เจ้านายจอมดุ - 4
หลังจากทานมื้อเย็นในห้องครัวกับแม่นมและสาวใช้อิ่ม ธนูก็มานั่งเอนกายพิงพนักโซฟารอพ่อกับแม่อยู่ในห้องนั่งเล่น ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มแล้ว พ่อกับแม่ก็ยังไม่พาหลานเตโต้ของพวกท่านกลับมาบ้านจึงโทรหา แต่โทรไปท่านไม่รับสายทั้งสองคนแล้วก็มีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดในบ้าน เขาจึงไม่โทรต่อ รอให้ท่านทั้งสองเดินเข้ามาในบ้าน รอไม่ถึงห้านาที เตโต้ขาสั้นๆ สี่ขาก็วิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่นกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเขา
“ไอ้เตโต้ บอกกี้ครั้งแล้วอย่ามานั่งตักฉัน” เมื่อเตโต้วิ่งมากระโดดขึ้นนั่งตักตนเองก็เอ่ยดุพร้อมกับอุ้มลงจากตักตนเอง
“เสียงดังใส่หลานไปได้ธนู แล้วเนี่ยกลับมานานรึยังล่ะลูก” น้ำเพชรเดินมาอุ้มเตโต้แล้วพาไปนั่งโซฟาตัวยาวอีกตัว และคนเป็นสามีก็เดินไปนั่งข้างภรรยาแล้วก้มหน้าพูดกับเตโต้
“อย่าไปสนใจอาธนูเลยนะเตโต้ อาเขารักหนูแหละ แต่แสดงออกไม่เป็น” เอกพูดกับเตโต้พร้อมกับลูบหัวปลอบ และเจ้าเตโต้ก็ทำหน้าอ้อนซบหน้ากับท้องของคนที่อุ้มตนเอง
“ผมไม่มีพี่ชายและผมเป็นลูกคนเดียว อย่าเอาหมามาเป็นหลานผมสิพ่อแม่” ธนูไม่ชินสักทีที่กลับบ้านมาโดนพ่อกับแม่ยัดเยียดหมาเป็นหลานเป็นครอบครัว
“พูดอะไรหัดนึกถึงจิตใจเตโต้ด้วยสิธนู” น้ำเพชรเอ็ดลูกชาย
“เดี๋ยวนี้ไอ้ขาสั้นมันสำคัญกว่าลูกในไส้อย่างผมแล้วเหรอครับ?” เขาเอ่ยถามกลับอย่างน้อยใจ ยิ่งเห็นแม่กับพ่อช่วยกันปิดหูเตโต้ก็ยิ่งสมเพชตัวเองที่สำคัญน้อยกว่าหมาที่นั่งบนตักแม่
“ก็เตโต้เขามีพ่อกับแม่เป็นโลกทั้งใบของเขา เขาไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงนะธนู แต่เขาคือสมาชิกครอบครัวของเรา เป็นหลานของลูกด้วย” น้ำเพชรเอ่ย
“งั้นก็ให้มันไปทำงานที่บริษัทด้วยสิครับ”
“งั้นพ่อจะยกสมบัติทั้งหมดให้เตโต้ จ้างบริษัทมาบริหารงานแทน” เอกเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง
“สายไปแล้วครับ พ่อยกทุกอย่างให้ผมแล้ว”
“งั้นก็ทำงานของลูกไป ลูกน่ะดูแลตัวเองได้ หาข้าวหาน้ำกินเองได้ แต่เตโต้ทำแบบลูกไม่ได้” แม่ของเขาพูด
“ครับๆ ผมรู้แล้ว”
“รู้แล้วก็น่าจะไปดูตัวให้พ่อกับแม่สักครั้งนะธนู” เอกเอ่ย
“ทุกวันนี้ที่ใส่ใจไอ้เตโต้มากกว่าผมเพราะอยากให้ผมไปดูตัวแต่งงานมีลูกว่างั้น?”
“ก็ลูกอายุไม่น้อยแล้วนะธนู แม่กับพ่อก็อยากเลี้ยงหลาน เตโต้ก็อยากมีน้องด้วย แม่อยากมีลูกสะใภ้มาอยู่เป็นเพื่อน มาทำขนม ทำกับข้าวด้วยกัน รู้ไหมว่าแม่กับพ่อแทบไม่อยากไปเจอเพื่อนแล้ว เพราะเพื่อนๆ เอาแต่พูดถึงหลานกับเรื่องลูกสะใภ้ เรื่องลูกเขย แม่กับพ่อมีแต่หลานเตโต้จะไปคุยอวดก็กลัวจะถูกหัวเราะเยาะเอาที่เอาหมามาเป็นหลาน”
“ใช่ พ่อกับแม่อยากเห็นแกเป็นฝั่งเป็นฝา แกก็อายุสามสิบเจ็ดย่างสามสิบแปดแล้ว ผู้หญิงที่เคยไปดูตัวด้วยไม่มีถูกใจสักคนเลยเหรอธนู” เอกถามลูกชาย เพราะได้บังคับลูกชายไปดูตัวมาห้าครั้งแล้ว
“ถ้ามันถูกใจ ผมจะยังอยู่โสดแบบนี้เหรอพ่อ แม่”
“แน่ใจนะลูก ว่าลูกไม่มีกิ๊กซุกไว้ มีสาวนอนกกที่โรงแรมน่ะ แม่ถามหนูขวัญลดาหลายรอบก็ไม่ได้ความอะไร”
“ผมอยู่โรงแรมคนเดียวครับ แต่มีผู้หญิงดารานางแบบแวะมานอนด้วยไม่ซ้ำราย” ท้ายประโยคเขาพูดหายเข้าไปในลำคอ
“ต่อไปนี้พ่อจะให้หนูขวัญลดาเพิ่มตารางดูตัวให้ลูกทุกเย็นวันศุกร์ มันต้องมีหนึ่งในร้อยแหละที่ถูกใจลูกมั่งธนู” เอกบอกลูกชายเป็นคำสั่งไม่ต้องการคำตอบปฏิเสธ
“ถ้าผมไม่ไป”
“ไม่ได้ แกต้องไปธนู พ่อกับแม่อยากอุ้มหลานแล้ว อยากมีเด็กน้อยมาอ้อนคุณปู่ขา คุณย่าขาแล้ว” เอกเอ่ยตอบสวนกลับ
“ทุกอาทิตย์มันถี่ไปไหมครับ เดือนละครั้งก็พอ”
“ไม่ได้ เอาตามนี้แหละ ปีนี้พ่อต้องได้ลูกสะใภ้”
“อีกแค่สี่เดือนก็สิ้นปีเนี่ยนะครับ จะบังคับกันเกินไปไหมพ่อ แม่”
“ไม่รู้แหละ ปีนี้แม่กับพ่อต้องมีสะใภ้ ปีหน้าได้อุ้มหลาน เข้าใจไหมลูก ไปนอนกันเถอะเตโต้” น้ำเพชรเอ่ยแล้วก็ลุกขึ้นยืนพร้อมอุ้มเตโต้บนตักไปด้วย
“ไอ้เตโต้ แกเนี่ยนะ แกมันตัวแย่งความรัก” ธนูมองจ้องเตโต้ที่มองมาทางตนตาแป๋วเหมือนยิ้มเย้ย ก่อนที่จะถูกแม่ตนอุ้มออกไปจากห้องนั่งเล่น
“ปีนี้พ่อต้องได้รับขวัญลูกสะใภ้ ไอ้ลูกชาย” เอกลุกขึ้นเดินมาตบไหล่ลูกชายแล้วเดินตามหลังภรรยากับหลานเตโต้ของตนเองออกไปจากห้องนั่งเล่น
เฮ้อ!
ธนูเอนตัวพิงพนักโซฟาถอนหายใจยาวแล้วยกมือนวดคลึงขมับตัวเองเมื่อถูกพ่อกับแม่กดดันเรื่องแต่งงาน และครั้งนี้ท่านทั้งสองจริงจังด้วยสิ ไม่เหมือนทุกครั้ง นี่จะให้เขาดูตัวทุกวันศุกร์เหรอ
