บท
ตั้งค่า

1-3

“ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงของผมไปสนิทสนมกับใคร คุณควรจะรู้ว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรนะเอพริล”

“ฉันอยู่ในฐานะแม่ของไข่มุกค่ะ ฐานะอื่นฉันมีด้วยหรือคะ ฉันไม่ยักรู้”

“ฐานะอะไรต้องให้ผมย้ำอีกหรือ ฐานะเมีย หรือต้องทำโชว์ถึงจะจำได้”

“คนเลว ฉันถูกหลอกให้มาที่นี่เพราะงาน ถ้าคุณไม่เอางานมาล่อฉันก็ไม่มา พอฉันจะกลับคุณก็ยึดลูกสาวฉันไว้จนฉันไปไหนไม่ได้”

“ผมบอกคุณแล้วว่าคุณจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ แต่คุณไม่เปลี่ยนใจเองเอพริล”

พลอยวารินทร์จ้องตาสีน้ำตาลทองที่เป็นประกายแวววาวด้วยความโมโห เขาใช้อำนาจทุกอย่างที่มีกดเธอไว้ในอุ้งมือเขา

“ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจเป็นผู้หญิงของคุณ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว” และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเขามาที่เพนต์เฮาส์หรูที่เขาซื้อให้เธอกับลูกพักอยู่

พลอยวารินทร์ถอนใจหันมาพูดกับอีวาน

“คุณต้องการมาพูดกับฉันแค่นี้ใช่ไหมคะ ถ้าใช่ ฉันจะบอกว่าฉันเข้าใจแล้วค่ะ” พลอยวารินทร์ตัดบท

อีวานพยักหน้าทั้งที่รู้ว่าพลอยวารินทร์ไม่มีทางยอมรับสิ่งที่เขาบอกง่าย ๆ ปากเธอพูดแบบนั้นแต่ใจเธอไม่ยอมรับสักนิด “ขอบคุณครับที่เข้าใจ ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ผมขอตัวก่อน”

“ค่ะ” พลอยวารินทร์ตอบเรียบ ๆ มองคนสนิทของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกแต่ไม่ใช่สามีอย่างทำใจ อีวานก็เป็นแค่ลูกจ้างของเขา เธอไม่ได้โกรธเขาหรอก ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธโชคชะตาของตัวเองที่เล่นตลกทำให้เธอเสียสาวไปอย่างง่ายดายในคืนนั้น

ห้าโมงเย็น พลอยวารินทร์เก็บของกลับบ้านทันที เธอคิดถึงลูก และคิดเมนูอาหารไว้รอให้ลูกสาวกินแล้ว เธอหิ้วโน้ตบุ๊กกลับบ้าน ลงลิฟต์มาถึงหน้าบริษัทก็มีคนขับรถเดินมารับกระเป๋าโน้ตบุ๊กของเธอ แล้วเปิดประตูรอให้เธอขึ้นไปนั่ง

นี่เป็นหนึ่งในออฟชั่นเสริมของเธอที่มีในฐานะแม่ของลูกของเฮย์เดน เพื่อนร่วมงานไม่มีใครรู้ว่ารถที่มารับเป็นคำสั่งของเฮย์เดน เพื่อน ๆ ที่ทำงานของเธอต่างเข้าใจว่าแฟนเธอคงเป็นเศรษฐีคนไหนสักคนที่ส่งรถมารับ เพราะตัวพลอยวารินทร์เองก็บอกทุกคนเสมอว่าเธอเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีที่ไหน แถมยังมีลูกแล้วด้วย ครั้นเพื่อนร่วมงานจะถามอะไรอีก พลอยวารินทร์ก็มักจะเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่ตอบเรื่องครอบครัว เพื่อน ๆ เลยไม่มีใครรู้และไม่อยากถามอีกเพราะถามไปพลอยวารินทร์ก็ไม่ตอบ

พลอยวารินทร์เดินนำหน้าบอดี้การ์ดขึ้นไปที่ห้องพักบนชั้นที่สามสิบสาม พอเข้าไปแล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อลูกสาวคนสวยเดินแกมวิ่งเข้ามาหา

“คิดถึงมามี้จังเลยค่ะ” เด็กหญิงพริซซิลล่า แบรดฟอร์ดหรือไข่มุกกระโจนเข้าหาแม่แล้วซุกใบหน้าออดอ้อนกับอกแม่จนพลอยวารินทร์ยิ้มไม่หุบ

“แม่ก็คิดถึงไข่มุกเหมือนกันค่ะ สาวน้อยมาให้แม่หอมแก้มสักทีสิคิดถึงทั้งวันเลย” พลอยวารินทร์หอมแก้มยุ้ย ๆ ของลูกสาวฟอดใหญ่ หอมทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา แล้วเพิ่งสังเกตว่าที่ปากเล็กมีรอยเลอะไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีสีชมพูที่กำลังหกย้อยลงมา “กินไอศกรีมอยู่หรือคะไข่มุก นีน่าขอกระดาษเช็ดปากให้น้องไข่มุกด้วยจ้ะ”

นีน่าพี่เลี้ยงของไข่มุกได้ยินก็รีบเดินมาดู “ขอโทษทีนะคะคุณเอพริล นีน่าไม่ทันเช็ดปากให้น้อง เลยเลอะไปหมดเลย”

“ไม่เป็นไรจ้ะ เอากระดาษมาให้ฉันก็พอ เดี๋ยวฉันดูลูกเอง”

นีน่ากำลังจะหันไป แต่เห็นแก้มใสของเจ้านายสาวเลอะคราบไอศกรีมด้วย “คุณเอพริลคะ แก้มคุณก็เลอะไอศกรีมค่ะ เดี๋ยวนีน่าไปหยิบกระดาษมาให้นะคะ”

พลอยวารินทร์พยักหน้า เธอใช้มือที่ไม่ได้อุ้มลูกจับคราบเลอะที่แก้มมาดู “เลอะเทอะหมดเลยเพราะใครกันนะ ไข่มุกทำแม่เปื้อนแล้วเห็นไหม” ว่าแล้วคุณแม่ยังสาวก็หยิกแก้มยุ้ยน่าหยิกของลูกสาวเบา ๆ ดวงตาเคลือบไว้ด้วยความหลงลูก

แม่หนูน้อยส่ายหน้าหัวเราะคิก ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องแต่พลอยวารินทร์ก็ชอบใจ เห็นลูกสาวหัวเราะได้เธอก็มีความสุขมากกว่าอะไรในโลก

“ไข่มุกคะ วันนี้แม่จะทำซุปไก่ให้กิน ไข่มุกอยากกินไหม”

“หิว หิว มามี้ของไข่มุกสวยและทำอาหารอร้อย อร่อยที่สุดในโลก”

“เอาอีกแล้ว เรามันชอบอวยแม่ แต่แม่ก็ชอบนะ” สองแม่ลูกหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีพอได้ยินเสียงท้องร้องของเด็กน้อยซึ่งทำหน้าเหวอ พี่เลี้ยงรีบอธิบาย

“ก่อนออกมานีน่าป้อนข้าวให้น้องแล้วนะคะคุณเอพริล”

พลอยวารินทร์ยิ้มให้พี่เลี้ยง “ฉันเข้าใจจ้ะน้องไข่มุกกินเก่ง หิวเก่ง กินได้ตลอดวัน” ลูกสาวของเธอกินเก่งจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้อ้วนกลมตัวใหญ่มาก รูปร่างน่ารักสมวัยแต่ค่อนข้างไปทางอวบและมีแก้มมากหน่อย

“ไข่มุกเรานี่หิวตลอดเลย ถามกี่ครั้งก็หิว กินเก่งเกินเด็ก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอยู่กับพี่นีน่านะคะ แม่จะไปทำซุปไก่ให้กิน”

พลอยวารินทร์ชอบทำอาหารเอง แม่บ้านของเธอจึงมีหน้าที่แค่ทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้าให้เท่านั้น และอาจจะทำอาหารให้บางมื้อที่เธอขอร้อง แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งเดือนแล้วเธอเพิ่งให้แม่บ้านทำอาหารให้แค่ครั้งเดียวคือวันแรกที่มาถึงที่นี่

“ไข่มุกไปด้วยค่ะมามี้”

“แม่ไม่ได้ไปเที่ยวซะหน่อย แม่จะไปเข้าครัว จะตามแม่ไปทำไม ไหนบอกว่าหิวไงคะ”

“นะคะ มามี้คนสวยให้ไข่มุกไปด้วย ไข่มุกอยากทำ” การช่วยทำของลูกสาว พลอยวารินทร์เดาได้ไม่ยากถึงครัวที่จะเลอะขึ้นกว่าที่เธอทำคนดียวอีกหลายเท่าแต่สายตาของสาวน้อยที่ออดอ้อนแล้วเขย่าแขนเบา ๆ ก็ทำให้ใจอ่อน “มามี้คนสวย ให้ไข่มุกทำด้วยนะ นะ...”

พลอยวารินทร์ถอนใจก่อนส่งยิ้มเอ็นดูให้ลูกสาว “ใจอ่อนตอนที่ชมว่าแม่สวย ให้เข้าครัวด้วยก็ได้ยัยหนูเจ้าเล่ห์”

พลอยวารินทร์หัวเราะที่ลูกสาวจะตามเข้าครัวแล้วจูงมือน้อย ๆ ตามไป

“ไป ไป...” พลอยวารินทร์หัวเราะ แต่ต้องขมวดคิ้วเมื่อจู่ ๆ ใบหน้าลูกสาวก็เปลี่ยนจากยิ้มกว้างเป็นเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้

“เป็นอะไรคะไข่มุก ร้องไห้ทำไมลูก” เธอถามอย่างเป็นห่วงพอหันสายตาไปมองด้านหลังเพราะรู้สึกเหมือนมีคนยืนอยู่ และสายตาของลูกสาวมองจ้องไปข้างหลัง เธอจึงรู้ว่าอะไรเป็นต้นเหตุทำให้ไข่มุกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

เฮย์เดนยืนอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เขามาเงียบ ๆ จนเธอที่มัวเล่นกับลูกไม่ทันได้ยิน เขาทำให้ลูกของเธอกลัว พลอยวารินทร์จึงทำสีหน้าไม่น่ามองนักผิดกับสายตาที่สนทนากับลูกสาวเมื่อครู่

เฮย์เดนถามขึ้นเสียงขรึม พร้อมกับก้าวเท้ามาใกล้ ๆ “ไข่มุกเป็นอะไรทำไมถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนเห็นผม”

“ไม่น่าถาม ไข่มุกกลัวคุณไงคะ”

“กลัวผมทำไม ผม...มีอะไรให้ลูกต้องกลัว”

เฮย์เดนงุนงง ใช่ ถึงเขาจะหล่อดูดีแค่ไหน แต่ไอ้ใบหน้านิ่งที่เหมือนใครเอาน้ำยามาสตาฟเอาไว้ก็ทำให้เด็ก ๆ กลัวได้ทุกคน พลอยวารินทร์หน้าบึ้งมองเขา

‘ลูกนะไม่ใช่บริวารใต้การปกครอง’

“คงไม่ใช่ไข่มุกคนเดียวที่กลัวคุณ ฉันว่าเด็กคนอื่นเห็นคุณคงอยากวิ่งหนีมากกว่าวิ่งเข้าหาจริงไหมคะ” พลอยวารินทร์ได้ทีเลยผสมโรง เลยถูกเขาจ้องตาถามกลับ

“เอพริล คุณว่าผม”

พลอยวารินทร์แกล้งเสมองไปทางอื่นทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พลางพูดเปลี่ยนเรื่อง “ปกติคุณไม่เคยมาที่นี่ พอคุณมาไข่มุกก็เลยตกใจคิดว่าคนแปลกหน้าที่ไหน สงสัยไข่มุกกลัวพวกจับเด็กไปขาย ฉันเคยขู่แกเอาไว้เพราะกลัวแกชอบหนีจากสายตาพี่เลี้ยง”

“คุณทำให้ลูกกลัวผม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel