉายยื่นคำขาดอย่างหนักแน่น เธอให้โอกาสลูกชายหาลูกสะใภ้มาให้หลายปีแต่ไม่ได้สักทีเพราะลูกชายของตนเองเจ้าชู้ประตูดินคบคนนั้นทีคนนี้ทีจนอายุจะเข้าเลขสาม เธอเลยต้องหาคนที่เหมาะสมมาให้ลูกเสียเอง
"แล้วถ้าตาแดนไม่ยอมล่ะ"
"สวยแบบนี้ตาแดนไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ" รู้ว่าลูกชายชอบคนสวยๆ แล้วยิ่งถ้าสวยแบบในรูปจริงๆ คนอย่างดนัทลูกชายหัวดื้อของเธอไม่มีวันปฏิเสธแน่นอน มีหวังจะหลงเข้าให้เสียด้วยซ้ำ
"งั้นเอาไว้ผมจะนัดให้นะครับคุณผู้หญิง"
"ดีมากค่ะคุณสามี" คุณหญิงดาราฉายหยิกแก้มสามีเป็นการหยอก
"อะแฮ่ม หวานกันจังเลยนะคะ" เสียงหวานของลูกสาวคนเล็กเอ่ยแซวความหวานของพ่อและแม่ที่ไม่ว่ากี่ปีก็ยังเหมือนเดิม
"ยัยดากลับมาแล้วเหรอลูก" ผู้เป็นพ่อรีบถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"ค่ะ ช่วงนี้ใกล้ถึงวันแข่งแล้วค่ะเลยต้องซ้อมหนัก" ดาหรือดลรวีลูกสาวคนเล็กของบ้านเอ่ยอย่างเหนื่อยอ่อน เธอเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่กำลังฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อที่จะให้ถูกเลือกในการลงแข่งครั้งนี้แม้ผู้เป็นแม่จะไม่สนับสนุนมากนักเพราะอยากให้มารับช่วงต่อบริษัทกับพี่ชายแต่ในเมื่อลูกสาวชอบสุดท้ายคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องยอมกับสิ่งที่ลูกเลือก
"มัวแต่แข่งว่ายน้ำแล้วเมื่อไหร่จะมีหลานให้แม่สักที ชาตินี้แม่ก็ไม่ได้อุ้มหลานหรอก" คุณหญิงดาราฉายทำหน้างอนๆ ใส่ลูกสาวคนเล็กที่ไม่ยอมคบหาใครสักคนทั้งที่มีผู้ชายตามจีบมากมาย
"อย่าคาดหวังจากดาเลยค่ะแม่ พี่แดนไงคะอายุจะสามสิบแล้วด้วย" ดลรวีโยนไปให้พี่ชายที่ไม่ค่อยกลับบ้านเพราะเธอเองก็ไม่อยากจะแต่งงานตอนนี้
"เหมือนรู้ใจแม่ อีกไม่นานเตรียมตัวต้อนรับพี่สะใภ้ได้เลยยัยดา" ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกกับลูกสาวด้วยท่าทีดีใจ แต่ดลรวีทำได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปม
"เอาจริงเหรอคะแม่ ถามพี่แดนแล้วหรือยังคะ"
"ทำไมต้องถาม ไม่มีการถามอะไรทั้งนั้น" คุณหญิงดาราฉายเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ
"ค่ะๆ ถ้างั้นดาขอตัวไปพักก่อนนะคะพรุ่งนี้ต้องซ้อมแต่เช้าค่ะ"
"พักเยอะๆ นะลูก ดูแลตัวเองด้วยล่ะ" ท่านวิสุทธิ์ผู้ที่ห่วงลูกสาวมากกว่าลูกชายก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าลูกๆ ทั้งสองโตพอที่จะเอาตัวรอดได้แต่ก็ยังคอยถามไถ่ลูกสาวอยู่เสมอ
"ทำไมลูกเราแต่ละคนถึงได้เอาแต่ใจตัวเองกันจริงๆ"
"ก็เหมือนคุณหญิงนั่นแหละ" ท่านวิสุทธิ์พูดลอยๆ ด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแต่ดันไปเข้าหูภรรยาอย่างจัง
"คุณวิสุทธิ์" เสียงหวานกดเสียงต่ำอย่างโมโหทำให้ผู้เป็นสามีรู้จุดจบของตัวเองได้ในทันทีว่าคืนนี้เป็นอันต้องอดนอนกอดภรรยาเป็นแน่
