บทที่ 3 ปิดปังตัวตน
ฉันกับกลุ่มเพื่อนๆสมัยประถม ก็ยังตัวติดกันเรียนที่เดียวกันจนจบมัธยมปลาย ถึงแยกย้ายกันไปทำตามความฝันของตัวเอง แต่พวกเราก็ชอบช่วงปิดเทอมเพราะจะได้แข่งกันเกี่ยวข้าวอีก แต่ก็จะมีบางเทอมที่ฉันได้ขึ้นไปอยู่กับแม่ที่กรุงเทพ ด้วยความที่ไม่เคยเจอแม่เลยและคิดตลอดมาว่า น้าสาวที่ช่วยตากับยายเลี้ยงฉันมาคือแม่ของฉันมาตลอด พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ตกใจนิดหน่อยว่า ใครคือแม่ของฉันกันแน่นะ พอได้มาเจอแม่ก็เป็นอะไรที่คิดว่าจะมีความสุข ก็อย่างที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านั้นว่าพ่อกับแม่ของฉันต่างมีครอบครัวใหม่กันแล้ว ตอนนี้ฉันเหมือนส่วนเกินของครอบครัวของแม่ ฉันคิดแบบนั้นมันก็ไม่น่าแปลกอะไรใช่ไหมหละ เพราะว่าฉันไม่ใช่ลูกแต่เป็นหลานสาวของแม่ตัวเองยังไงหละ เพราะว่าพ่อเลี้ยงของฉันเขาปิดปังทุกคนว่า แม่ของฉันไม่ใช่แม่หม้ายลูกติดเป็นสาวโสด พอเวลาที่ฉันขึ้นไปหาพวกเขาก็จะบอกทุกคตนว่า หลานสาวมาหาจะมีรู้กันแค่ทุกคนที่บ้านของฉัน แต่ครอบครัวฝั่งพ่อเลี้ยงไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็ยลูกสาวคนโต ซึ่งพ่อเลี้ยงกับแม่ขแงฉันก็มีน้องชายกับน้องสาวซึ่งทั้งสองคนจะติดฉัน เพราะฉันช่วยเลี้ยงน้องช่วงปิดเทอม พวกเขาจะเรียกฉันว่าพี่และมักจะโดนดุเสมอเวลาที่เรียกฉันว่าพี่ ต่อหน้าคนอื่นเพราะฐานะและตัวตนของฉันต้องปิดปังไว้ห้ามให้ครอบครัวของพ่อเลี้ยงรู้ แม้กระทั้งทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นลูกของแม่ มันคงเป็นเรื่องที่ต้องปิดปังไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
"ห้ามบอกใครว่าเอ็งเป็นลูกรู้ไหม เดี่ยวเขาจะว่ากูไม่ดีทุกคนที่นี้ไม่มีใครรู้ว่า แม่ของเอ็งมีลูกติดรวมทั้งญาติพี่น้องฝั่งกูก็ไม่มีใครรู้ ส่วนเอ็งสองพี่น้องก็ห้ามเผลอเรียกว่าพี่สาวต่อหน้าคนอื่นอีกหละ เดี่ยวความแตกกูเสียหายเสียหมดกันพอดี เข้าใจไหมที่บอกไปนะ"
"เอ้อ เด็กๆมันเข้าใจแล้งเอ็งก็อย่าพูดมาก คนอื่นเขาจะรู้ก็เพราะเอ็งพูดมากนี้แหละ เด็กๆมันจะไปรู้เรื่องอะไรที่แก่พูดหมดหละ แค่บอกพวกเด็กๆว่าห้ามเรียกว่าพี่ตอนที่คนอื่นมาบ้านก็พอ ยังไงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันน้องๆมันติดพี่สาวกันขนาดนี้ มันก็ต้องเรียกพี่อยู่แล้วหละเดี่ยวพอเปิดเทอมก็ต้องไปเรียนกันแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกก็ไม่ได้เรียกพี่แล้วหละ ให้เด็กๆมันมากินข้าวก่อนดีกว่า คงหิวกันแล้วหละเล่นกันมาเหนื่อยๆ"
"เอ้อก็แค่บอกไว้ก่อน เพราะคนมาบ้านเราบ่อย กลัวพวกมันจะลืมตัวเรียกกันอีกนะ"
"ถึงตอนนั้นค่อยบอกพวกเขาก็ได้ว่า เรียกแบบนั้นเพราะเป็นพี่สาวที่โตกว่าพวกเขาเลยนเรียกว่าพี่สาว ซึ่งไม่ใช่ลูกสาวของข้าอย่างที่พวกเขาคิดก็พอนี้นะ เด็กๆกินข้าวดีกว่าอย่าไปฟังพ่อเอ็งพูดมากดีกว่านะ "
"ครับ/คะ"
"'เอ้อ แล้วแต่เลย เอาที่สบายที่คิดว่าจะไม่มีใครจับผิดได้ว่า เป็นแม่ลูกกันก็พอ"
"เอ้อ ก็บอกลูกๆก่อนที่เอ็งจะมาย้ำแล้วหละ พวกเขารู้และเข้าใจแล้วว่าต้องพูดยังไง ตอนไหนไม่ต้องกังวลมากไปหรอกนะ"
"ใช่คะ พวกเราเข้าใจดีว่าต้องพูดอะไรตอนไหน น้องๆเองก็เข้าใจคะหนูบอกพวกเขาแล้วว่า ให้เรียกว่าอะไรนะคะ"
"เอ้อ ดีที่เอ็งมาช่วยเลี้ยงน้องๆ พวกเขาจะได้เลิกแย่งของกันสักที มีเอ็งมาเป็นกรรมการทำให้พวกเขาไม่แย่งของเล่นกัน ไม่ตีกันเอาเป็นเอาตายเพราะแย่งของเล่น"
"คะ แต่บางเทอมอาจจะไม่ได้มานะคะ เพราะบางเทอมีงานที่โรงเรียน และต้องช่วยตากับยายทำนาด้วยนะคะ"
"อืม แล้วแต่เลยจะมาช่วงไหนก็ตามใจเลย"
"ใช่จ๊ะ เอาที่เรามีเวลามาเล่นกับน้องๆก็พอ เพราะเราเองก็ต้องเรียนและช่วยตากับยายทำนาด้วยนี้นะ"
"คะแม่ อุ้ยขอโทษคะ แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เผลอเรียกว่าแม่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ"
"เอ้อ แต่ก้อย่าเผลอแบบนี้อีกหละ เดี่ยวคนจะสงสัยเอาได้"
"คะ "
"พ่อก็ชอบว่าแต่พี่สาว หนูจะบอกทุกคนเองว่าพี่เขาเป็นพี่สาวของของหนู่ ใช่ไหมพี่ชาย"
"อืม พี่สาวอุตสาห์มาหาพวกเราทั้งที ไม่ให้เรียพี่สาวพวกเราก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ในเมื่อพี่เขาเป็นพี่สาวของพวกเราจริงๆนี้ครับ"
"เอ้าหละเด็กๆ เลิกแกล้งพ่อของพวกเราได้แล้ว เดี่ยวพ่อของเราก็จะงอนพี่สาวเอาได้นะจ๊ะ ดังนั้นพวกเราสองคนต้องเชื่อฟังที่แม่กับพ่อและพี่เราสอนนะจ๊ะ"
"ครับ/คะ"
