2
เหลือเกิน ลูกสาวคนสวยของแม่แต่งงานเสียแล้ว”
นางนวลตาจับมือเธอ มองด้วยสายตาปลาบปลื้ม กระนั้นก็ฉายแววกังวลใจอยู่บ้าง แล้วเอ่ยถึงผู้ใหญ่อีกคนพร้อมถอนหายใจเบา ๆ “แม่ไม่ได้ไปกราบเรียนคุณท่านเลย ว่าเด็กที่ท่านอุปการะเหมือนหลาน กำลังจะออกเรือน”
บุณย์นราได้ยินมารดาเอ่ยถึงนายเก่าของท่าน ก็อดถอนหายใจตามไม่ได้
‘คุณท่าน’ ที่มารดาเอ่ยถึง คือนายเก่าที่มารดารับใช้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาว นวลตานิสัยเป็นคนพูดจาอ่อนหวาน ช่างปะเหลาะ คุณท่านจึงเมตตากว่าใครอื่นในบ้าน
พอมารดาของเธอแตกเนื้อสาว พบรักกับนายอำนวย หลานคนงานของคุณท่านเช่นกัน คุณท่านก็ปรานีจัดงานแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราว นายอำนวยบอกว่าอยากออกไปทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว คุณท่านก็ยังเมตตา ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร ทั้งยังให้เงินอีกก้อนไว้ตั้งตัว แต่แล้วก็ไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง ต้องกลับไปพึ่งบารมีคุณท่านอยู่เนือง ๆ ซึ่งท่านเองก็ปรานีเสมอมา ไม่เคยว่ากล่าวอะไรเลย มีแต่ให้กำลังใจ กล่าวสอนและช่วยเหลือทุกครั้ง
เมื่อตอนบุณย์นราพอรู้ความ นวลตาพาไปบ้านของคุณท่านด้วย คุณท่านเห็นเด็กหญิงเข้าก็นึกถูกชะตาเป็นพิเศษ จึงขออุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่ตอนนั้นเพราะรู้ว่าข้าเก่าของท่านต้องหาเช้ากินค่ำ อยู่กันแบบอัตคัดจึงออกปากให้กลับไปทำงานด้วยกัน แต่นางนวลตาก็ไม่ไป
แล้วเลยเรียกได้ว่าเงินส่วนหนึ่งที่ใช้สอยในบ้านมาจากบัญชีเดียว ที่คุณท่านเป็นคนสนับสนุนอุปการะให้ทุกเดือน แต่ก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะทุกคนเอาไปใช้จ่ายธุระของตัวเอง แต่ไม่มีใครหามาคืนเข้าบัญชีเลยสักคน
“คุณท่านรู้เข้าต้องโกรธแม่แน่ ๆ ที่ยอมให้หนูแต่งงานไวขนาดนี้”
ได้ยินคำว่า ‘ไว’ ที่หลุดจากปากของมารดา อดใจหายไม่ได้ เพราะเมื่อวานนี้เธอเพิ่งสอบเสร็จในเทอมสุดท้ายของภาคการศึกษา ยังไม่ได้เข้าพิธีรับปริญญาบัตรเลย ก็กลายมาเป็นเจ้าสาวแล้ว
บุณย์นรายิ้มปลอบท่าน แล้วว่า “บุณเต็มใจแต่งเองนี่จ๊ะ คุณท่านไม่ว่าอะไรแม่หรอก เดี๋ยวเราค่อยหาเวลาไปกราบเรียนท่านวันหลังก็ได้ แม่อย่าคิดมากนะ บุณ เอ่อ... บุณรักคุณกฤตยชญ์ พ่อ แม่ พี่บัญ พี่เบญไม่ต้องห่วงบุณนะ”
กฤตยชญ์ลอบกลอกตา รู้สึกเบื่อหน่ายกับการต้องรอ หันไปมองหน้ายอช ทางนั้นพยักหน้ารับผู้เป็นนายอย่างเข้าใจในความหมายกันดี เข้ามาถามคล้ายเร่งให้ออกจากห้องไปไว ๆ
“เรียบร้อยกันหรือยังครับ เดี๋ยวจะเลยฤกษ์”
“ค่ะ ๆ” นางนวลตาหันไปยิ้มรับกับยอช คนของเจ้าบ่าวผู้มีเงินถุงเงินถัง ลูกชายคนดังของที่นี่ จับมือเธอแน่น ๆ อีกที เอ่ยสำทับแววตารื้นไปด้วยน้ำตาเล็กน้อย “ลูกของแม่ไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้วนะ โตแล้ว แต่งงานแล้ว มีสามีแล้ว ต่อไปก็จะมีลูก หนักนิดเบาหน่อย ให้อภัยกันนะ รักกันมั่นคงนะลูกนะ แม่ฝากน้องด้วยนะคะคุณกฤตยชญ์”
เจ้าบ่าวรับคำเสียงยาวยานคาง “ครับ...”
แล้วถึงถูกคนของกฤตยชญ์พาออกจากห้องไปในเวลาต่อมา พอครอบครัวของเจ้าสาวออกไปจนหมดแล้ว ยอชก็เข้ามาหานายของตนอีกครั้ง
“ให้เฝ้าไหมครับนาย”
กฤตยชญ์โบกมือไล่ทำนองว่าไม่ต้อง พร้อมบ่นเสียงดัง
“กูจะนอนกับเมีย มึงจะเฝ้าทำไม”
ยอชมองนายแล้วมีสีหน้าไม่ดีนัก อึกอัก พูดไม่เต็มปากเต็มคำ เตือนนายว่า “ถ้าเกิด มันโผล่มาล่ะครับ...”
“ไอ้ฉิบหาย! มึงกลัวมันจนขี้ขึ้นสมองหมดแล้วหรือไงวะ”
กฤตยชญ์เค้นเสียงด่าลูกน้อง ใจของเขาเองก็เต้นตุบ ๆ ขึ้นเมื่อเอ่ยถึง ‘มัน’ ยอชได้แต่มองแล้วก็เงียบ คิดอยู่ในหัวว่านายเองก็กลัวคนที่ตนกล่าวถึงไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้คนของตัวเองสับขาหลอกว่าจัดงานในเมือง แต่แท้จริงแอบมาจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ แถวบ้านเจ้าสาวแบบนี้หรอก แล้วยอชก็เลือกที่จะเงียบ ไม่พูดอะไรให้คนเป็นนายต้องโมโหมากไปกว่านี้ ประเดี๋ยวความดันขึ้น ไม่ได้เข้าหอ ยอชจะซวยอีก
กฤตยชญ์ยังอารมณ์เสียคงค้างอยู่ เมื่อได้ยินลูกน้องเอ่ยถึงอริผู้นั้น
“อะไรนักหนาวะ กูเป็นใคร มันเป็นใคร ลองมันโผล่หัวมาสิ พ่อจะจับถลกหนังเอาหุ้มแทนรองเท้าคู่นี้เลย มึงออกไปได้แล้ว ไม่ต้องมาเฝ้า ถ้าอยากลองน้องเขาบ้าง ให้กูเบื่อก่อน เดี๋ยวยกให้วันหลัง”
ได้ยินเจ้าบ่าวพูดจาห่าม หยาบคายออกมาแบบนั้นก็ให้รู้สึกราวกับถูกเขาฉีกชุดของเธอออกต่อหน้าลูกน้อง คิดอย่างเข้าข้างเขาว่าคงพูดติดตลกไปอย่างนั้นเอง จะเอาอะไรกับคนเมา แล้วปลอบโยนตัวเองด้วยการนึกถึงคำพูดของพี่สาว ในวันที่กฤตยชญ์มาพูดจาสู่ขอเธอกับบิดามารดา
‘คุณกฤตยชญ์เขาแต่งงานด้วย นี่แสดงว่าเขารักเรามากนะบุณ ผู้หญิงคนอื่นที่พี่ได้ยินมา คุณเขาลงทุนแบบนี้ที่ไหนกัน ไม่มี้ เขาชอบใครเขาก็เอามาทำเมียเลย พอเบื่อก็เอาเงินฟาดหัวแล้วทิ้งไป ไม่เคยได้ยินว่าจะยกขันหมากไปสู่ขอใครแบบนี้มาก่อน บุญหล่นทับเราแล้วบุณเอ๊ย นึกแล้วพี่ยังอิจฉาเราอยู่เลยเนี่ย’
สินสอดห้าแสน ทองสิบบาทคือสิ่งที่กฤตยชญ์นำมาสู่ขอ นั่นมากพอที่จะให้บิดามารดานำมาใช้จ่าย และปันไปใช้หนี้ยิบย่อยในบางส่วน
คิดมาถึงตรงนี้ก็สะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินประตูห้องปิดลง หันไปมองพบว่ายอชไม่อยู่แล้ว พลันเพลงจากด้านนอกดังแทรกเข้ามา ก็ให้รู้สึกว่ามันดังมากกว่าเดิม เป็นทำนองสนุกสนานคึกคัก คงเอาใจพวกคอเหล้าที่ยังนั่งดื่มกันอยู่
“เหลือแค่เราแล้วนะครับน้องบุณ”
กฤตยชญ์พูดขึ้นที่อีกทาง เลยหันไปมอง พบว่าตอนนี้เขาเข้ามายืนอยู่ใกล้เธอแล้ว พร้อมมองมาด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ถามยิ้ม ๆ “ตื่นเต้นไหมครับ”
ชายที่กำลังจะก้าวมาเป็นสามีของเธอ ไม่รอคำตอบ เขาบอกอย่างหมายมาด “พี่ฟาสรอน้องบุณมานานแค่ไหนแล้ว รู้ไหม”
