ตอนที่ 11 เมียนอกหัวใจ
ภายในห้องทำงานของอัญญารินทร์
“ว่าไงคะ?” เสียงหวานเอ่ยถามเพียงแค่เดินเข้ามาในห้องไม่กี่ก้าว
“ได้ที่ปรึกษามาจากไหน โปรไฟล์เป็นยังไง มีประสบการณ์พอไหมถึงให้มาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว” คนหงุดหงิดพ่นคำถามเกี่ยวกับที่ปรึกษาส่วนตัวชุดใหญ่
“แซมเป็นผู้ช่วยที่พ่อฝึกมาจนชำนาญโปรไฟล์ดีไว้ใจได้ พ่อเลยส่งแซมให้มาช่วยแบม” ก่อนหน้านี้อัญญารินทร์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากโรเบิร์ตผู้เป็นพ่อเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าจะหย่ากับแม่หลังแยกทางย้ายกลับไปอยู่อังกฤษตั้งแต่เธอวัยรุ่นแต่ยังติดต่อให้คำปรึกษากับลูกและช่วงไปเรียนต่อที่อังกฤษเธอก็อาศัยอยู่บ้านของพ่อ
“คุณน้าโรเบิร์ตน่าจะส่งผู้หญิงหรือไม่ก็คนที่หล่อน้อยกว่านี้มา”
“ทำไมล่ะคะ หึงเหรอ?”
“มีอะไรให้หึง แค่ดูไม่เหมาะเรายังเป็นสามีภรรยากันแบมจะใกล้ชิดผู้ชายก็ระวังตัวหน่อยไม่ใช่ทำตัวให้บุคลากรเอาไปนินทาได้”
“แบมสนิทกับแซมตั้งแต่ตอนเรียนที่อังกฤษและแบมก็ไม่สนสายตาหรือคำพูดว่าร้ายของคนที่กินเงินเดือนจากแบมด้วย”
“สนิทกับเขามากแค่ไหน?” คิ้วเข้มขมวดขยับกรอบแว่นตาจ้องมองผ่านเลนส์อย่างดุดัน
“ก็มากอยู่ค่ะ”
“มากแค่ไหนล่ะ”
“พี่ไม่ต้องรู้หรอกจะรับไม่ได้เปล่า ๆ” เธอบ่ายเบี่ยงกอดอกกลบเกลื่อนแต่เขามองออกว่าท่าทางกอดอกเป็นการปกป้องตัวเองอย่างหนึ่ง
“พี่ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนแบมควงกับใครมาบ้างแต่ตอนนี้เราเป็นสามีภรรยากัน ถึงแบมจะไม่สนใจขี้ปากชาวบ้านก็ควรไว้หน้าสามีที่เป็นถึงอาจารย์หมอ อย่าทำให้พี่เป็นตัวตลกของบุคลากร แพทย์และนักศึกษาแพทย์คนอื่น มันอาจส่งผลต่อการยอมรับนับถือ”
“ทำแบบเปิดเผยไม่ได้งั้นก็แอบทำได้สิคะ น่าสนุกดีเหมือนกัน” หน้าสวยเชิดขึ้นยั่วยุคนตัวโตที่กำลังถลึงตาจ้องไม่กะพริบ
“ถ้ามีอารมณ์ก็บอกผัว ไม่ใช่มีชู้” กรามแข็งขบกันกรอดโมโหคำพูดไม่คิดของภรรยา
“ทีพี่ยังมีชู้ได้”
“ระหว่างที่เราใช้คำว่าสามีภรรยาพี่ไม่เคยนอกกายกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แบม”
“ไม่เคยนอกกายแต่นอกใจแบมตลอด”
“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกพลอยอยู่ในใจพี่มาก่อน แบมต่างหากที่อยู่นอกหัวใจพี่” เขาประชดประชันทันควันไม่นึกถึงว่าภรรยาจะสะเทือนใจแววตาสั่นไหวคลอด้วยน้ำตา
“คนเลว”
“พี่ชอบตอนแบมด่า สีหน้าแววตาดูจริงใจดี” ริมฝีปากหนายกยิ้มยั่วอารมณ์คนตัวเล็กให้ขุ่นมัว
“ไปไกล ๆ” เธอผลักอกสามีออกห่างจ้องตาขวาง ธนาถอยห่างตามแรงน้อย ๆ ของเธอแล้วกระตุกยิ้มชอบใจ
“ไปก็ได้ แบมเองก็กลับบ้านได้แล้ว ป่านนี้วินคงคิดถึงแม่แย่”
“อึ้ม....ก่อนจะไปขอถามเรื่องหนึ่งก่อน”
“ว่ามาสิ”
“พี่นึกยังไงถึงบอกเรื่องประชุมและเกริ่นให้แบมเตรียมตัววางแผนงานตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อน ถ้าวันนี้แบมไม่มาประชุมหรือไม่มีผลงานถูกคัดเลือกออก พี่ก็มีสิทธิ์เป็นตัวเลือกขึ้นตำแหน่งประธานบริษัทแทนไม่ต้องอยู่ใต้แบม” เธอเอ่ยถามเรื่องคาใจจากเขาที่ไม่เคยสนใจเธอและยังทำร้ายใจเสมอแต่แอบบอกใบ้เรื่องงานและติดต่อตามเธอมาประชุมวันนี้อีกทั้งยังกำชับว่าห้ามเล่าให้ใครรู้ว่าเขาเป็นคนบอกเด็ดขาด
“ตำแหน่งนี้เป็นของแบมถูกต้องและสมควรที่สุด ถึงเราจะไม่ได้รักกันพี่ก็ยินดีที่ภรรยาจะได้รับสิ่งที่คู่ควร”
“ไม่ใช่เราไม่รักกัน พี่ต่างหากที่ไม่เคยรักแบม” เสียงหวานแผ่วเบาเงยมองตัดพ้อสามีเพียงแค่เห็นหน้าเขาใจก็หวั่นไหวแทบลืมเลือนความเจ็บปวดที่เขากระทำเสียทุกครั้งเจ็บแล้วไม่จำทุกที ธนาหลบตาลงถอนหายใจยาวสีหน้าหนักใจก่อนจะเหลือบเห็นเสื้อผ้าตรงหน้าอกเปียกเป็นวงกว้างขึ้น
“ต้องปั๊มนมให้ลูกแล้วหรือเปล่า?” เขาเอ่ยถามเบี่ยงเบนอารมณ์เพราะรู้ว่าช่วงนี้ภรรยามีอารมณ์อ่อนไหวง่ายไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้เข้มแข็งเหมือนเมื่อก่อนที่จะคลอดลูก
“ค่ะ เอาเครื่องปั๊มติดมาด้วยว่าจะปั๊มก่อนนั่งรถกลับบ้าน”
“งั้นก็ปั๊มเถอะน้ำนมไหลเปื้อนชุดแล้ว” สิ้นคำพูดเขาก็เบนสายตามองไปทางอื่น อัญญารินทร์ก้มมองเสื้อผ้าตรงหน้าอกเปียกเซ็ง ๆ
“อ้าว เปรอะเลยจะเดินออกไปลานจอดรถยังไงล่ะเนี่ย” กายบางเดินไปยังกระเป๋าอุปกรณ์มีผ้าคลุมลายน่ารักเอาไว้ปิดตอนปั๊มนมและเครื่องปั๊มนมที่เตรียมมา
“ปั๊มนมเสร็จก็เอาผ้าคลุมนี้ปิดไว้แล้วค่อยออกไปข้างนอก”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าเล็กน้อยก้ม ๆ เงย ๆ หยิบอุปกรณ์ สายตามีเสน่ห์ลอบมองหน้าอกอวบอิ่มของภรรยาใหญ่อึ๋มขึ้นมากกว่าเดิมแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ อัญญารินทร์เงยมามองเห็นเข้าพอดีก็รีบเอาผ้าคลุมมาปิดหน้าอก
“อย่ามาหื่น” คิ้วเรียวขมวดจ้องมองเคืองสามี
“อะไร ! ไม่ได้มองเลย” เขาตกใจเลิ่กลั่กเผลอจ้องมองนานจนเธอรู้ตัวจึงรีบเบือนหน้าหนีทำท่างึกงักก่อนจะเดินหนีออกไปดื้อ ๆ เหมือนทุกครั้ง อัญญารินทร์กลอกตามองบนตั้งแต่คลอดลูกต้องคอยเลี่ยงสามีที่พยายามเข้าหาจะมีความสัมพันธ์ด้วยตลอดจนเธอเหนื่อยหน่ายเพราะไม่อยากเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ของสามี
