ตอนที่ 2
เจ้านายร้ายรัก ๑ / ตอนที่ 2
พอร์ชสีเขียวใบไม้แรกผลิ แล่นเข้ามาจอดหน้าตึกอย่างเรียบร้อย ยังความแปลกใจแก่คนในบ้านไม่น้อย
“ฝนท่าจะตกหนัก น้ำจะท่วมโลก ปลาจะกินดาวเสียละมั้ง คุณทีกลับบ้านได้แต่วัน แถมยังขับรถเข้าบ้านโดยไม่ชนอะไรเลย”
นายสน คนรับใช้ใกล้ชิดผู้เป็นนายบ่นกับแม่ครัววัยกลางคน ด้วยความอัศจรรย์ใจเป็นล้นพ้น
“ดีไม่ใช่หรือ ฉันน่ะภาวนาทุกวัน ให้คุณทีคิดได้ สงสารคุณผู้หญิงท่าน... คุณจินต์รึก็หลาน เลี้ยงมากับมือ คุณทีก็ลูกในไส้ ดีนะที่คุณจินต์พาคุณเมียไปอยู่ต่างประเทศ ไม่งั้น... เฮ้อ พูดไปพูดมาก็เลยพากันนั่งนินทาเจ้านาย แกจะไปทำอะไรก็ไปไป๊”
นางผิวออกปากไล่นายสน ส่วนตัวเองก็ขมีขมันโขลกน้ำพริกแกงเตรียมสำรับมื้อเย็นต่อ
ถ้านางผิวมีตาทิพย์ก็คงได้เห็นปฏิกิริยาของนายจ้างว่า ไม่ได้ผิดจากตนเท่าใดนัก เพราะคุณหญิงเยาวเรศถึงกับขยับแว่น เพ่งเห็นร่างสูงเพรียวที่เดินปราดเปรียวเข้ามา คล้ายให้แน่ใจ
“นั่นทีหรือลูก? วันนี้กลับแต่วัน”
“เห็นทีคุณแม่ต้องตัดแว่นใหม่เสียแล้ว”
ตอบกลั้วหัวเราะคล้ายขันกิริยาของมารดา
“ก็...แม่ไม่เคยเห็นทีกลับบ้านก่อนตะวันพลบมานานแล้วนี่จ๊ะ”
“ผมเป็นลูกที่ใช้ไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือครับเนี่ย”
ร่างสูงตรงนั่งลงเกือบชิดเข่ามารดา
“คุณแม่ท่าจะตอบลำบาก เอาเถิดครับ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมสัญญาว่าจะปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดี หยำเปมามากแล้ว ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดคุณแม่ในวันอายุครบห้ารอบ”
“ที...”
คุณหญิงเสียงสั่น ดึงมือหนาประกอบด้วยนิ้วเรียวยาว เล็บเจียนมน มากุมไว้ด้วยมือสั่นๆ พอกับน้ำเสียง
“นี่พูดจริงใช่มั้ย?”
“ครับ”
ทีฆายุพลิกมือกุมบอบบางกว่า รู้สึกเหมือนมีอะไรแล่นขึ้นมาจุกคอหอยเมื่อเห็นดวงตามารดาวาววามด้วยน้ำตาของความยินดีที่เอ่อขึ้นมา
“ก็เท่านี้แหละลูก ที่แม่อยากได้ยิน” คุณหญิงเสียงสั่น
การยินยอมให้จินตมัย หลานชายกำพร้าที่คุณหญิงเลี้ยงมาแต่อายุเพียงหกขวบ ได้แต่งงานกับ รมิดา ทั้งๆ รู้ว่าบุตรชายของคุณหญิงก็หลงรักหญิงสาวผู้นั้น ทำให้คุณหญิงรู้สึกไม่สบายใจตลอดมา เพราะนั่นเท่ากับว่าได้หยิบยื่นความผิดหวังชอกช้ำให้กับบุตรชายคนเดียวด้วยมือ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตัดสินใจไปถูกต้องแล้ว ในเมื่อฝ่ายหญิงมีใจให้กับจินตมัยมากกว่าบุตรชายของคุณหญิง
“มิดารักคุณจินต์ค่ะ คุณป้า กับที มิดามีแต่ความรู้สึกฉันเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก”
นั่นคือคำตอบของรมิดา เมื่อคุณหญิงเรียกมาซักถาม ทำให้คุณหญิงจำใจต้องทำร้ายความรู้สึกของบุตรชาย
ทีฆายุไม่ถึงกับเสียผู้เสียคน แต่ความผิดหวังในความรักก็ทำให้เขากลายเป็นเพลบอยขนานแท้ ไม่คิดจะทำตัวให้มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ในฐานะบุตรคนเดียวของพ่อแม่ ทีฆายุหน้าที่ต้องดูแลกิจบริษัทของครอบครัวต่อจากบิดาที่สิ้น แต่เขาก็ไม่เอาใจใส่ วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่น มั่วสุมอบายมุขต่างๆ
เมื่อมาได้ยินคำมั่นสัญญาว่าจะทำตัวเป็นลูกที่ดี เลิกทำตัวเช่นที่แล้วมา มีหรือคุณหญิงจะไม่ปลื้มถึงกับน้ำตาคลอ
“อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้มันผ่านไปเสียนะลูก”
สีหน้าของชายหนุ่มผิดปกติไปเพียงชั่วแวบ
“ครับ... ต่อไปนี้ ผมก็คงตั้งหน้าตั้งตาทำงาน จากนั้นก็หาคนมาผลิตหลานให้คุณแม่เลี้ยง”
เมื่อพูดถึงลูกทั้งที่ยังมองไม่เห็นผู้จะมาเป็นภรรยา ขณะจิตหนึ่ง เขานึกไปถึงหญิงสาวคนหนึ่ง
นึกถึงดวงตากลมโต คุกรุ่นด้วยประกายไฟแห่งโทสะ เมื่อถูกระรานด้วยชายนักท่องราตรีขี้เมา ในผับแห่งหนึ่ง
เขาไม่แน่ใจว่า ภาพสายตาบอกความโกรธระคนดูแคลนของหญิงสาวที่เขารู้สึกว่าออกจะคุ้นๆ ตา เหมือนว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน ขณะมองชายขี้เมาคนนั้นหรือไม่ ทำให้เขาได้คิดขึ้นมาว่า ตัวเขาเองก็คงไม่แตกต่างจากชายนั้น ในยามเหลือสติครึ่งๆ กลางๆ เพราะถูกฤทธิ์น้ำเมาครอบงำ
แต่จะใช่หรือไม่ ก็ทำให้เขาต้องหยุดคิด และพิจารณาพฤติกรรม การกระทำของตัวเองที่ผ่าน แล้วเขาก็ได้พบว่า นับแต่ความรู้สึกผิดหวังในหญิงสาวที่เขาที่เขามีใจให้ ชีวิตเขาก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ
เขาอาจจะยังมีเงิน ยังสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ต้องอนาทร แม้จะไม่ทำการทำงาน แต่คุณภาพความเป็นคนของเขาก็นับวันจะเหลือน้อยลงทุกที
ยิ่งคิดทบทวน ก็ยิ่งเห็นชัดว่า ที่ผ่านมาเขาทำผิดมาตลอด และไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยกับการประชดชีวิตชีวิต
ผู้หญิงที่สร้างความผิดหวังแก่เขา ไปมีชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่หล่อนเลือก ขณะคนที่รักเขา หวังดีกับเขากลับต้องทนดูความเปลี่ยนแปลงในทางเลวของเขา ด้วยหัวใจที่ชอกช้ำ
มีคำกล่าวเอาไว้ว่า ความรักของมารดาที่มีต่อบุตร เป็นความรักที่เลือกไม่ได้
ไม่ว่าลูกจะเกิดมามีสภาพเช่นไร เติบใหญ่มาเป็นคนแบบไหน ในหัวใจของคนเป็นแม่ ลูกก็ยังเป็นลูก ไม่มีวันจะกลายเป็นอื่น เช่นเดียวกับความรักที่ให้ลูกก็จะไม่มีวันผันแปร
ทีฆายุลอบถอนใจ เมื่อได้ยินมารดาหัวเราะเสียงใส ซึ่งเขาแน่ใจว่า นานมาแล้ว นานเต็มทีที่ไม่ได้ยินมารดาหัวเราะด้วยความเบิกบานใจเช่นนี้
สำหรับบาดแผลในใจเขา ถึงว่าจะยังไม่หายสนิท แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดน้อยลง บางครั้ง ซึ่งบ่อยขึ้น เขาเริ่มไม่รู้สึกอะไร และที่แปลก รอบสัปดาห์ที่ผ่าน แทบทุกครั้งที่เขานึกถึงรมิดา แต่กลับมีภาพใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาได้พบในสถานเริงรมย์สำหรับนักท่องราตรี โผล่ขึ้นมาแทน
ยังไงก็ตาม เขาคิดว่าคงมองเห็นใบหน้าเพรียวคม ตากลมโต ฉายแสงวาวโรจน์อย่างคนกำลังโกรธจัดที่พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง อีกไม่นานนัก ก็คงจางหายไปเหมือนความฝัน
ผู้หญิงแปลกหน้า (ถึงแม้เขาจะรู้สึกเหมือนเคยเห็นหล่อนมาแล้ว ก่อนคืนนั้น ซึ่งเขานึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน แต่คงไม่ใช่ครั้งหนึ่งในฝัน).... ที่เขาไม่รู้ว่าหล่อนเป็นใคร ชื่อเรียงเสียงไร มาจากไหน คงยากที่จะไปควานหาตัว และท่าทางหล่อนก็ใช่ว่าจะชอบไปเที่ยวตามสถานที่แบบนั้น โอกาสจะได้พบกันอีกแทบจะเป็นศูนย์
