ตอนที่ 2 : สัญญาแต่งงานสามเดือน
ข่าวเช้าวันต่อมา ดังกว่าฝนเมื่อคืน
ภาพหญิงสาวในเสื้อโค้ตดำกับอีกคนในผ้ากันเปื้อนสีเทาถูกแชร์เต็มหน้าเพจข่าวธุรกิจ “ลิน ณวากร ซีอีโอหญิงแห่ง NAVA Group กับหญิงปริศนาในร้านกาแฟกลางดึก” พาดหัวตัวโตบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ
ลินนั่งนิ่งอยู่ในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึก มือถือวางคว่ำไว้ข้างแฟ้มงาน สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ในใจรู้ดีว่า ข่าวนี้กำลังลามเร็วเหมือนไฟบนพื้นน้ำมัน
เลขาฯ เคาะประตูเบา ๆ “คุณลินคะ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ถามว่าจะออกแถลงไหมคะ”
“ไม่” ลินตอบทันที “อย่าแตะเรื่องนี้ ปล่อยไว้แบบนั้น”
หญิงสาวลังเล “แต่คุณแม่ของคุณ…”
“บอกเธอว่าฉันจะจัดการเอง”
ลินพูดขาดคำแล้วลุกขึ้น เดินไปที่หน้าต่างมองลงไปยังเมืองที่ถูกฝนซัดอีกวัน เธอเห็นภาพสะท้อนตัวเองในกระจกใส — หญิงที่คนมองว่ามีครบทุกอย่าง แต่ในความจริงกลับไม่มีแม้แต่คนที่จะยืนข้าง ๆ โดยไม่หวังผล
“แต่งงานซะ”
เสียงแม่จากเมื่อวานยังติดอยู่ในหัว
เธอพึมพำเบา ๆ “ถ้ามันต้องแต่งจริง ๆ ก็ต้องมีคนยอมร่วมข้อตกลงด้วย”
ในโลกของธุรกิจ ทุกอย่างเจรจาได้ — แม้แต่เรื่องหัวใจ
⸻
ช่วงบ่าย ลินเปิดคอมพิวเตอร์ เขียนร่างเอกสารที่ดูเหมือนสัญญาจ้างทั่วไป แต่หัวข้อใหญ่ตรงกลางคือ
“สัญญาแต่งงานชั่วคราว ระยะเวลา 3 เดือน”
มือเรียวยังคงพิมพ์ต่อไปอย่างใจเย็น
ข้อที่ 1: ทั้งสองฝ่ายตกลงแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อที่ 2: ไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
ข้อที่ 3: ห้ามเปิดเผยข้อตกลงแก่บุคคลภายนอก
ข้อที่ 4: เมื่อครบกำหนด สัญญาถือเป็นอันสิ้นสุด
เธอหยุดพิมพ์ตอนมาถึง “ชื่อผู้เข้าร่วมฝ่ายที่สอง”
หน้าว่างโล่งสะอาดนั้นทำให้เธอนึกถึงรอยยิ้มของหญิงสาวที่ชื่อ “มีนา” ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ
“บางคนอาจอยากเป็นแค่คนธรรมดาในบางคืน…”
เสียงของมีนาในคืนนั้นยังชัดเจน อบอุ่นกว่าชาเอิร์ลเกรย์ทุกถ้วย
ลินพิงหลังพนักเก้าอี้ สูดหายใจลึก — บางที “ผู้หญิงธรรมดา” คนนั้น อาจเป็นคำตอบชั่วคราวที่เหมาะที่สุดในเวลานี้
⸻
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ผู้ช่วย
“หาเบอร์ร้านกาแฟ Blue Hour ให้ฉันที”
“จะให้ติดต่อเรื่องสปอนเซอร์เหรอคะ?”
“ไม่ใช่” ลินตอบเรียบ “ส่วนตัว”
เสียงกระดิ่งประตูร้าน “Blue Hour” ดังขึ้นเบา ๆ มีนาเงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟอย่างประหลาดใจ — ไม่คิดว่าจะเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นอีก
“คุณ…” เธอพูดพลางยิ้มเกรงใจ “วันนี้ฝนยังไม่ตกนะคะ ไม่ต้องหลบก็ได้”
ลินยืนอยู่หน้าประตูในชุดสูทเรียบเฉียบ มือถือเอกสารซองบางสีขาวไว้แน่น “ฉันมาเพราะอยากคุย”
มีนาขมวดคิ้ว “เรื่องอะไรเหรอคะ”
“เรื่องงาน”
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ “งานกาแฟเหรอคะ ฉันไม่เก่งเรื่องอื่นเท่าไหร่”
ลินส่ายหน้า “ไม่ใช่งานแบบนั้น” เธอวางซองเอกสารลงบนโต๊ะ “อ่านดูสิ”
มีนาเช็ดมือแล้วเปิดซองออก เสียงกระดาษเสียดกันเบา ๆ ภายในมีเอกสารพิมพ์อย่างเป็นทางการ ด้านบนสุดเขียนว่า
“ข้อตกลงสัญญาแต่งงานระยะเวลา 3 เดือน”
เธอเงยหน้าขึ้นทันที “นี่คุณหมายความว่าไงคะ?”
“หมายความตามนั้น” ลินตอบนิ่ง “ฉันต้องการคนช่วย เพื่อจัดการเรื่องข่าวและภาพลักษณ์ของบริษัท”
มีนากระพริบตาถี่ “คุณต้องการให้ฉันแต่งงาน…ปลอม ๆ กับคุณงั้นเหรอ?”
“ใช่ เป็นเพียงสัญญา ไม่มีอะไรเกินเลย”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉัน”
“เพราะชื่อของคุณปรากฏอยู่ในข่าวไปแล้ว ถ้าเปลี่ยนคนตอนนี้จะดูน่าสงสัย”
มีนาวางกระดาษลง “คุณรู้ตัวไหมว่าสิ่งที่พูดมันฟังดูแปลกมาก”
“ฉันรู้” ลินตอบเรียบ “แต่ฉันไม่มีทางเลือก”
บรรยากาศในร้านเงียบลงจนได้ยินเสียงฝนเริ่มโปรยอีกครั้งข้างนอก ลินพูดต่อด้วยน้ำเสียงช้าแต่มั่นคง
“ฉันจะไม่บังคับคุณ ถ้าคุณตกลง ฉันจะชดเชยเป็นเงินจำนวนมากพอช่วยร้านของคุณต่อได้เป็นปี”
มีนาชะงัก ดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อย “คุณ…รู้ได้ยังไงว่าฉันมีปัญหาเรื่องร้าน?”
“ฉันตรวจสอบไว้แล้ว” ลินตอบตรง “ยอดขายคุณลดลงต่อเนื่อง สามเดือนนี้คุณขาดทุนทุกเดือน”
คำพูดนั้นเหมือนมีดบางเฉือนเข้าใจกลาง ความอายแวบผ่านใบหน้ามีนา “คุณสืบเรื่องฉัน?”
“ฉันเรียกว่าการประเมินความเสี่ยง”
หญิงสาวหัวเราะสั้น “คุณพูดเหมือนนี่เป็นโครงการอีกชิ้นในชีวิต”
“ใช่ มันคือโครงการหนึ่งที่ฉันต้องทำให้สำเร็จ”
มีนานิ่งไปนาน สายตาเธอมองเอกสารตรงหน้า เสียงฝนข้างนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เธอพลิกหน้าสุดท้าย อ่านประโยคปิดท้ายของสัญญา
“เมื่อครบกำหนดสามเดือน ข้อตกลงถือเป็นอันสิ้นสุดโดยไม่มีภาระผูกพันใด ๆ”
“ฟังดูง่ายดีนะคะ” มีนาพูดเบา ๆ “แต่มันง่ายจริงเหรอ?”
“ถ้าคุณรักษากติกา มันก็ง่าย”
หญิงสาวเงยหน้ามองคนตรงหน้า — ใบหน้าลินนิ่งราวกับไม่เหลือความรู้สึกใด ทว่ามีบางอย่างในแววตานั้น…คล้ายความเหนื่อยล้าที่ไม่กล้าแสดง
“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะคะ”
“ฉันจะออกไปจากร้านนี้ แล้วคุณจะไม่เจอฉันอีกเลย”
มีนาหลุบตา มือกำเอกสารแน่นขึ้นเล็กน้อย
มีนานั่งนิ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ เสียงฝนข้างนอกดังพอให้ได้ยินทุกหยด เธอไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงกับคำขอประหลาดนี้ หญิงสาวตรงหน้ามีทั้งอำนาจ เงิน และเหตุผลทุกอย่างในมือ แล้วคนอย่างเธอจะไปต่อรองอะไรได้
“ฉันให้เวลาคิดสองวัน” ลินพูดเสียงเรียบ “ไม่ต้องรีบตอบตอนนี้”
มีนาเงยหน้ามอง “ถ้าฉันตอบตกลง คุณคงไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเจอกับอะไรหลังจากนั้น”
“ฉันรู้มากกว่าที่คุณคิด” ลินตอบสั้น ๆ ดวงตาคมแตะสายตาอีกฝ่ายเพียงเสี้ยววินาที แต่กลับรู้สึกเหมือนเวลาในร้านหยุดนิ่ง
เธอคว้าร่มขึ้นจากมุมเคาน์เตอร์ “ฝนกำลังตก อย่าเดินออกไปตอนนี้เลยค่ะ”
“ฉันชินกับฝนแล้ว” ลินพูด พร้อมเปิดประตูออก เสียงกระดิ่งดัง “กริ๊ง” ตามหลัง กลิ่นกาแฟผสมกลิ่นฝนจางลงไปในอากาศ
มีนาเดินมาปิดประตู เธอมองแผ่นหลังของลินที่ค่อย ๆ ละลายไปในม่านฝน ความรู้สึกในใจหนักแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่าง “กลัว” กับ “สงสาร” และในความเงียบนั้น เธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงกว่าทุกครั้ง
สองวันต่อมา —
ลินนั่งรออยู่ในร้านเดิม ไม่มีเอกสาร ไม่มีโทรศัพท์ มีเพียงถ้วยชาเอิร์ลเกรย์ตรงหน้า เธอไม่แน่ใจว่ามีนาจะมาไหม แต่ก็ยังรอ
ประตูดัง “กริ๊ง”
มีนาเดินเข้ามาในชุดเดิมจากวันนั้น เสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบ กับผ้ากันเปื้อนสีเทา เธอเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะ ลินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ
“คิดดีแล้วหรือยัง”
มีนาวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงตรงหน้า — สัญญาที่เซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว
“ฉันจะลองเชื่อคุณดูสักครั้ง”
ลินสบตาเธอ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาในวินาทีนั้น มีเพียงความนิ่งที่สื่อได้มากกว่าคำขอบคุณ
“แต่มีข้อแม้” มีนาเอ่ยต่อ “ระหว่างสามเดือนนั้น ฉันไม่อยากเป็นแค่ ‘ภาพ’ ในชีวิตคุณ ถ้าคุณอยากให้ฉันแสดงบทภรรยา ฉันจะทำ แต่คุณต้องมองฉันเป็นคนจริง ๆ”
ลินพยักหน้า “ตกลง”
ฝนหยุดตกพอดี แสงอาทิตย์สาดผ่านกระจกหน้าร้านเข้ามาเป็นเส้น ลินมองมันเงียบ ๆ เหมือนรู้ว่าชีวิตตัวเองกำลังจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ข้อตกลงเริ่มต้นแล้ว — และมันจะเปลี่ยนทุกอย่างที่ทั้งคู่เคยเชื่อเกี่ยวกับ “ความรัก”