บท
ตั้งค่า

3

ชายที่กำลังจะก้าวมาเป็นสามีของเธอ ไม่รอคำตอบ เขาบอกอย่างหมายมาด “พี่ฟาสรอน้องบุณมานานแค่ไหนแล้ว รู้ไหม”

เธอนึกถึงระยะเวลาไม่ถึงปีดี ที่ได้รู้จักกับกฤตยชญ์ ค่อยยิ้มแหยหน่อยหนึ่ง ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่สำหรับเธอ บอกตามตรงว่าไม่นานเลย

ถ้าคนรักชอบพอกันจริงจัง บุณย์นราเดาว่า เวลาเท่านี้ไม่นานพอที่จะตกลงปลงใจแต่งงานกันหรอก ออกจะไวเสียด้วยซ้ำไป ไวอย่างที่มารดาว่าเอาไว้จริง ๆ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก ในเมื่อเธอเลือกแบบนี้แล้ว จะมาโอดครวญอีกไม่ได้

พลันนั้นเองที่เธอถูกชายหนุ่มเอื้อมเอามือไปกุม แล้วยกขึ้นจรดริมฝีปากของเขาแทบจะฝังปากร้อนผ่าวของเขาลงบนหลังมือของเธอ พอเขายอมปล่อย ก็พบว่ามันชื้นไปด้วยน้ำลายของเขาแล้ว บุณย์นรารู้สึกรังเกียจขึ้นมาชั่วขณะ หญิงสาวดึงมือตัวเองออก แต่กลับถูกเจ้าบ่าวดึงตัวเข้าไปหา จะปล้ำจูบที่ปากของเธอ

“อย่าให้พี่ฟาสต้องออกแรงนักเลยน่า...”

กฤตยชญ์บอกอย่างหงุดหงิดนิด ๆ

บุณย์นราหยุดดิ้น เธอมองเข้าไปในตาของกฤตยชญ์พบว่าไม่มีแววหวานหยาดเยิ้มอีกต่อไป คล้ายกับจะกลายเป็นแววตากระหายหื่นเสียมากกว่า

วินาทีนั้น หญิงสาวแว่วเสียงดนตรีที่ด้านนอกรัวกลองเร็วขึ้น แทบเป็นจังหวะเดียวกับเสียงหัวใจของเธอ พร้อมกับที่ประตูห้องหอถูกถีบจนเปิดออกดังโครม กระนั้นก็ยังน้อยกว่าเสียงเพลงจากดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่

หันไปมอง เห็นมีคนยืนจังก้าตรงหน้าประตู แสงจากด้านนอกส่องเข้ามาที่เบื้องหลังของเขา ทำให้มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเท่าไรนัก

ชายคนนั้นเดินเข้ามายังด้านใน ท่าทีไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น จนเริ่มเห็นหน้าของเขาชัดเจนขึ้น ก็พบว่าอีกฝ่ายมีดวงตายาวรีทอแววเย็นชาและดุดัน

บุณย์นราสบตาแล้วพลันสะท้านเยือกขึ้น รู้สึกหวาดกลัวหนาวเยียบเย็นแผ่ซ่านไปตลอดทั้งแนวของสันหลัง ชายคนนั้นร่างกายสูงใหญ่มาก ขนาดกฤตยชญ์ที่ว่าดูสูงใหญ่แล้ว ยังเล็กกว่าชายคนนี้เสียอีก

หันไปมองทางกฤตยชญ์ เห็นว่าเขายืนอ้าปากค้าง แววตาตื่นตระหนกไม่น้อย กฤตยชญ์ละสายตาจากผู้ชายคนนั้นหันมาที่เธอก็สงวนท่าทีกร้าว ๆ ตวาดใส่ชายผู้บุกรุกที่เข้ามาถึงในห้องหอ

“มึงจะตามจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน”

บุณย์นราพอรู้มาบ้างว่ากฤตยชญ์ไม่ใช่แค่รวย เขายังมีอิทธิพลมากล้นพ้นตัวอีกด้วย ขนาดนี้แล้วเหตุใดถึงยังมีคนกล้าหยามเขา และนี่ลูกน้องกับพรรคพวกที่ล้อมอยู่รอบงานหายไปไหนหมด ไม่มีใครรู้เลยหรือว่าตอนนี้มีคนบุกรุกเข้ามา

ชายคนบุกรุกยิ้มเหยียด แล้วว่า “ลงทุนแต่งงานกับสาวทั้งที ไม่เชิญกูมาเป็นสักขีพยานหน่อยวะ”

“อย่ายุ่งกับเมียกูนะ ไอ้เชี่ยโระ…”

กฤตยชญ์ยังไม่ทันได้เอ่ยชื่ออีกฝ่าย ก็ถูกชายคนบุกรุกเดินตรงมาหาพร้อมกับฟาดหมัดใส่เต็มแรง หนักขนาดไหนก็ดูเอาจากที่กฤตยชญ์ถลาลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นนั่นเป็นไง

“คนนี้คงรักมาก?”

บุณย์นราได้ยินคำถามของชายคนนั้นแล้ว ขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย มองไปยังกฤตยชญ์ เห็นแววตาเขาไหววูบหน่อยหนึ่ง ชี้มือใส่คนบุกรุก กล่าวยั่วกลับอย่างลืมตัว

“มากกว่าสิรีก็แล้วกัน”

กฤตยชญ์กล่าวไม่ทันจบประโยคดี ชายคนนั้นชกกฤตยชญ์อีกที คราวนี้แบบไม่ยั้งมือเลย กฤตยชญ์หลบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่เธอเห็นส่วนใหญ่จะหลบหมัดทางนั้นไม่ได้ สุดท้ายสภาพของกฤตยชญ์ก็เริ่มช้ำ ใบหน้าแตกยับไปเกือบครึ่ง

กฤตยชญ์ใช้หลังมือตัวเองปาดเลือดออก ถุยน้ำลายในปากลงบนพื้นห้อง ตะเบ็งเสียงแข่งกับเพลงที่ดังลั่นอยู่ด้านนอก

“มึงจะเอายังไงกับกู จะจองเวรกับกูไปจนตายเพราะอีนั่นคนเดียวน่ะหรือ”

ชายคนนั้นจ้องกฤตยชญ์ตรง ๆ บอกเสียงเหี้ยม “คนอย่างมึง ต้องรู้จักคำว่า ‘สูญเสีย’ บ้าง ไม่อย่างนั้นไม่มีวันสำนึก”

กฤตยชญ์ได้ยินคำว่า ‘สูญเสีย’ ที่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย ใบหน้าของเขาเหมือนจะซีดเผือดละล่ำละลักบอก เสียงที่กร้าวเมื่อครู่ก็อ่อนลงทันควัน

“จะทำอะไรพี่ก็ได้ แต่อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้เลยนะ นึกถึงมิตรภาพครั้งเก่าของเราบ้างสิวะ พี่ขอล่ะ”

ชายคนนั้นมองกฤตยชญ์อย่างดูแคลน “มึงกล้ารื้อฟื้นเรื่องมิตรภาพด้วยหรือ สงสัยแม่นี่จะไม่ธรรมดาจริง ๆ”

ชายคนบุกรุกเอ่ยจบ หันมองเธอ กวาดสายตาขึ้นลงอย่างกับกำลังประเมินราคาสินค้าอยู่ ว่าเสียงหยันใส่ “ได้ข่าวว่าคนนี้มึงหวงหนักเลยนี่ ให้คนตามเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น มั่นใจได้ยังไงว่ายังสดอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาย้อมแมวขายให้มึงหรอกหรือ”

“อย่าพูดจาหมา ๆ สิวะ” กฤตยชญ์สวนกลับทันที พอเห็นสายตาของอีกฝ่าย ก็รีบแก้ต่างออกไป “พี่หมายถึงอย่าพูดแบบนั้น น้องเขาจะเสียหายได้”

แม้ปากจะเอ่ยออกไปแบบนั้น แต่ในใจของกฤตยชญ์ก็อดคิดไขว้เขวตามคำพูดของอีกฝ่ายไม่ได้ กฤตยชญ์คิดว่าตนเองให้คนตามเฝ้าหญิงสาวที่หมายอยากครอบครองอยู่ตลอดเวลาก็จริงอยู่ แต่มันอาจมีบ้างที่ลับหูลับตาคนของเขา แล้วก็มีไม่น้อยผู้หญิงที่ชอบทำตัวใส ๆ แต่ข้างในโพรงกลวงไปหมดแล้ว บุณย์นราจะยังสดซิงจริงไหม

บุณย์นราไม่ใช่ประเภทโกรธใครง่าย ๆ แต่คราวนี้กลับถูกปั่นอารมณ์ได้อย่างง่ายดาย ถูกกล่าวหาจากคนไม่รู้จักหน้าค่าตาจนเสียหายหนัก ก็ให้ฉุนกึก ใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นโกรธจัดในทันทีแย้งด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย ที่สั่นก็เพราะทั้งโกรธทั้งกลัวผสมปนเปกันไป

“บุณไม่เคยทำตัวแบบนั้นนะคะ... พี่ฟาส” ท้ายประโยคหันไปมองหน้ากฤตยชญ์ คล้ายกับต้องการให้เขามั่นใจในตัวเธอ

ได้ยินคำยืนยันจากหญิงสาว คนบุกรุกผุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก เดินตรงมาที่บุณย์นราด้วยท่าทีคุกคาม พร้อมกับว่า

“เดี๋ยวกูพิสูจน์ให้ ว่าน้องเขายังสดจริง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel