อับอาย
หญิงสาวร่างบางในชุดเจ้าสาวแสนสวยและสง่างามราวกับเจ้าหญิงยืนตัวเกร็ง
เกาะแขนผู้เป็นพ่อก่อนจะค่อยๆ ก้าวเท้าเดินผ่านแขกที่มาร่วมงานมากหน้าหลายตา
ทุกสายตาจ้องมองเธอราวกับถูกมนต์สะกด เพียงขวัญได้แต่ยิ้มรับอย่างมีความสุข ในวันนี้ที่เธอจะได้เข้าพิธีแต่งงานตามที่ใฝ่ฝันเอาไว้..แต่แล้ว..
"เจ้าบ่าวไปไหน" แขกในงานเริ่มถามหาตัวเจ้าบ่าวที่ปกติต้องยืนรอรับเจ้าสาวที่กลางเวทีแต่งานนี้กลับไม่มีแม้แต่เงาของเจ้าบ่าวให้ได้เห็น
"เจ้าบ่าวล่ะ"
"งานแต่งไม่มีเจ้าบ่าวเหรอเนี่ย" แขกมากมายเริ่มมองหาเจ้าบ่าวของงานแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัวออกมา
"ยัยดาไปตามพี่ชายแกเดี๋ยวนี้นะ" เสียงผู้เป็นแม่เจ้าบ่าวของงานนี้เริ่มเครียดเมื่อลูกชายตัวดีหายไปในคืนงานแต่ง
"ดาโทรหาพี่แดนเป็นร้อยสายแล้วค่ะแม่"
"แล้วมันไปไหนของมัน" แขกในงานเริ่มอลหม่านเมื่อเจ้าสาวเดินมาถึงกลางเวทีแต่กลับไร้วี่แววของเจ้าบ่าว เพียงขวัญเริ่มหน้าซีดเผือดเธอยืนกลางเวทีคนเดียวโดยมีสายตาแขกนับร้อยมองมาที่เธออย่างสงสัย เธอเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน
"ขอเรียนเชิญเจ้าบ่าวขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ" เสียงพิธีกรประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงแต่ก็ยังคงไร้วี่แววของอีกคน ทำให้เพียงขวัญรู้สึกอายจนไม่กล้าเงยหน้า
"ตาแดน ถ้าโผล่หัวมาแม่จะทุบให้หัวแตก" คุณหญิงดาราฉายผู้เป็นแม่ของดนัทเจ้าบ่าวของงานวันนี้เริ่มโมโหจนแทบลุกเป็นไฟเมื่อลูกชายตัวดีหายไปในคืนสำคัญ เธออุตส่าห์จัดงานแต่งแค่พิธีกลางคืนเท่านั้นเพื่อต้องการประกาศให้แขกที่เชิญมาได้รับรู้ถึงความเกี่ยวดองของสองตระกูล
"ใจเย็นนะคะแม่ พี่แดนอาจจะกำลังมา" ดลรวีหรือดาลูกคนเล็กของตระกูลและเป็นน้องสาวแท้ๆ ของดนัทกำลังช่วยพูดให้ผู้เป็นแม่ใจเย็น
"เย็นเยินอะไร ปล่อยแม่จะไปตามมันเอง"
"ผมว่าคุณใจเย็นๆ ก่อนคุณหญิง" ท่านวิสุทธิ์ผู้เป็นสามีรีบขวางเอาไว้ก่อนที่เรื่องจะบานปลายและแขกในงานจะแตกตื่นไปมากกว่านี้
"นี่ คุณวิสุทธิ์คุณก็อีกคนหรือคะ" สามีภรรยารุ่นใหญ่กำลังถกเถียงกันไปมา จนในที่สุดเจ้าบ่าวในงานวันนี้ก็ปรากฏตัวขึ้น
"แม่คะ พี่แดนมาแล้ว" แขกในงานต่างพากันมองไปที่ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาในชุดสูทสีขาวซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือเจ้าบ่าวของงานแน่นอน
"ผมมมมาาแล้วว เอิ๊ก" ดนัทที่เมาจนพูดไม่รู้เรื่องแทบจะประคองสติไม่ได้
เดินเซขึ้นเวทีอย่างทุลักทุเลโดยมีเพื่อนสนิทคอยพยุง
"ไอ้แดนเดินดีๆ"
"ขอบจัยเพื่อนรัก" หันไปตบบ่าเพื่อนก่อนจะเดินโซซัดโซเซไปหาเจ้าสาวของงานที่มองอย่างผิดหวัง เธอคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดแต่กลับเป็นวันที่เธอรู้สึก
อับอายที่สุดในชีวิต เพียงขวัญหันมองหน้าพ่อและแม่ทั้งคู่ทำได้แค่พยักหน้าให้เธอทนไปโดยไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย
"ขะ..ขอเสียงปรบมือให้กับเจ้าบ่าวหน่อยครับ" พิธีกรที่กำลังมึนงงแต่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
"จบงานฉันจะเคลียร์กับมันให้รู้เรื่อง" คุณหญิงดาราฉายเดือดจนแทบลุกเป็นไฟมองลูกชายอย่างคาดโทษที่ทำตัวน่าอับอายเช่นนี้ แต่ถ้ายกเลิกงานแต่งกลางคันก็ยิ่ง
ขายหน้าเข้าไปใหญ่
"พี่ทอยทำไมพี่แดนถึงมีสภาพแบบนี้ได้คะ" ดลรวีได้โอกาสจึงรีบเอ่ยถามเพื่อนสนิทของพี่ชายอย่างคณาธิป
"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันลากพี่ไปกินเหล้าตั้งแต่เช้าจนสภาพเป็นแบบนี้นี่แหละ" คณาธิปเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนตัวเองทำเหมือนกัน
"สงสัยคงดีใจที่ได้แต่งงานมากไปหน่อยมั้งคะ" ดลรวีเอ่ยอย่างประชดประชันเพราะรู้ว่าพี่ชายไม่ได้อยากแต่งงานเลยสักนิดและคัดค้านหัวชนฝามาตลอดแต่ไม่สำเร็จ
"เฮ้อ" เพียงขวัญมองคนข้างๆ อย่างท้อใจ เขาหล่อและหน้าตาดีจนคนที่เห็น
ครั้งแรกอย่างเธอถึงกับตะลึงแต่สิ่งที่เขาทำในวันนี้ ทำให้เธออึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ก่อนหน้าที่งานแต่งจะเกิดขึ้นเธอไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง แม้แต่ไปเลือกชุดแต่งงานเธอยังต้องไปคนเดียวเพราะอีกฝ่ายอ้างว่าไม่ว่างตลอด
งานแต่งงานแสนน่าอายจบลงอย่างทุลักทุเลเพียงขวัญทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับมัน เธอพลาดการแต่งงานมาแล้วสามครั้งและเชื่อว่าครั้งนี้เธอจะต้องสมหวังในความรักถึงแม้ว่าคืนงานแต่งของเธอจะไม่เป็นไปตามที่เธอฝันไว้ก็ตาม
ร่างเจ้าบ่าวถูกหามมานอนที่ห้องหอโดยฝีมือของเพื่อนสนิทอย่างคณาธิปและ
ดลรวีผู้เป็นน้องสาว ดนัทหลับคอพับตั้งแต่งานยังไม่เลิกทำให้งานต้องดำเนินต่อไปโดยไม่มีเจ้าบ่าวอยู่ข้างเจ้าสาว เพียงขวัญต้องทนอับอายรับแขกคนเดียวจนจบงาน
"แม่ขอโทษนะหนูขวัญที่ลูกชายแม่ไม่ได้เรื่องแถมไม่เอาไหนอีกต่างหาก" คุณหญิงดาราฉายขอโทษขอโพยลูกสะใภ้ที่ต้องมาเจอเรื่องแสนอับอายเช่นนี้ในคืนแต่งงาน
"ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่" เพียงขวัญเรียกอีกคนว่าแม่ได้อย่างเต็มปาก เพราะหลังจากวันนี้เธอคือสมาชิกคนหนึ่งในตระกูลวิจิตจินดา
"ถ้ามันตื่นมาจัดการได้เลยนะลูกแม่อนุญาต"
"คุณก็ใจเย็นสิคุณหญิง" ท่านวิสุทธิ์ได้แต่ห้ามปรามภรรยาตั้งแต่อยู่ในงานจนถึงตอนนี้
"ไม่เย็นแล้วค่ะ ฉันเย็นมาหลายชั่วโมงแล้ว"
"เฮ้อ พ่อฝากตาแดนด้วยนะหนูขวัญ" ท่านวิสุทธิ์เอ่ยกับลูกสะใภ้ก่อนจะลากภรรยาออกไปทันทีเพื่อให้บ่าวสาวป้ายแดงได้อยู่ด้วยกัน
"ขอโทษนะลูกที่ช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย" ท่านพิภพรอโอกาสพูดคุยกับลูกสาวก็รีบเอ่ยขอโทษในฐานะคนเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องช่วยอะไรลูกสาวไม่ได้เลยสักอย่าง
"ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ หนูไม่โกรธคุณพ่อ คุณแม่เลยนะคะ" เพียงขวัญเห็นพ่อกับแม่ทำหน้าเศร้าก็รีบกอดพวกท่านเอาไว้
"พ่อกับแม่รักหนูนะลูก"
"หนูก็รักคุณพ่อ คุณแม่นะคะ" เธอรักพวกท่านมากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ นี่แหละคือเหตุผลที่เธอยอมได้ทุกอย่างแม้จะอับอายจนอยากมุดดินหนีก็ตาม แต่เธอก็ต้องอดทน
หลังจากผู้ใหญ่ทั้งหมดกลับที่พักของตนเองไปเป็นที่เรียบร้อยทำให้ทั้งห้องเหลือเพียงเขากับเธอแค่สองคน เพียงขวัญอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองให้อยู่ในชุดสบายก่อนจะออกมาดูคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง
"เอายังไงดีนะ" เธอไม่รู้จะปลุกเขายังไงหรือจะทำอย่างไรกับเขาดี เธอไม่เคยคุย
กับเขาสักคำ เธอรู้แค่ชื่อของเขาเท่านั้น
"คุณแดนคะ" มือน้อยสะกิดเบาๆ ที่ไหล่หนาของเขาแต่อีกคนเหมือนหลับถึงชั้นแมกม่าไปเสียแล้ว เขาไม่ขยับหรือกระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย
"ขออนุญาตนะคะ" ร่างบางค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อสูทตัวหนาของเขาออกเพื่อให้สามีหมาดๆ ได้นอนหลับสบาย เพียงขวัญจัดการถอดเสื้อผ้าคนที่หลับอย่างยากลำบาก จนในที่สุดก็เหลือแค่กางเกงชั้นในบ็อกเซอร์สีดำเพียงตัวเดียว
"เฮ้อ" เพียงขวัญหยิบผ้าห่มคลุมกายให้เขาก่อนจะทิ้งตัวนั่งบนเตียงอย่างหมดแรงเพราะคนที่หลับไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด เธอไม่มีท่าทีเขินอายแต่อย่างใดเมื่อได้เห็นร่างกายของเขา อาจเป็นเพราะเธอชินตั้งแต่สมัยเรียนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์
ทำให้เห็นร่างกายของทั้งหญิงและชายอยู่บ่อยๆ ในความคิดเธอสรีระรูปร่างของแต่ละคนมันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย
"น้ำ หิวน้ำ" เสียงแหบพร่าจากคนที่หลับเอ่ยขึ้นเบาๆ ทำให้เพียงขวัญหันไปมอง
"จะกินน้ำเหรอคะ" ร่างบางลุกขึ้นรินน้ำให้เขาก่อนจะเอาหลอดจ่อตรงปากของเขา ปากหนาดูดน้ำอย่างกระหายทั้งที่ยังหลับตา ตลอดทั้งคืนเพียงขวัญแทบไม่ได้นอนเพราะคนตัวโตทั้งนอนดิ้นทั้งละเมอสารพัดจนเธอทำได้แค่ปลงเท่านั้น
แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าตาที่ถูกเปิดโดยฝีมือของคนตัวเล็ก เพียงขวัญที่ตื่นแต่เช้าเพราะไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนลุกขึ้นมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรือนหอที่แม่ของเขาซื้อไว้ให้
"อื้ม..ปิดม่าน" คนตัวโตตะโกนเสียงดังอย่างอารมณ์เสียเมื่อถูกปลุกแต่เช้า
"ไม่ค่ะ คุณต้องตื่นได้แล้วค่ะ" เพียงขวัญไม่ยอมทำตามคำสั่งเพราะเธอทนเขา
มาทั้งคืนแล้ว ตอนนี้เขาต้องฟังเธอบ้าง
"โอ๊ย ใครวะ" ดนัทลุกขึ้นขยี้ตาตัวเองเพ่งมองให้ชัดว่าใครบังอาจมาเถียงกับเขาแต่เช้า ดวงตาลืมขึ้นเต็มที่ก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ผิวพรรณผ่องสง่าไร้ที่ติมายืนอยู่ตรงหน้า
"เธอเป็นใคร" เมื่อได้สติก็รีบถามทันทีด้วยความสงสัย
"คนที่แต่งงานกับคุณเมื่อคืนไงคะ" เพียงขวัญตอบทันควันอย่างไม่รีรอด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"เธอเองเหรอ สวยดีนะแต่คงจะ.. เฮ้อ ช่างเถอะๆ" ดนัทมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดูถูก เขาจะยอมให้ความสวยมาปิดบังความร้ายกาจของเธอไม่ได้ ผู้หญิงสวยๆ มักหลอกคนมานักต่อนักแล้วคนตรงหน้าก็คงเป็นเช่นนั้น เพียงขวัญมองเขาอย่างไม่เข้าใจก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ เพราะคิดว่าเขาคงยังไม่สร่างเมา
"ลุกขึ้นอาบน้ำเถอะค่ะ คุณแม่ให้คุณพาฉันไปเรือนหอของเรา"
"อย่ามาสั่งฉัน" ชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซเข้าห้องน้ำ เพียงขวัญเริ่มหนักใจเธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นเอามากขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่างคนต่างอยู่คงดีเสียกว่า
