บทที่ 5 สตรีนางนี้ไม่ธรรมดา
“เซียวหาน ท่านเห็นศิษย์น้องหรือไม่? นี่ก็นานแล้วที่นางขอไปเดินตลาดคนเดียว ข้าเป็นห่วงนางจริงๆ”
ซิวเหยาถามด้วยความกังวล ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เจ้าอย่าห่วงนางเลย นางมีวรยุทธและของวิเศษมากมาย ไม่มีใครสามารถทำอะไรนางได้หรอก”
เซียวหานกล่าวเสียงเบา แล้วหันมามองนางอย่างอ่อนโยน
“ว่าแต่...เจ้าอยากไปที่ใด ข้าจะพาเจ้าไปเอง”
ซิวเหยายิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ที่เขาทำให้รู้สึกอบอุ่นในใจ ทั้งคำพูดและการกระทำของเขากลับทำให้นางรู้สึกเหมือนมีคนที่พร้อมจะดูแลเสมอ
“ท่านนี่ก็น่ารักดีนะ ดูใส่ใจข้าดี”
ซิวเหยาพึมพำเบาๆ อย่างรู้สึกดี
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
เซียวหานถามกลับด้วยท่าทีแปลกใจ แม้จะพยายามเก็บความรู้สึกไว้ แต่ในใจเขากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
“ข้าไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
นางรีบยิ้มแล้วหันไปมองร้านผลไม้ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า "เอาไม้หนึ่ง"
นางสั่งพ่อค้าเสียงดังอย่างร่าเริง
เซียวหานไม่ลังเล เขาหยิบเงินจากถุงของตัวเองแล้วยื่นให้พ่อค้าทันที ทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนที่ซิวเหยาจะหันกลับไปหามองเขาอย่างดีใจ
"ขอบคุณ!"
นางยิ้มหวาน ตาเป็นประกาย พร้อมถือไม้ผลไม้ชุบน้ำตาลในมือไปด้วยอย่างอารมณ์ดี
เซียวหานมองนางด้วยความพึงพอใจ ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ แต่มันชัดเจนว่าในโลกนี้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เขาได้เห็นนางมีความสุข
เสียงทะเลาะวิวาทดังแทรกผ่านเสียงบรรเลงเครื่องดนตรีบนเวทีการแสดง ผู้คนหันไปมองต้นเสียงที่เกิดขึ้นด้านข้างเวที หญิงสาวในชุดงดงามและสาวใช้ของนางกำลังถูกกลุ่มชายขี้เมาห้อมล้อม หนึ่งในนั้นกระชากแขนของนางอย่างหยาบคาย ดวงตาแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุรา ขณะรอยยิ้มต่ำทรามปรากฏบนใบหน้าพวกเขา
"ปล่อยข้านะ!" หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่แรงของนางไม่อาจสู้แรงบุรุษหลายคนได้
"ฮ่า ๆ นางช่างงดงามเสียจริง คืนนี้มาอยู่กับพวกเราดีกว่านะ ข้าจะจัดให้สุขสมใจแม่นางเลย"
ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ เงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาขว้างหน้าพวกขี้เมาอย่างรวดเร็ว
"พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้! บุรุษเช่นพวกเจ้ากลับกล้ารังแกสตรี ช่างน่าขันสิ้นดี!"
เสียงของมู่หลินก้องกังวาน ดึงดูดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องนาง
หนึ่งในกลุ่มชายขี้เมาหัวเราะอย่างเยาะเย้ย
"นี่เจ้าเป็นใคร? อย่าบอกนะว่าอยากเป็นเมียพวกข้าด้วย ถ้าเช่นนั้นก็มาเถิด! พวกข้าจะสงเคราะห์ให้!"
กล่าวจบพวกมันพุ่งเข้าหานางหมายจะฉวยโอกาส แต่มู่หลินเพียงสะบัดมือเบาๆ ปลายแขนเสื้อของนางพลิ้วไหว ก่อนที่เข็มเงินบางเฉียบจะพุ่งออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้า แทงเข้าจุดสำคัญของพวกมันทันที
"อ๊ากก!" เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นพร้อมกับร่างของบุรุษขี้เมาที่ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น มือกุมจุดที่ถูกโจมตีด้วยความเจ็บปวด
แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา มีเพียงความชาและไร้เรี่ยวแรงเข้าครอบงำร่างกายเท่านั้น
มู่หลินยืนตระหง่านอยู่กลางวงล้อม ดวงตาของนางเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
"จำไว้ให้ดี อย่าได้บังอาจรังแกสตรีอีก มิฉะนั้นข้าจะไม่เมตตาพวกเจ้าเป็นครั้งที่สอง"
“เจ้าทำอะไรกับพวกข้า”
“ไม่ต้องห่วง ข้าแค่สั่งสอนพวกเจ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกแค่สองชั่วยามพวกเจ้าจะเป็นปกติ แต่ระหว่างนี้ร่างกายพวกเจ้าต้องทุกข์ทนกับความเจ็บที่เส้นประสาทสักหน่อย”
นางกล่าวเยาะ เสียงของนางทรงอำนาจและกดดันจนพวกมันขนลุกซู่
เมื่อความวุ่นวายจบลง มู่หลินหันกลับไปหาหญิงสาวที่นางช่วยเหลือ ดวงตาของอีกฝ่ายยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
"พวกเจ้าสองคนไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่หรือไม่?"
มู่หลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น หญิงสาวพยักหน้ารัว
"ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณพี่สาวมาก ข้าชื่อไป๋เยี่ยน ไม่ทราบว่าพี่สาวชื่ออะไรหรือ?"
"ข้าชื่อมู่หลิน"
ดวงตาของไป๋เยี่ยนเป็นประกายขึ้นมาทันที
"ต่อจากนี้ข้าเรียกท่านว่าพี่มู่หลินได้หรือไม่? ข้ามีแต่พี่ชาย ไม่มีพี่สาวเลย"
มู่หลินยิ้มบางๆ
"ได้สิ แล้วบ้านเจ้าอยู่ที่ใด ข้าจะไปส่งพวกเจ้าเอง"
"ข้าอยู่จวนไป๋เซียง เป็นบุตรสาวของแม่ทัพไป๋เฉิงหลง"
ไป๋เยี่ยนเอ่ยก่อนจะถอนหายใจ
"แต่ท่านพ่อไม่เคยสนใจข้าเลย ท่านสนใจแต่พี่ชายของข้าเพียงเท่านั้น"
ขณะที่ทั้งสองสนทนากันอยู่ สายตาคมกริบของบุรุษผู้หนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลเฝ้าจับจ้องทุกอิริยาบถของมู่หลิน เขาคือไป๋เทียนหลง ผู้ซึ่งรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าคือกุญแจสำคัญที่เขาสามารถตามหามุกพลังจันทรา และที่สำคัญ...ไป๋เยี่ยนคือน้องสาวต่างมารดาของเขาเอง!
ทันใดนั้นเฮยเฟิงปรากฏตนขึ้นต่อหน้าเขา พร้อมก้มศีรษะลงต่ำอย่างเคารพ
“ท่านจอมมาร ท่านจ้าวแห่งมารเรียกให้ท่านไปพบเดี๋ยวนี้”
“ได้ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อถึงวิหารอันยิ่งใหญ่ เสียงของจ้าวห่างมารดังก้องออกมาทันทีที่ไป๋เทียนหลงคุกเข่าลง
“ไป๋เทียนหลงเจ้ารู้หรือไม่ว่ามุกพลังจันทรา และหอกสวรรค์จันทรามีค่ามากเพียงใด?”
“ข้ารู้” เขาตอบด้วยเสียงเรียบ
“ของวิเศษทั้งสอง คือพลังที่เหล่าผู้มารต้องการมานับพันปี หากผู้ใดครอบครองสองสิ่งนี้ จะสามารถควบคุมพลังจันทราและจะเป็นจอมมารที่เป็นอมตะต่อให้โลกใบนี้ล่มสลายเผ่าพันธุ์มารของเรายังคงอยู่ ข้ามอบหมายให้รับหน้าที่ไปตามหาของวิเศษสองสิ่งนี้มาให้จงได้”
“ข้าจะพยายามนำมันกลับมาให้ท่านพ่อให้ได้” เขาตอบอย่างเชื่อฟัง
จ้าวมารหัวเราะเสียงดัง
“ดี! แต่ข้าจะให้เจ้าทำภารกิจอีกอย่าง เจ้าต้องแต่งงานกับธิดามาร บุตรแท้ๆ ของข้า”
ไป๋เทียนหลงชะงักไปชั่วขณะ เขารู้ดีว่าการแต่งงานกับเซี่ยซี ธิดามารหมายถึงการผูกพันธะกับเผ่ามารอย่างแท้จริง หากเขาต้องการขึ้นครองบัลลังก์มารในอนาคต การแต่งงานครั้งนี้จะช่วยเสริมอำนาจของเขาอย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน เป้าหมายของเขาขอแค่เป็นการแก้แค้นให้กับมารดาของเขาได้เพียงเท่านั้น
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวเสียงมั่นคง
“ที่สำคัญกว่าการสมรสกับธิดามารคือการตามหามุกพลังจันทรา และหแกสวรรค์จันทรา ก่อนจะดีกว่า ข้าได้เจอสตรีนางหนึ่งนางมีกำไลหยกจันทราข้าคิดว่านางใส่เพื่อบดบังมุกพลังจันทราในตัวนาง”
“หากเจ้าคิดว่านางคือคนที่ครอบครองมุกพลังจันทราเจ้าจงไปจัดการเลย ข้าเชื่อใจเจ้า”
จ้าวแห่งจอมมารกล่าว
“แต่ก่อนที่ข้าจะช่วงชิงมุกพลังจันทราข้าขอจัดการตระกูลไป๋ก่อน พวกมันทุกคนเสวยสุขมามากเกินพอแล้ว
ถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปล้างแค้นให้กับมารดาเสียที”
