บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

หลังจากที่รุ้งลดาถูกเชิญหรือที่เรียกว่าไล่ออก ป้ายี่สุนกับลุงไก่ที่มีความชิงชังคุณหญิงและท่านนายพลผู้เป็นพ่อของเธอเป็นทุนเดิมก็เอ่ยปากเด็ดขาดว่าไม่ให้พ่อเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเธออีก ไม่ต้องมีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

“แต่รุ้งเป็นลูกผม” ยามนั้นพ่อบอกกับป้ายี่สุนแบบนั้น แต่ก็ถูกป้าตอกกลับไปอย่างเดือดดาลเช่นกัน

“ในใบเกิดมันก็ไม่ได้ระบุว่าเอ็งเป็นพ่อของมัน แล้วจะเอาอะไรมาอ้างความเป็นพ่อ ถ้าเอ็งเป็นพ่อและรักมันจริงๆ คงไม่ปล่อยให้มันถูกเมียกับลูกของเอ็งแกล้งถึงขนาดนี้หรอก อย่ามาอ้างมารักหน่อยเลย เพราะขนาดตอนนังโยธกามันตายเอ็งยังไม่คิดจะมาเผาศพ ไม่คิดจะมาปลอบใจรุ้งมันสักนิด อย่างนี้มันรักภาษาอะไร”

แล้วหลังจากนั้น เธอก็เหมือนตัดขาดจากผู้เป็นพ่อ แม้จะมีบ่อยครั้งที่พ่อพยายามมาหาแต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธ มันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกัน คงจะดีกว่าถ้าต่างคนต่างอยู่...แต่ขนาดว่าต่างคนต่างอยู่ ยามเจอหน้าเธอก็ไม่วายถูกสองแม่ลูกกระแนะกระแหน โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เธอก้าวพลาดมีจันทร์เจ้า ก็ยิ่งเป็นจุดอ่อนให้สองแม่ลูกนั่นโจมตี จำได้ว่าตอนที่คุณหญิงกับพิณพิชารู้ว่าเธอทำงานที่บริษัทของศตายุ เธอต้องถูกสองคนนั้นประจานและเหยียดหยามขนาดไหน คนทั้งออฟฟิซรู้ว่าเธอเป็นใครและผ่านอะไรมา

แรกๆ เธอก็ย่อมตกเป็นเป้านินทาเป็นธรรมดาของการทำงานกับคนหมู่มาก ทว่าเมื่อนานไปเรื่องที่นินทามันก็ซาลง และยิ่งพิณพิชากับคุณหญิงแสดงท่าทียโสกับคนที่ด้อยกว่ามากเท่าไหร่ ความเห็นใจจากทุกคนมันก็ยิ่งถูกถ่ายเทมาที่เธอบวกกับความสามารถและความตั้งใจในการทำงาน มันก็ไม่อยากเลยที่จะทำให้ทุกคนในบริษัทยอมรับและมองข้ามประวัติอันด่างพร้อยของเธอไป

“ทุกคนครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงสมาร์ทของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเข้มสมชายไทยแท้อย่างศตายุ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาทั้งที่พ่อกับแม่ของเขาหวังอย่างยิ่งว่าจะให้ลูกชายเพียงคนเดียวรับราชการตามรอยพ่อที่เป็นนายทหารยศสูง ศตายุเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องทำงานขนาดใหญ่ที่บรรจุพนักงานไว้เกือบสิบคน และเวลานี้ทุกคนกำลังมองไปที่เขาเป็นตาเดียวเพราะนอกจากเขาแล้ว ข้างๆ นั้นคือหญิงสาวในชุดนักศึกษาหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มยืนส่งยิ้มมาให้ และแน่นอนว่าในที่นี้ทุกคนย่อมรู้จักเธอดี โดยเฉพาะรุ้งลดา “ผมมีนักศึกษาฝึกงานจะมาฝึกงานในแผนกคอมพิวเตอร์คนหนึ่ง น้องชื่อแพรพิชานะครับ ยังไงฝากคุณเพ็ญและทุกๆ คนดูแลด้วย”

จบคำแนะนำ แพรพิชาก็ยังคงส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยิ้ม เล่นเอาทุกคนในที่นั้นมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะภาพจำของทุกคนนั้นคือความหญิงยโสของคุณหญิงงามเนตรและพิณพิชา ไม่มีใครคิดว่าแพรพิชาจะให้ความเป็นมิตรขนาดนี้

“ยังไงแพรต้องฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆ ด้วยนะคะ” เสียงใสเอ่ยและดูเหมือนเจ้าหล่อนจะจงใจส่งสารมายังรุ้งลดาที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการยินดียินร้ายเสียมากกว่า

“คุณเพ็ญครับ เดี๋ยวช่วยหาพี่เลี้ยงให้แพรด้วยนะครับ” ศตายุเอ่ยกับหัวหน้าแผนกที่รีบคำและเตรียมมองหาพี่เลี้ยงเก่งๆ มาสอนงาน ทว่าก่อนที่หัวหน้าเพ็ญจะเลือกใคร แพรพิชาก็เป็นฝ่ายเลือกซะก่อน

“แพรขอให้พี่รุ้งเป็นพี่เลี้ยงได้มั้ยคะ พี่ศตายุบอกว่าพี่รุ้งเป็นคนเก่งมาก แพรอยากเรียนรู้จากคนเก่งๆ อย่างพี่รุ้ง” คราวนี้ทั้งห้องเงียบสนิทไปในบัดดล แม้แต่ศตายุเองก็ยังอดมองหน้าของแพรพิชาเสียไม่ได้ ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะตั้งใจมาแต่แตกแล้วด้วยซ้ำถึงขนาดเดินเข้าไปยืนอยู่เบื้องหน้ารุ้งลดาที่ยังคงนิ่งไม่มีการตอบโตแต่อย่างใด “พี่รุ้งสอนงานให้แพรนะคะ”

“อย่าดีกว่าค่ะ ดิฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกมีคนอื่นที่เก่งมาอีกตั้งเยอะ อีกอย่างคุณศตายุมอบหมายให้ดิฉันตั้งระบบคอมฯ ของสาขาย่อยที่กำลังจะเปิดใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คงไม่มีเวลามาสอนงานให้คุณแพรได้อย่างเต็มที่”

เจออย่างนี้ แพรพิชาก็ถึงกับหน้าเสียเพราะไม่คิดว่ารุ้งลดาจะปฏิเสธชนิดไม่มีเยื่อไยขนาดนี้ หญิงสาวหันไปสบตากับศตายุที่กำลังมองเธออย่างเห็นใจ แต่เขาก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของรุ้งลดาเช่นกันจึงไม่คิดจะบังคับอะไรลูกน้องมากฝีมือคนนี้

“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นให้ต้องฤทัยช่วยสอนงานก็ได้นะคะ ต้องก็เก่งเหมือนรุ้ง...ต้องจ๊ะช่วยดูแลคุณแพรพาด้วยนะ” หัวหน้าเพ็ญรีบแก้ไขสถานการณ์ไม่ให้มันตึงเครียดด้วยการหาพี่เลี้ยงคนใหม่ให้แพรพิชาที่ยังคงหน้าเสียมองรุ้งลดาไม่วางตาคล้ายกับตัดพ้อแต่ลูกน้องสาวของเธอก็ไม่คิดจะสนใจยังก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ทำงานกันต่อนะครับ ผมขอตัวก่อน” ชายหนุ่มเอ่ยลาพยักงานทุกคนและส่งยิ้มให้กำลังใจแพรพิชาที่ยังคงมีสีหน้าหม่นๆ เพราะถูกพี่สาวที่เจ้าตัวหวังจะสร้างความสนิทสนมปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย แต่เจ้าหล่อนก็ยังพยายามยิ้มให้เขา...พอเห็นสีหน้าแพรพิชาแล้ว เขาก็นึกสงสารหญิงสาวอยู่ไม่น้อย เพราะรู้ถึงความตั้งใจของเจ้าตัว แต่เขาเองก็ไม่ชอบบังคับใจใคร จะให้บงการสั่งให้รุ้งลดาคอยดูแลแพรพิชาก็ใช่ที่เพราะรู้ดีเช่นกันว่า รุ้งลดาไม่อยากจะเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัวน้องสาวคนนี้มากนัก และเขาก็เป็นประเภทปลูกเรือนตามใจผู้อยู่เสียด้วย ฉะนั้น เวลาที่พิณพิชากับคุณหญิงงามเนตรพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาไล่รุ้งลดาออกเขาจึงไม่คิดจะทำตาม ด้วยยึดคติปลูกเรือนตามใจผู้อยู่เช่นกัน...ไม่มีใครมาสั่งเขาได้แม้แต่คนรักและว่าที่แม่ยาย และที่สำคัญ เขาจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน เขาไม่มีทางยอมเสียพนักงานคุณภาพไปเพียงเพราะคนใกล้ตัวไม่ชอบขี้หน้าเธอเด็ดขาด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel