บท
ตั้งค่า

4

เดี๋ยวกูพิสูจน์ให้ ว่าน้องเขายังสดจริง”

“อย่าเข้ามานะ! / อย่านะโว้ย!” เสียงห้ามจากปากของเธอและกฤตยชญ์ดังขึ้นแทบพร้อมกัน

และชายคนนั้นก็ถูกกฤตยชญ์เข้ามาดึงจากทางด้านหลัง คนบุกรุกแค่เบี่ยงตัวหน่อยเดียว แล้วใช้โอกาสได้เปรียบเหวี่ยงขาเตะเข้าที่ชายโครงของกฤตยชญ์ แค่นั้นกฤตยชญ์ก็ลงไปนอนกองที่พื้นอีกรอบแล้ว

บุณย์นราเห็นว่าเจ้าบ่าวของเธอเป็นรองอีกฝ่าย คงเพราะเขาเมามากเลยทำให้เพลี่ยงพล้ำ หัวก็คิดหาทางช่วยเหลือกฤตยชญ์ในทันที

เธอพุ่งตัวเข้าไปดึงแขนชายแปลกหน้าคนนั้น ออกแรงรั้งชายร่างสูงใหญ่ด้วยสองมือของตัวเอง เพื่อให้กฤตยชญ์ได้มีโอกาสสู้เอาตัวรอดได้บ้าง แต่เธอก็สู้แรงของผู้ชายคนนั้นไม่ไหว ถูกเขาเหวี่ยงทีเดียวก็เกือบหลุด แต่มือเธอเหนียวพอตัว บุณย์นราเกาะแขนชายคนนั้นแน่น แล้วก้มลงกัดแขนล่ำและแข็งไปด้วยมัดกล้ามสุดแรงที่มี ทำให้กฤตยชญ์สบโอกาสเหมาะที่จะเอาคืน ลุกขึ้นกระหน่ำหมัดใส่ชายคนนั้น แต่อีกฝ่ายมีฝีมือมากกว่าจึงหลบได้อีก

เธอเลยพลอยถูกลูกหลงไปด้วยในจังหวะนั้น เพราะเขาตวัดแขนข้างที่เธอกัดอยู่เหวี่ยงออก บุณย์นราจึงกระเด็นไปกระแทกกับเตียงนอน หญิงสาวถึงกับหลุดปากร้องโอยขึ้น รู้สึกเสียวแปลบที่บั้นท้าย หันไปดูกฤตยชญ์อีกที เห็นเขาลงไปนอนนิ่งกองอยู่ที่พื้นแล้ว

“พี่ฟาส!” เธอเรียกชื่อเล่นของกฤตยชญ์ด้วยความเป็นห่วง

นาทีนั้นเองที่เธอเห็นชายแปลกหน้าดึงเอาปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลัง จ่อไปยังศีรษะของกฤตยชญ์ ขึ้นนกรอเตรียมยิง และการได้เห็นคนกำลังจะถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ก็ทำให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อย

บุณย์นราถลาเข้าไปยืนขวางไว้อย่างที่ไม่มีเวลาคิดถึงความตาย เธอมองหน้าชายคนนั้นตรง ๆ พูดด้วยปากคอที่สั่นจนคุมไม่อยู่

“ฉันไม่รู้ว่าคุณกับพี่ฟาสเคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่ฉันขอร้อง ว่าอย่าถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลยนะ”

ชายคนบุกรุกไม่พูดอะไรโต้ตอบ เขาหรี่ตามองเธอแล้วยิ้มหยันออกมาหน่อยหนึ่ง หันไปทางกฤตยชญ์อีกครั้ง ยกข้อมือที่กำปืนเล็งตรงศีรษะของคู่กรณี เตรียมยิง

บุณย์นราเห็นแล้วดูท่าไม่ดี ก็มองหาทางเอาตัวรอด ก้าวถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนไปชนเข้ากับโต๊ะที่มีโคมไฟตั้งอยู่บนนั้น เหลือบตามองมัน แล้วจึงไพล่มือไปทางด้านหลัง คว้าโคมไฟได้ยกเงื้อขึ้นเหนือศีรษะ วิ่งตรงไปหาคนที่มีปืนอยู่ในมือออกแรงจะฟาด แต่เขาหลบทันแบบฉิวเฉียด ส่วนเธอนั้นถลาลงไปนอนกองที่พื้น หน้ากระแทกเข้ากับโคมไฟในมืออย่างจัง เจ็บแปลบที่กลางหน้าผากในวินาทีต่อมา

แล้วได้ยินเสียงร้องดังขึ้นอีกครั้ง หันไปมองก็เห็นว่าเขาเตะอัดเข้าที่ท้องของกฤตยชญ์สามถึงสี่ทีเห็นจะได้ จนอีกฝ่ายนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น คราวนี้เขายอมเก็บปืนเข้าที่เดิม แล้วเปลี่ยนจุดหมายจากกฤตยชญ์ตรงมาที่เธอแทน

บุณย์นราชักใจคอไม่ดี เห็นสายตาเย็นชาดุดันแบบนั้นใช่ว่าเธอไม่กลัวเขาเสียที่ไหน เมื่อครู่คงเสียจังหวะเพราะเธอ นี่คิดจะทำร้ายเธออีกคนแล้วกระมัง วันนี้มันวันแต่งงานเธอแท้ ๆ เลย จะกลายเป็นงานศพในอีกวันถัดไปหรืออย่างไรกัน

คิดได้อย่างนั้นแล้วก็นึกกลัวขึ้นมา หันหลังเตรียมหาทางหนีออกจากห้อง แต่ออกวิ่งได้ไม่ถึงสองก้าวดีด้วยซ้ำ ก็ถูกเรี่ยวแรงที่ทั้งไวกว่าและเหนือกว่ารั้งชุดเจ้าสาวของเธอเอาไว้ เขาออกแรงอีกทีกระชากชุดออกเสียงฉีกขาดไม่ดังนัก แต่รับรู้ถึงไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่กระแทกเข้ามายังเนินทรวงของเธอ

เหลือบตาลงมองชุด พบว่ามันขาดวิ่นปกปิดส่วนสงวนเอาไว้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว จังหวะที่กำลังสำรวจชุดตัวเองอยู่นั้น บุณย์นราพบว่าตัวเธอเองถูกเขาจับเหวี่ยงลงไปนอนอยู่บนเตียงแล้ว

ตั้งสติได้ รีบขยับลุก ดันตัวหนี แต่ก็ถูกร่างใหญ่โตของชายผู้นั้นตามลงมากดเอาไว้ทั้งตัว พร้อมขู่เสียงขรึมเข้มขึ้น

“ถ้ายังดิ้นอีก จะเอาให้ขาดหมดเลย ทั้งข้างนอก ข้างใน!”

เธออยากถามเขานัก ว่ายังเหลืออะไรให้เขาทำฉีกขาดได้อีก ในเมื่อชุดเจ้าสาวของเธอแทบไม่เหลือเป็นชิ้นเดียวกันแล้ว

ข้างในอย่างนั้นหรือ

นี่เขาคงไม่คิดจะฉีกชุดชั้นในของเธอด้วยหรอกนะ

คิดได้อย่างนั้น บุณย์นราก็เริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ชุดข้างนอกขาดยังพอทน ถ้าชุดชั้นในเธอขาด มันไม่วาบหวิวเกินไปหรืออย่างไร

“ดิ้นทำไมนัก”

ชายคนนั้นกระชากเสียงดุใส่ พร้อมจับบุณย์นราพลิกนอนคว่ำหน้าลง หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น เสียงที่เอ่ยก็สั่นตามไปด้วย

“ฉันเจ็บ ปล่อยฉันเถอะ”

เท่านั้นเองร่างสูงใหญ่นั่นถึงได้ลดแรงกดที่แผ่นหลังของเธอเล็กน้อย ยังไม่คลายความตื่นตระหนกดี ก็ต้องหลุดเสียงหวีดร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อร่างของเธอถูกตวัดขึ้นราวกับตุ๊กตา และตอนนี้ลำตัวของเธอก็พาดอยู่บนบ่าแข็งแรงของชายคนนั้นแล้ว

บุณย์นราพยายามขืนคอผงกหัวขึ้น ตะเบ็งเสียงเรียกคนอื่น

“ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ!”

แต่แล้วกลับพบว่าเสียงของเธอไม่ดังเท่าไรนักในท่าทางห้อยหัวแบบนี้ แถมยังถูกมือหนาใหญ่ของชายคนนั้นฟาดลงที่บั้นท้ายของเธอเต็มแรง ซ้ำตรงที่กระแทกชนขอบเตียงเมื่อครู่ พร้อมกับเสียงขู่สำทับตามหลังมา

“ไอ้สวะพวกนี้ มันไม่รู้จักหรอกว่าอันไหนของนาย อันไหนของมัน ลองได้มาเจอเธอสภาพนี้ รับรองได้ว่าโดนเรียงคิวแน่ แต่เท่าที่กะดูตอนเข้ามา คนก็ไม่ได้เยอะมากนะ หมดทั้งงานนี่ร้อยกว่าคิวเท่านั้นเอง”

คิดจะขู่กันหรือ แล้วเบ่งใส่คนโฉดชั่วออกไป

“ฉันเป็น...” บุณย์นราว่าแล้วก็อึกอักพูดต่อไม่ออก ข่มอายพูดไป “ฉันเป็นเมียของพี่ฟาสแล้ว คนพวกนั้นไม่กล้าเรียงคิวฉันหรอก ไม่ต้องมาขู่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel