บทที่ 6 แก้แค้น...
จวนไป๋เซียง...
เสียงในจวนแตกตื่นเมื่อไป๋เทียนหลงลงมาจากฟ้า แสงสีดำอำมหิตจากร่างของเขาปกคลุมไปทั่ว เขามองดูทุกคนที่ยืนนิ่งด้วยความหวาดกลัว คนรับใช้ในจวนตกใจและตะโกนออกไป
“ไปตามท่านแม่ทัพมาเร็ว จอมมารบุกจวนแล้ว!”
ชายคนหนึ่งวิ่งไปตามหาท่านแม่ทัพไป๋เฉิงหลงผู้เป็นบิดาของไป๋เทียนหลงทันที
ไป๋เฉิงหลงยืนนิ่งเมื่อได้ยินคำรายงานจากลูกน้อง กำปั้นของเขากำแน่น
“เจ้าหายออกไปจากจวนข้า คิดว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร? ที่แท้เจ้าก็ไปเป็นมารอย่างนั้นหรือ? หึ...ช่างน่าเวทนาเสียจริง”
“หุบปาก! คนใจร้ายอย่างท่านก็ไม่ได้ดีกว่าข้านักหรอก! เป็นสามีที่แย่ ปล่อยให้ภรรยาตัวเองถูกรังแกจนต้องตาย! วันนี้ข้าจะล้างแค้นให้กับท่านแม่ของข้า!”
ไป๋เทียนหลงพูดด้วยเสียงกร้าว
ไป๋เฉิงหลงยิ้มเยาะ
“หากเจ้าคิดว่าข้าเป็นเช่นนั้น...ก็มาฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย! ลูกชู้อย่างเจ้าก็ไม่ควรอยู่!”
คำว่าลูกชู้นั้นทำให้ไป๋เทียนหลงเจ็บปวดในใจ ดวงตาของเขาร้อนระอุแดงก่ำ มองไปยังบิดาทันที พร้อมใช้วิชามารพลังสีดำพุ่งเข้าใส่ไป๋เฉิงหลงโดยตรง
“อ๊าก...เจ้า...”
ไป๋เฉิงหลงร้องลั่น ลงไปกองกับพื้นกระอักเลือดทันที
“คุณชายใหญ่อย่าทำอย่างนี้เลยนะเจ้าค่ะ...เห็นแก่ฮูหยินใหญ่เถิด ถ้านางยังอยู่นางคงไม่อยากให้ท่านทำร้ายผู้เป็นบิดา”
เสียงป้าหวังพี่เลี้ยงของเขายามเยาว์วัยดังขึ้นขัดขวาง แต่ไป๋เทียนหลงยังคงจ้องไปที่บิดาของเขา และมองไปที่ภรรยารองของบิดาอย่างเย็นชา
“เจ้าก็เช่นกัน...นางชั่วช้า กล้าใส่ร้ายแม่ของข้า! วันนี้ข้าจะเปิดเผยเจ้าจนหมดสิ้น!”
“ข้าไม่ได้ทำ! แม่เจ้าต่างหากที่ตายเอง! ข้าไม่ได้ทำ!”
จ้าวหงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“จ้าวหงหลิง! เจ้าจงพูดความจริง! เจ้าทำร้ายแม่ข้า! ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเสีย!”
ไป๋เทียนหลงพูดด้วยเสียงที่ท่วมท้นไปด้วยความแค้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ไป๋เทียนหลง! เจ้ากล้าทำเยี่ยงนี้กับท่านพ่อได้อย่างไร!”
เสียงของไป๋หยางเซินดังขึ้นมา เขาคือคนเดียวที่ยังพยายามขัดขวางพี่ชายต่างมารดาของตน
“ท่านพ่อรึ? พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าตัดขาดครอบครัวนี้ไปนานแล้ว! วันนี้ข้ามาล้างมลทินให้แม่ข้า ใครขวางตายทั้งหมด!”
ไป๋เทียนหลงพูดจบ ก็ซัดพลังจอมมารพุ่งเข้าโจมตี ไป๋หยางเซินทันที เขาพยายามต่อต้าน แต่พลังอันมหาศาลของจอมมารทำให้เขาถูกซัดเต็มแรงจนร่างกระเด็นไปข้างหลัง กระอักเลือดออกมาเป็นสาย
"ไป๋เทียนหลง...ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว...วันนั้นข้าเอง...ข้าที่ผิดต่อแม่เจ้า...ข้าคือคนที่ดึงปิ่นของนางมาปักอกตัวเอง...ข้าผิดที่ใส่ร้ายนาง ข้าสำนึกผิดแล้ว... อย่าทำอะไรลูกข้า ข้ายอมรับผิดแล้ว"
จ้าวหงหลิงเอ่ยสารภาพความจริงด้วยน้ำตา เมื่อเห็นบุตรชายอันเป็นที่รักรักได้รับบาดเจ็บ
ไป๋เทียนหลงน้ำตาคลอ อย่างน้อยที่สุด คนที่ใส่ร้ายมารดาของเขาก็ได้สารภาพความจริง คืนความยุติธรรมให้แก่นางแล้ว ทว่าความแค้นที่สั่งสมมาเนิ่นนานยังคงเดือดพล่านในใจ
"จ้าวหงหลิง! เจ้าทำให้ข้าไม่เชื่อใจซูเหม่ยหลาน! เจ้าทำให้ข้าเข้าใจนางผิดมาโดยตลอด! เจ้ามันนังสารเลว!"
แม่ทัพไป๋เฉิงหลงตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด เขา น้ำตาไหลรินด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้หญิงคนรักต้องตายเพราะความอคติของตนเอง ก่อนจะฟุบลงกับพื้น สะอื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง
"ไป๋เทียนหลง...พ่อขอโทษ พ่อผิดเอง... หากเจ้าจะลงโทษพ่ออย่างไร พ่อก็พร้อมยอมรับ"
จอมมารเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจปวดร้าวจนต้องกลืนก้อนสะอื้นลงคอ เขาฝืนกลั้นความอ่อนแอเอาไว้ ก่อนจ้องไปยังคนตรงหน้า ดวงตาแดงฉานด้วยโทสะ
"สำนึกผิดตอนนี้ก็สายไปแล้ว! วันนี้ข้าจะส่งพวกเจ้าลงนรก!"
สิ้นคำพลังจอมมารพลันปะทุขึ้น มนต์ดำแผ่ปกคลุมไปทั่วจวน เตรียมปลดปล่อยพลังทำลายล้าง แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น กลับมีแสงสีชมพูพุ่งเข้ามาต้านไว้
"ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าฆ่าพวกเขาเด็ดขาด!"
มู่หลินใช้พลังดอกโบตั๋นสะกดวิญญาณเข้าต้าน แม้จะรู้ดีว่าพลังของตนไม่อาจเทียบชั้นกับจอมมารได้ก็ตาม
"มู่หลิน เจ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถอยไปเสีย ข้าไม่อยากฆ่าเจ้า"
"หากเจ้าจะฆ่าพวกเขา เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!"
มู่หลินเร่งพลังดอกโบตั๋นขึ้นอีก พยายามยื้อเวลาให้ทุกคนรอดพ้นจากเงื้อมมือจอมมาร
"พี่ใหญ่... ท่านพ่อ ท่านแม่... พวกท่านสำนึกผิดแล้ว โปรดให้อภัยพวกเราเถอะ ข้าเชื่อว่าหากแม่ใหญ่ยังอยู่ นางคงไม่อยากเห็นลูกต้องฆ่าพ่อเป็นแน่"
ไป๋เยี่ยน บุตรสาวคนสุดท้องของแม่ทัพ กล่าวอ้อนวอนด้วยน้ำตานองหน้า
จอมมารนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่เพียงไม่นาน เขาก็รวมพลังขึ้นมาอีกครั้ง ตั้งใจจะสังหารทุกคนในจวนให้สิ้นซาก ทว่า มู่หลินก็ยังคงยืนหยัดขวางไว้
ใช้ร่างกายของตนกำบังพวกเขาไม่ให้ได้รับอันตราย นางรับพลังจอมมารเข้าเต็ม ๆ
"อ๊ากกก...!"
จนร่างกระเด็นไปกระแทกพื้น เลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก
"มู่หลิน!"
จอมมารไป๋เทียนหลงชะงัก ไม่คิดว่านางจะกล้าสละตัวเองเช่นนี้ สายตาแข็งกร้าวของเขาสั่นไหวไปชั่วขณะ ก่อนที่ร่างของเขาจะพุ่งเข้าไปคว้าตัวนางขึ้นมาแนบอก และหายตัวไปในทันที
"พี่มู่หลิน!"
ไป๋เยี่ยนร้องเรียกสุดเสียงด้วยความเป็นห่วง แต่มู่หลินก็ถูกจอมมารพาตัวไปเสียแล้ว
"ข้าต้องไปแจ้งข่าวที่เขาไท่ซวน จัดรถม้าให้ข้าด้วย ป้าหวัง...ฝากดูแลท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ชายของข้าด้วยเถิด"
"คุณหนูอย่าห่วงเจ้าค่ะ ทางนี้ป้าจะจัดการเอง ขอให้คุณหนูเดินทางโดยสวัสดิภาพ"
ไป๋เยี่ยนเดินทางมุ่งหน้าสู่เขาไท่ซวนเพื่อแจ้งข่าวกับนักพรตอี้เซียนให้ทราบและขอความช่วยเหลือในการช่วยเหลือมู่หลิน
นางเดินทางพร้อมกับสาวใช้และคนรับใช้อีกสี่ถึงห้าคน ระหว่างทาง คณะเดินทางต้องหยุดชะงักเมื่อพบกับกลุ่มโจรป่าที่ซุ่มดักรออยู่กลางป่า
เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนที่เสียงตะโกนดุดันจะดังขึ้น
“ใครอยู่บนรถม้า! ลงมาเดี๋ยวนี้ และส่งของมีค่ามาให้หมด!”
ไป๋เยี่ยนและสาวใช้ตัวสั่นเครือ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมได้ นางค่อย ๆ ก้าวลงจากรถม้า สายตาของโจรทุกคนจ้องมาที่นางเป็นตาเดียว เมื่อเห็นโฉมสะคราญของไป๋เยี่ยน แววตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นความโลภทันที
“แม่นางผู้นี้งามนัก หากนำไปให้หัวหน้าโจร ข้าคงมีความดีความชอบไม่น้อย!”
มือหยาบกระด้างของโจรคนหนึ่งพยายามจะคว้าแขนของนาง แต่ก่อนที่มันจะสัมผัสตัวไป๋เยี่ยน เสียงแหวกอากาศของกระบี่ก็ดังขึ้นพร้อมกับเงาสีดำที่พุ่งเข้ามาอย่างว่องไว
“ฉับ!”
เลือดสาดกระเซ็น โจรคนหนึ่งล้มลงไปกองกับพื้น เสียงร้องโหยหวนดังลั่น ขณะที่เงานั้นเคลื่อนไหวเร็วราวสายลม เพียงพริบตาเดียวโจรอีกสองคนก็ถูกฟันล้มไปกับพื้นเช่นกัน
“ใครกัน!?”
โจรที่เหลือหันขวับไปมองร่างในชุดดำที่ยืนอยู่กลางหมู่พวกมัน บุรุษผู้มาใหม่สะบัดกระบี่ของเขา เลือดไหลลงพื้นเป็นสาย ดวงตาของเขาเย็นชาและดุดัน
“หนีเร็ว! พวกเราสู้ไม่ได้!”
โจรที่เหลือเห็นสภาพพรรคพวกของตนสิ้นชีพอย่างง่ายดายก็ตื่นตระหนก พวกมันรีบหันหลังวิ่งหนีหายเข้าไปในป่าทันที
ไป๋เยี่ยนมองชายหนุ่มปริศนาด้วยความรู้สึกซับซ้อน นางรู้ดีว่าหากไม่มีเขา คงไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือพวกโจร
“ขอบใจท่านมากที่ช่วยข้า ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร?”
นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
บุรุษผู้นี้มองนางนิ่ง ก่อนจะตอบเสียงเรียบ
“ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อข้า เจ้าแค่ปลอดภัยก็ดี... แล้วเจ้าจะไปที่ใด”
ไป๋เยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ
“ข้ากำลังเดินทางไปเขาไท่ซวนเพื่อแจ้งข่าวแก่อาจารย์ของพี่สาวข้า นางถูกจอมมารจับตัวไป”
เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เขาชะงักทันที แววตาของเขาฉายประกายเย็นเยียบ เขารู้ว่าหากปล่อยนางไป นางจะต้องพาพวกนักพรตมาเพื่อจัดการจอมมารเป็นแน่
ดวงตาของเขาวาวโรจน์ก่อนที่ริมฝีปากจะกระตุกขึ้นเล็กน้อย
“เช่นนั้น เจ้าต้องไปกับข้า”
ไป๋เยี่ยนยังไม่ทันได้ถามอะไรเพิ่มเติม ร่างของนางก็ถูกโอบอุ้มขึ้นก่อนที่ลมหายใจของนางจะสะดุด... นางถูกพาตัวไปยัง หุบเขาแห่งจอมมาร!
