บทนำ เจ้าสาวนอกกรรมสิทธิ์ (4)
พ่อเลี้ยงหนุ่มหัวเราะชอบใจ แล้วรอยยิ้มที่น่ากลัวก็หายไป
“สามวัน ฉันให้เวลาครอบครัวเธอสามวัน ถ้ายังลากตัวไอ้วุฒิมาให้ฉันไม่ได้ ก็เอาเงินทั้งหมดที่ไอ้วุฒิขโมยมา มาคืนฉันซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง”
“เงินเท่าไหร่?”
“แสนนึง”
“แสนนึง!!!!” วาดดาวอุทาน ทำตาโตอย่างตกใจ
“เงินมากมายขนาดนั้น ฉันจะไปเอาที่ไหนมาให้คุณ”
“เรื่องนี้มันเป็นปัญหาของครอบครัวเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน อีกสามวันฉันจะมาใหม่” ชายหนุ่มสบตาที่ฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาของหญิงสาวอีกครั้ง
เขามองเธออยู่นาน นานเป็นอึดใจแล้วถึงยอมผละไปจากห้อง...
พอเจ้าของร่างสูงใหญ่ทรงอำนาจพ้นไปจากห้องนอน วาดดาวถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถึงจะโล่งใจที่สถานการณ์ตึงเครียดคลี่คลายลง
แต่เวลาสามวันเธอจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้คืนเขา ครั้นจะไปตามตัวก่อเรื่อง เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวปองวุฒิจากที่ไหนเช่นกัน
น้ำตาที่แห้งไปไหลเอ่อออกมาอีกครั้ง
“วาดดาว! พ่อเลี้ยงทำอะไรหนู” นางสวรรค์ผู้เป็นแม่หน้าตาตื่นรีบเข้ามาในห้องนอนเพื่อดูลูกสาว
พอเห็นวาดดาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ซ้ำเสื้อผ้าก็ยังขาดหลุดลุ่ย นางก็เข้าไปสวมกอดลูกสาวน้ำตานองหน้าทันที
“โถ ลูกแม่ พ่อเลี้ยงรังแกหนูเหรอลูก”
ผู้เป็นลูกร้องไห้หนักกว่าเดิม พลางพยักหน้ารับ
“พ่อเลี้ยงบอกว่าวุฒิขโมยเงินมา เขาต้องการตัววุฒิ แล้วก็เงินหนึ่งแสนคืน” วาดดาวบอกเสียงสะอื้น
“แสนนึงเลยเหรอ?!” สมชายผู้เป็นพ่อที่เดินตามเข้ามาในห้องทีหลังอุทานขึ้น พลางบดฟันกรามเข้าหากัน สีหน้าเครียดขรึม
“พ่อเลี้ยงให้เวลาพวกเราสามวัน เราจะทำยังไงดีจ๊ะ”
คนเป็นลูกถามน้ำตานองหน้า
สถานการณ์ในตอนนี้เธอกับสมาชิกทุกคนในครอบครัวไม่ต่างอะไรกับลูกไก่ในกำมือของพ่อเลี้ยงชโลทรเลย แล้วเธอจะไปหาเงินจากที่ไหนมาใช้ให้พ่อเลี้ยงล่ะ ในเมื่อพ่อก็สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง รายได้ของพ่อแทบไม่พอจุนเจือครอบครัว ซ้ำพ่อของเธอยังติดเหล้าอีก
ส่วนแม่ก็มาป่วยเป็นโรคหัวใจ ป่วยออด ๆ แอด ๆ ต้องหาหมอตลอด ใช้แต่เงิน ตัวเธอเองก็ทำงานแค่รับจ้างซักรีด และรับจ้างตามสวนผลไม้
หรือไม่ก็เป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านเป็นบางครั้งบางคราว เป็นแบบนี้เธอจะมีปัญญาหาเงินแสนมาใช้คืนเขาได้เหรอ
ครั้นจะไปตามหาตัวคนก่อเรื่อง เธอก็ไม่รู้จะไปตามหาตัวปองวุฒิจากที่ไหน ก็รายนี้เร่ทำงานรับจ้างไปทั่วและอยู่ไม่ค่อยจะทน ซ้ำยังอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง และถึงจะได้เจอหน้ากันบ้างเป็นบางครั้ง แต่เธอก็แทบไม่ได้คุยกับน้องชาย เพราะเจอหน้ากันเดี๋ยวเดียวต่างคนต่างต้องแยกย้ายไปทำมาหากิน
ครั้นจะโทรไปหาปองวุฒิก็ดันปิดโทรศัพท์ เลยติดต่อไม่ได้อีก
ครั้นจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากเชี่ยวชาญ พี่ชายคนโตที่ทำงานในกรุงเทพฯ เธอก็ติดต่อไม่ได้อีก จะมีก็แต่รอให้เจ้าตัวติดต่อมาเท่านั้น
เฮ้อ... ให้มันได้อย่างนี้เถอะ
“ใจเย็นก่อน บางทีพ่อเลี้ยงอาจจะปรักปรำเจ้าวุฒิก็ได้” คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้น
“ปรักปรำงั้นเหรอ คนอย่างพ่อเลี้ยงชโลทรไม่มีทางทำแบบนั้นหรอกพี่ ถ้าลูกเราไม่ก่อเรื่องมีเหรอพ่อเลี้ยงจะพาลูกน้องมาเหยียบบ้านเราแบบนี้” นางสวรรค์แย้งสามี
“พูดแบบนี้เอ็งก็เข้าข้างพ่อเลี้ยงน่ะสิ”
นางสวรรค์ส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้เข้าข้างพ่อเลี้ยง แต่คำพูดพ่อเลี้ยงมันมีน้ำหนัก พี่ไม่เอะใจบ้างเลยหรือไงว่าลูกของเราเอาเงินที่ไหนมาให้เราตั้งสองหมื่น”
“มันก็บอกอยู่ว่าเล่นบอลได้”
“นี่เจ้าวุฒิเล่นพนันด้วยเหรอพี่!” คนเป็นแม่ทำหน้าตกใจ
วาดดาวเช็ดน้ำตาจากแก้ม พุ่งสายตาไปยังผู้เป็นพ่อทันที “วุฒิบอกพ่อแบบนั้นเหรอ?”
“เออสิ มันว่ามือขึ้นก็เลยแบ่งเงินไว้ให้พวกเราใช้จ่ายในบ้าน”
“แล้วตอนนี้วุฒิอยู่ไหน?”
ผู้เป็นพ่อส่ายหน้า “ไม่รู้มัน เจ้าวุฒิรีบมาแล้วก็รีบไป เลยไม่ได้ถาม”
คำตอบจากบิดาทำเอาวาดดาวปิดตาลงเพื่อไล่หยาดน้ำตา พร้อมกับถอนหายใจหนัก ๆ ...
