บทนำ เจ้าบ่าวเที่ยงคืน (2)
แต่เธอก็คิดไม่ออกเท่านั้นว่าเคยเจอเขาจากไหน นั่นอาจเป็นเพราะความทรงจำบางส่วนของเธอยังไม่ฟื้นกลับมาก็เป็นได้ ตัวพรมแดนนั้นสุภาพ เรียบร้อย ตลอดสามเดือนที่คบหาเพื่อศึกษากันนั้นเขาดีกับเธอมาก
นอกจากความสุภาพแล้ว เขายังทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีเพื่อน และมีพี่ชายในคนเดียวกัน ในเมื่อพรมแดนก็เข้ากับเธอได้ดี และเธอเองก็รู้สึกดีกับเขา ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับเขา
หากถามว่าเธอรักเขาไหม ในตอนนี้เธอตอบได้เต็มปากเลยว่า ‘ไม่รัก’
แต่ที่เลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต เพราะตอนที่ได้อยู่กับเขาแล้วเธอรู้สึกสบายใจ มันก็แค่นั้น...
หลังจากหลับสนิทต่อเนื่องมาเจ็ดชั่วโมงเต็มน้ำมนต์ก็ตื่นขึ้นในตอนเช้า ทว่าเธอไม่พบสามีนอนอยู่บนเตียงแต่อย่างใด ก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน
แต่การที่สามีป้ายแดงหายหน้าไปในคืนวิวาห์ มันก็ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย เขารังเกียจเธอหรือไง ถึงได้ไม่ร่วมหอร่วมห้องกับเธอ?
พรมแดนต้องมีเหตุผลสิ!
น้ำมนต์รีบลุกขึ้นไปจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กำลังแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น พอเดินไปเปิดน้ำมนต์ก็พบว่าเป็นพรมแดน อีกทั้งแม่สามีก็กำลังเดินออกจากห้องในฝั่งตรงข้ามพอดี
เธอไม่ได้ทักทายแม่สามีเพราะให้ความสนใจกับสามีมากกว่า
พรมแดนไม่พูดไม่จา แต่รั้งตัวเธอเข้ามากอดพร้อมก้าวเข้ามาในห้องนอนโดยใช้แผ่นหลังปิดประตู แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมายาว...
“พี่หายไปไหนมาทั้งคืนคะ?” หญิงสาวถามเสียงอู้อี้เพราะยังถูกผู้เป็นสามีกอดไว้
“เมื่อคืนเพื่อน ๆ กลับไปตอนตีสอง ผมมาเรียกแต่ห้องนอนล็อก คิดว่าน้ำคงหลับแล้วผมเลยไปนอนที่ห้องเดิม”
น้ำมนต์เงยหน้ามองสามี
“ทำไมไม่เรียกน้ำล่ะคะ?” เธอคงเผลอกดล็อกประตูเพราะความเคยชิน
“ไม่อยากรบกวนคนหลับน่ะ” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ พลางวางมือไว้บนศีรษะของหญิงสาวแล้วโยกเบา ๆ
“น้ำขอโทษนะคะ” หญิงสาวบอกเสียงแผ่ว ดีที่เขาพูด เขาอธิบาย ไม่อย่างนั้นเธอคงเก็บเอาไปคิดมาก
“ไม่เป็นไร น้ำหิวข้าวหรือยัง?” พรมแดนถาม พลางคลายอ้อมแขนออก
“ยังค่ะ”
“ถ้างั้นเราไปเก็บเสื้อผ้ากัน”
น้ำมนต์อดถามไม่ได้ “เก็บเสื้อผ้าไปไหนเหรอคะ?”
ผู้ที่เดินตรงมายังตู้เสื้อผ้าหันมาตอบ “ฮันนีมูน”
น้ำมนต์แก้มแดง เธอไม่ได้ถามต่อว่าเขาจะพาไปไหน นอกจากรีบมาช่วยสามีจัดกระเป๋าเสื้อผ้าแต่โดยดี
##### บทที่ 1
เข้าหอ
เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวกว่าสามชั่วโมง น้ำมนต์ก็เดินทางมาถึง ‘รีสอร์ทแสนสุข’ ที่อยู่ต่างจังหวัด เธอรู้จากสามีว่ารีสอร์ทแห่งนี้เป็นของพ่อสามีที่เธอเองก็ไม่เคยได้พบหน้าท่านแต่อย่างใด ทั้งนี้เป็นเพราะพ่อกับแม่ของพรมแดนหย่าร้างกันไปตั้งแต่พรมแดนอายุเพียงไม่กี่ขวบ
“ถึงพ่อกับแม่ของผมจะเลิกกัน แต่พวกลูก ๆ ก็ไปมาหาสู่กันตลอด” พรมแดนเล่าด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ
ไปมาหาสู่กันตลอด... เขาพูดแบบนี้ก็แสดงว่าพรมแดนไม่ได้มีแต่น้องสาวฝาแฝด แต่ยังมีพี่น้องคนอื่น ๆ ด้วย น้ำมนต์ได้แต่รับฟัง เพราะเธอไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อของสามีมากนัก แม่ของเธอก็ไม่เคยพูดถึงอดีตสามีของมาดามพุฒซ้อนซะด้วย
“ผมว่าที่นี่บรรยากาศดีนะ น้ำชอบมั้ย?” ขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถวีไอพีของทางรีสอร์ท ชายหนุ่มก็หันมาถามเพื่อนร่วมทางที่เขาตั้งใจพามา ‘ปล่อย’
“ชอบค่ะ ร่มรื่นดี” หญิงสาวตอบไปตามที่คิด
นานมากแล้วที่เธอไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ ก็ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอเลยไม่กล้าขับรถ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีโอกาสได้ท่องเที่ยวแบบตามใจฉันอีก
“รออยู่บนรถก่อนนะ ผมไปเอากุญแจบ้านก่อน”
พอพรมแดนติดต่อที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อขอกุญแจบ้านพักเสร็จแล้ว เขาก็เดินนำทางหญิงสาวไปยังที่พักซึ่งเป็นบ้านไม้สร้างอยู่ติดกับธารน้ำตก โดยตัวบ้านนั้นได้สร้างห่างจากบ้านพักหลังอื่น ๆ และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า แค่เห็นบ้านน้ำมนต์ก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที
