1
งานเลี้ยงงานแต่งของลูกชายเสี่ยคาเช็งจัดไม่เงียบนัก กระนั้นก็ไม่ได้ใหญ่โตพอสมกับฐานะพ่อค้ารายใหญ่คนดัง ดูแล้วออกจะผิดธรรมเนียมปฏิบัติของวงศ์ตระกูลอยู่ไม่น้อย แทนที่จะจัดอย่างหรูหราในโรงแรมมีชื่อ แต่นี่กลับเลือกจัดที่ลานหน้าบ้านเช่าหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกับเจ้าสาวเพียงเท่านั้น
โต๊ะกินเลี้ยงมีสิบโต๊ะ อารมณ์คล้ายจัดกินดื่มให้พรรคพวกเพื่อนพ้องลูกน้องเสียมากกว่า ใครผ่านไปมามองแทบไม่ออกว่านี่คืองานเลี้ยงงานแต่งงาน ถ้าไม่เห็นป้ายเล็ก ๆ ที่มีชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวแขวนเอาไว้ตรงด้านในสุดของขอบเวทีนั่น
บุณย์นรา ? กฤตยชญ์
หญิงสาวเจ้าของชื่อบนป้ายนั่งยิ้มฝืน ๆ เมื่อมีคนส่งแก้วให้เธอ แต่แล้วกฤตยชญ์ก็ยื่นมือรับไปดื่มเสียเอง
เธอผ่านพิธีงานช่วงเช้าที่จัดแบบรวบรัดมาแล้ว หลังจบพิธีพวกนั้นก็เห็นคนของเจ้าบ่าวเริ่มตั้งโต๊ะดื่มกันทันที ได้ยินเพื่อนเขาแซวตอนเริ่มดื่มไปได้พักหนึ่งแล้ว ว่า
“ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอตั้งสี่ทุ่ม ทำไมไม่ให้ไวกว่านี้หน่อยวะ”
เลยอยากลุกหนีออกจากตรงนั้นนัก แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ต้องทนนั่งปั้นยิ้มน้อย ๆ ตามองบรรยากาศรอบงานไปพลาง ฟังเพลงไปพลาง เตรียมตัวเตรียมใจเป็นเจ้าสาว เมื่อการเฉลิมฉลองจบลง จะว่าไปแล้วถึงเวลานั้นเธอก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ บอกตัวเองว่าต้องทำใจ ในเมื่อเธอเลือกที่จะทำแบบนี้แล้ว
พลันเสียงจากวงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงทำนองสนุกสนานครึกครื้นมากขึ้น เจ้าบ่าวขยับตัวตามจังหวะและสนุกกับการดื่มกินกับพวกพ้องกว่าเดิม เห็นเขาเพียรรับแก้วจากคนอื่นมาดื่มจนใบหน้าเริ่มออกสีแดง บทสนทนาบนโต๊ะก็เริ่มแย่ลง ฟังหยาบโลนและคุกคามเธออยู่ไม่น้อย
ตอนนั้นเองที่บุณย์นราได้ยินเจ้าบ่าวเอ่ยปรามพรรคพวกเขา
“พอได้แล้ว! เดี๋ยวน้องบุณของกูกลัวไม่ยอมเข้าห้องหอขึ้นมา กูจะยิงหัวพวกมึงรายตัวเลยคอยดู”
นั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิดเดียว
ปกติคุณกฤตยชญ์ออกจะเป็นคนพูดจาไพเราะอ่อนหวาน ช่างเอาใจ ที่สำคัญเขานิสัยรวยมาก และเขาก็ไม่ได้ดีแต่กับเธอ กับครอบครัวของเธอ เขาก็ยังดีไม่น้อยเลย นอกจากให้เงินก้อนหนึ่งกับบัญชา พี่ชายของเธอเอาไปต่อทุนแล้ว ยังช่วยใช้หนี้ดอกเบี้ยมหาโหดจากเงินกู้นอกระบบที่ครอบครัวของเธอไปกู้มาอีกด้วย
“นายดื่มได้อีกแก้วเดียวแล้วนะครับ ไม่อย่างนั้นความดันจะขึ้น แล้วอาจจะ... ไม่ไหว” เสียงยอช ลูกน้องคนสนิทกระซิบบอกกับผู้เป็นนายของตัวเอง
เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย มีหรือจะไม่ได้ยิน เลยขยับตัวอย่างอึดอัด ไม่สบตากับคนในงานอีกต่อไป เมื่อพบว่าพวกนั้นมองมาด้วยสายตาเช่นไร แม้เพิ่งเรียนจบมาหมาด ๆ ปริญญาบัตรก็ยังไม่ได้รับ แต่พออ่านแววตาอ่านความรู้สึกของคนได้บ้าง
จึงผินหน้าไปทางอื่น มองหาคนในครอบครัวที่นั่งแยกอยู่อีกโต๊ะตรงมุมสุดของลานจัดเลี้ยง เห็นว่าทางนั้นมองเธออยู่เช่นกัน เลยฝืนยิ้มกว้าง ๆ ให้พวกเขาสบายใจ มองทางเจ้าบ่าวเห็นเขาคุยกับเพื่อนที่ล้อมรอบตัวท่าทีออกรสออกชาติ จึงค่อยหันกลับไปมองที่วงดนตรีชื่อดัง บนนั้นมีนักร้องสาวสวยแต่งตัวยั่วยวนกำลังเล่นเพลงสดกันอยู่
อีกหลายนาทีต่อมา บุณย์นราถึงได้ยินลูกน้องของเจ้าบ่าวคุยกันอยู่ที่โต๊ะด้านหลังเยื้องออกไปเล็กน้อย
“เห็นงานสงบแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจหน่อย ดีนะที่นายให้คนปล่อยข่าวลวงสายของมัน ว่าจัดงานแต่งที่โรงแรมในเมืองโน่นโง่ฉิบหายเลย เมื่อกี้ไอ้นนท์มันโทรมารายงานนายแล้วว่าในโรงแรมเละเป็นโจ๊กเพราะมีคนไปถล่มงานมา”
“แล้วถ้ามันไม่โง่ล่ะวะ”
“มึงจะพูดทำไม กูยิ่งเสียวสันหลังอยู่ว่ามันอาจจะรู้ทันนายของเรา”
บุณย์นรามุ่นคิ้วเล็กน้อย เมื่อได้ยินคนของกฤตยชญ์คุยกันด้วยน้ำเสียงเหมือนกริ่งเกรงบุคคลที่สามเช่นนั้น แล้วหันไปมองการแสดงต่อเมื่อนักร้องโชว์เพลงยอดนิยมให้ได้ฟัง ผ่านไปเป็นครู่ใหญ่แล้วถึงได้ยินยอช คนสนิทของกฤตยชญ์เข้ามากระซิบใกล้ ๆ
“ได้ฤกษ์ส่งตัวแล้วนะครับ”
เจ้าบ่าวที่ใบหน้าแดงก่ำ ค่อยหมุนคอมองที่เธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ราวกับจะถอดชุดของเธอออกทั้งตัวด้วยสายตาคู่นั้น ถามด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อย “พร้อมไหมครับน้องบุณ พี่ฟาสพร้อมมาก ๆ” ว่าจบตบอกตัวเองดัง ๆ แล้วลุกพรวดขึ้น แต่ก็เซส่ายไปส่ายมาจนเกือบล้ม คนของเขาถลาเข้ามาช่วยประคองแทบทั้งงานในวินาทีนั้นเอง
กฤตยชญ์สะบัดตัวออกจากฝูงลูกน้อง ตรงมาคว้ามือเธอจูงเข้าบ้านไม่สนสายตาใครอื่นอีก ห้องหอคือห้องห้องหนึ่งภายในบ้านเช่าหลังนั้น ถูกจัดแต่งใช้ไปพลาง ๆ ก่อนในคืนส่งตัวคืนนี้กฤตยชญ์บอกกับพ่อแม่ของเธอ ว่าเขาจะพาเธอย้ายเข้าบ้านของเขาในวันถัดไป
ผู้ใหญ่ฝ่ายเธอมีพ่อ แม่ พี่ชายและพี่สาวมากันครบหมด แต่ทางฝั่งเจ้าบ่าวกลับไม่มีผู้ใหญ่ของเขาเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงกฤตยชญ์ เพื่อนและลูกน้องที่ติดสอยห้อยตามสองคนยืนคุมเชิงที่หน้าห้อง พิธีส่งตัวเลยไม่มีขั้นตอนอะไรมากมายนัก
“คุณพ่ออำนวยกับคุณแม่นวลตาอวยพรบ่าวสาวเลยครับ เดี๋ยวจะเลยฤกษ์งามยามดีเสียก่อน เฮียแกถือฤกษ์ด้วยสิครับ” ยอชเร่งทางบิดามารดาของเธอ เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว
นายอำนวยและนางนวลตาจึงพยักหน้าตอบรับ รีบตรงเข้ามาอวยพรให้เธอกับกฤตยชญ์พร้อมกัน ส่วนบัญชากับบุณฑริกา พี่ชายและพี่สาวของเธอได้แต่มองแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ ไม่มีใครพูดจาอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ให้ผู้ใหญ่ซึ่งในที่นี้มีแค่สองคนเท่านั้นให้พรให้คำแนะนำการใช้ชีวิตคู่กันไป
