เค้นรักซิงเกิลมัม

113.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
61
บท
19.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หลังจากที่ ‘พลอยวารินทร์’ ใช้ชีวิตอย่างคนอับโชคมานานหลายปี จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าโชคจะหล่นทับหญิงสาวเข้าให้เต็มเปา เมื่อเธอได้รับคำสั่งให้ไปดูงานที่อเมริกา เพื่อจะนำประสบการณ์กลับมา รับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่หมายปองอยู่ แต่สิ่งที่เธอไม่มีวันรู้ก็คือ นั่นไม่ใช่โชค... หากเป็นกับดักอันชั่วร้ายของเขา ‘เฮย์เดน แบรดฟอร์ด’ ผู้ชายที่ตั้งใจจะแย่งชิง ‘สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต’ ไปจากเธอต่างหาก ห้าปีก่อน... เฮย์เดนอาจไม่เคยระแคะระคายเลยว่า นักธุรกิจระดับโลกอย่างเขา จะเปลี่ยนสถานภาพไปเป็น ‘ของรางวัล’ ในเกมเดิมพันของผู้หญิงแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่รู้ว่า ‘หญิงสาวผู้โชคดี’ ในคืนนั้น... ยังได้ ‘รางวัลแจ็กพอต’ แถมไปด้วย โดยที่เขาไม่เต็มใจ ถึงจะถูกมองว่าหน้าด้านอย่างไร เขาก็จะต้องทวงคืนมาให้ได้ ก็เรื่องอะไรจะปล่อยให้สายเลือดตัวเองไปตกระกำลำบากอยู่อย่างนั้น และที่แน่ๆ... ถ้าจำเป็นต้องรับไว้ทั้งลูกทั้งแม่ เขาก็จะเอา! “ได้สิ ผมให้ก็ได้ แต่ผมขายเป็นแพ็ก ถ้าคุณเอาลูกผมไปก็ต้องรับผมไปด้วย ขายเป็นแพ็กเกจ ไม่แยกขาย สนใจไหม ถ้าอยากได้ลูกต้องมีพ่อของลูกติดไปด้วย” “คนบ้า” พลอยวารินทร์แหว “ฉันจริงจังอยู่นะ ฉันไม่สนแพ็กเกจบ้าบอของคุณที่ยัดเยียดตัวเองมาให้หรอก” “ของดีนะคุณ ถ้าผมเป็นสินค้าก็เป็นระดับลักซ์ชัวรี่” “แต่ฉันไม่ได้นิยมของแถม ไม่ว่าจะถูกจะแพง จะลักซ์ชัวรี่หรือแจกฟรี ถ้าไม่อยากได้ก็คือไม่อยากได้ ใส่พานมาถวายฉันก็ไม่เอา” เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป มาติดตามพร้อมกันใน เค้นรักซิงเกิลมัมเล่มนี้

นิยายรักโรแมนติกเลขาอุ้มบุญพาลูกกหนีเศรษฐีโรแมนติกแก้แค้นจีบเมียเก่า

1-1ปากบอกว่าไม่แต่ใจโคตรคิดถึง

เมืองเออร์วิง รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตึกสำนักงานของบริษัทแบรดฟอร์ด ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ใหญ่โตสวยงามเด่นสง่าอยู่ติดถนนใหญ่ของเมืองเออร์วิง หนุ่มสาววัยทำงานที่สัญจรผ่านไปมาต่างอดไม่ได้ที่จะแหงนคอมองแล้วนึกในใจว่าอยากร่วมงานกับบริษัทฯ ใหญ่แห่งนี้ให้ได้ ด้วยเหตุผลเพราะคงจะดูโก้หรูและได้เงินเดือนดีไม่น้อย แต่ที่แห่งนี้ใช่ว่าใครจะเข้าทำงานได้ง่ายๆ เพราะแบรดฟอร์ด ปิโตรเลียมหรือชื่อย่อคือบีพีได้ชื่อว่าเข้าทำงานยากที่สุด เจ้าหน้าที่บุคคลกว่าจะรับคนเข้าทำงานจะคัดแล้วคัดอีก ส่วนมากคัดใบสมัครทิ้งมากกว่าคัดเลือกเข้าทำงาน ในบริษัทแห่งนี้จึงมีแต่พนักงานระดับหัวกะทิที่ได้เข้าไปทำงาน

พลอยวารินทร์ ประสบสุข สาวไทยวัยยี่สิบสี่ปี เธอเดินเข้าตึกสำนักงานด้วยความมั่นใจ รูปร่างเพรียวบาง ผมยาวดำสลวยนั้นทิ้งตัวกวัดแกว่งไปมาในชุดทำงานกระโปรงสั้นสีดำโชว์เรียวขายาวขาวผ่อง ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยไปหมด จนคนที่เดินสวนทางต้องหันกลับมามอง โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่ทำงานในตึกบีพีนั้นอดไม่ได้ที่จะลอบมองและอยากขายขนมจีบให้เธอหรือนั่นเป็นสัญชาติญาณของผู้ชายส่วนใหญ่เมื่อเห็นผู้หญิงสวยไม่ได้ต้องลองเร่ขายขนมจีบดูสักหน่อย

พลอยวารินทร์ขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่สิบแปด เดินมานั่งที่โต๊ะทำงาน เธอวางกระเป๋าสะพายลงแล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไม่ทันจะเดินไปชงกาแฟก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหาเสียก่อน ใบหน้าสวยจัดเงยขึ้นมองก็เห็นว่าหนุ่มคนนั้นยื่นแก้วกาแฟยี่ห้อดังมาวางให้ตรงหน้า มีควันลอยกรุ่นขึ้นมาจากแก้วกาแฟบอกได้ว่าเพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ

“สวัสดีตอนเช้าครับเอพริล นี่กาแฟของคุณ ผมมาถึงแต่เช้าเลยแวะซื้อ แล้วเผื่อคุณด้วย” เขายืนบอก ท่าทางสุภาพจนพลอยวารินทร์ไม่อยากปฏิเสธให้เขาเสียใจ

“ขอบคุณค่ะเรย์มอนด์ ถ้าฉันบอกว่าวันหน้าไม่ให้ซื้อให้อีก คุณก็คงไม่เชื่อใช่ไหมคะ”

เรย์มอนด์หัวเราะก่อนพูดอย่างจริงจัง “ผมอยากให้เอพริลรับเดตผมสักทีนี่ครับ ถ้ารับเดตผมเมื่อไร ผมจะเลิกซื้อกาแฟตอนเช้าแล้วเปลี่ยนเป็นนัดดินเนอร์แทนในตอนเย็น”

พลอยวารินทร์รู้สึกเลี่ยนแต่ไม่พูดออกไป ผู้ชายมักจะปากหวานและโปรโมชั่นแรงในช่วงแรกเสมอ “ถ้าอย่างนั้นขอเป็นกาแฟร้อนวันละแก้วเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ ฉันไม่ว่างไปดินเนอร์ด้วยแน่ ๆ ฉันเตือนแล้วนะคะว่าคุณอาจจะเสียเวลาเปล่าอย่าหาว่าฉันไม่เตือนก่อนละ” พลอยวารินทร์บอกใบหน้าเปื้อนยิ้ม

แม้คำพูดจะตรงไปตรงมาจนคนฟังแทบหงายหลัง แต่เรย์มอนด์ก็ยังยิ้มกว้างปักหลักไม่ไปไหน เขาชอบสาวไทยหน้าสวยคนนี้มาก ยังไงก็จะจีบเป็นแฟนให้ได้ เรย์มอนด์เป็นผู้จัดการฝ่ายวิจัยของแบรด์ฟอร์ด ปิโตรเลียม เขาทำงานเก่งจนได้รับความไว้วางใจให้ขึ้นเป็นผู้จัดการตั้งแต่ยังหนุ่ม พลอย

วารินทร์เพิ่งเดินทางมาถึงเท็กซัสไม่นาน จึงอยากมีเพื่อนสักคนไว้คอยช่วยเหลือในการทำงาน หากจะอยู่ตัวคนเดียวโดยไร้เพื่อนฝูงก็คงจะไม่ดีนัก

อันที่จริงเธออยู่ที่เท็กซัสแค่หนึ่งปีเท่านั้น ก่อนจะกลับเมืองไทยไปรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่นั่น การเดินทางมาที่สำนักงานใหญ่แห่งนี้ก็เพื่อดูงาน แต่ตอนนี้ถ้าไม่ติดว่าห่วงหน้าที่การงานและเงินเดือนที่มากกว่าเรตปกติของบริษัทแห่งอื่นแล้วละก็เธอลาออกไปนานแล้ว และยังมีเหตุผลที่สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใดที่ทำให้เธอไปจากที่เมืองเออร์วิงไม่ได้ก็คือลูกนั่นเอง ใช่แล้วเธอมีลูกวัยสี่ขวบแล้วหนึ่งคน พลอยวารินทร์เลิกคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาดูงานที่เออร์วิงชั่วคราวแล้วหันไปตัดบทกับเรย์มอนด์

“เรย์มอนด์คะ ฉันทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตมาด้วย ฉันจะแบ่งใส่กล่องให้นะคะ”

เรย์มอนด์รู้ว่าอีกฝ่ายไล่ทางอ้อมแต่ก็ไม่อยากทำให้ถูกรำคาญไปมากกว่านี้เลยพยักหน้า “ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้ว ส่วนคุกกี้กล่องนี้ผมจะเก็บไว้กินตอนหิวแล้วนึกถึงคุณนะครับเอพริล รับรองว่ามันจะอร่อยกว่าเดิมมากเมื่อผมนึกถึงหน้าคนทำ”

“ค่ะ...” พลอยวารินทร์รับคำอย่างแกน ๆ แล้วหันหน้าหนีเข้าโต๊ะทำงาน ทว่าคิ้วเรียวต้องขมวดมุ่น โน้ตบุ๊กของเธอเปิดไม่ติด

เรย์มอนด์เห็นสีหน้าย่ำแย่ของพลอยวารินทร์เข้าพอดีจึงวางกล่องขนมคุกกี้ลงแล้วเดินเข้าไปดูโน้ตบุ๊กให้อีกฝ่ายตั้งแต่เธอยังไม่เอ่ยปาก

“โน้ตบุ๊กเป็นอะไรครับ”

พลอยวารินทร์สั่นศีรษะ “ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรค่ะ เปิดไม่ติด ที่จริงติด ๆ ดับ ๆ มาหลายวันแล้ว พอวันนี้เปิดไม่ติดเลย”

เรย์มอนด์เข้าไปดูหน้าจอใกล้ ๆ ทำให้ใบหน้าของเขาอยู่ชิดกับพลอยวารินทร์อย่างไม่ตั้งใจ พลอยวารินทร์เองก็ไม่ได้ขยับหนีเพราะห่วงโน้ตบุ๊กจะเสียแล้วทำงานไม่ได้ ข้อมูลสำคัญที่ต้องทำงานวันนี้อยู่ในนั้นทั้งหมดจนลืมไปว่าเรย์มอนด์อยู่ใกล้มาก

“ผมว่ามันคงเสียแล้วละครับ เดี๋ยวผมถือไปให้เจ้าหน้าที่ไอทีซ่อมให้ แล้วผมจะหาโน้ตบุ๊กสำรองมาให้ใช้ก่อนนะครับ”

สีหน้าย่ำแย่เมื่อครู่ของพลอยวารินทร์เลยดีขึ้น “ขอบคุณมากนะคะ แต่ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ฉันถือไปส่งซ่อมที่แผนกไอทีเองก็ได้”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ดีกว่า คุณรอผมที่โต๊ะทำงานนะครับ โน้ตบุ๊กมันหนักผมไม่อยากให้คุณถือเดินลงไปชั้นที่สิบห้า”

พลอยวารินทร์ไม่คิดว่าการลงลิฟต์ไปชั้นที่สิบห้าจะลำบากอะไร แต่เห็นท่าทางกระตือรือร้นของเพื่อนหนุ่มเลยปล่อยให้เขาถือโน้ตบุ๊กไป

เรย์มอนด์ยังไม่ทันเดินไปได้สักก้าว เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครยืนสอดมือล้วงกระเป๋ามองจากประตูทางเข้าออฟฟิศ เขามองเต็มตาจึงเห็นว่าเป็นท่านประธานใหญ่ของที่นี่ เฮย์เดน แบรดฟอร์ด มหาเศรษฐีเพลย์บอยหนุ่มหล่อแห่งเท็กซัส

เรย์มอนด์ขมวดคิ้ว ดูเหมือนสายตาของท่านประธานใหญ่มองมาด้วยความไม่ชอบใจมาก ๆ แต่จะไม่ชอบใจเขาด้วยเรื่องอะไรเขาไม่เข้าใจ เขาได้ทำอะไรผิดนี่นา

เฮย์เดน แบรด์ฟอร์ด คือประธานใหญ่ของบริษัทแบรด์ฟอร์ด ปิโตรเลียม บริษัทที่ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่าทำกำไรเป็นอันดับหนึ่งในทุกการจัดอันดับของนิตยสารดังทั่วโลก เฮย์เดน เป็นชายหนุ่มวัยสามสิบสอง หล่อเหลา มีดวงตาสีน้ำตาลทองสีเดียวกับเส้นผม รูปร่างกำยำสมส่วนราวกับพระเอกหนังฮอลลีวูด

เฮย์เดนกำลังขึ้นไปทำงานที่อยู่ชั้นที่สิบเก้า แต่เขาแวะมาคุยงานกับผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ชั้นนี้เข้าเสียก่อนเลยเห็นว่าพลอยวารินทร์ผู้หญิงที่เขาดูแลอยู่มีผู้ชายมาติดพันถึงโต๊ะทำงาน สงสัยว่าพลอยวารินทร์จะไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบที่เธอทำตัวแบบนี้ ลำพังเธอคนเดียวเขาคงไม่สนใจแต่เธอมีลูกสาวของเขาอยู่ในความดูแลก็ควรทำตัวให้ดีหน่อย

เฮย์เดนไม่พูดอะไรแต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มขึ้น อีวานและดาร์เรนคนสนิทรู้ดีจึงมองเรย์มอนด์ด้วยสายตาคมกริบ จดจำบัญชีแค้นแทนเจ้านายไว้แล้ว เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่สิบเก้า

เฮย์เดนก็ไม่ได้พูดอะไรเขาเปิดโน้ตบุ๊กราคาแพงทำงาน แต่

อีวานที่เป็นมือขวาคนสนิทที่ลงไปที่ชั้นที่สิบแปดไม่นานก็กลับเข้ามารายงานอย่างรู้งาน

“คุณเฮย์เดนครับ ผมจัดการทำเรื่องย้ายนายเรย์มอนด์ไปที่สาขาอื่นแล้ว ไม่ทราบว่าคุณเฮย์เดนคิดว่ายังไงบ้างครับ ต้องการให้ผมลงมือหนักมากกว่านี้หรือเปล่า”

เฮย์เดนเงยหน้าขึ้นมา มุมปากมีรอยยิ้ม ขณะที่ดาร์เรนก้าวเข้ามาวางถ้วยกาแฟแล้วถอยหลังไปประสานมือรอรับคำสั่งใกล้ ๆ อีวาน เฮย์เดนพอใจการทำงานของอีวานมาก อีกฝ่ายรู้ใจว่าเขาต้องการอะไรและไม่พอใจอะไรโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยปาก

“ก็ตามนั้น” เฮย์เดนเลิกคิ้วบอกเหมือนไม่ใส่ใจนัก แต่ที่จริงเขาพอใจมากที่อีวานจัดการแทน ไม่ต้องให้เขาลงมือไปจัดการเองเพราะเขามีงานยุ่งและสำคัญกว่านั้นหลายอย่าง ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อเฮย์เดนก็เงยหน้าขึ้น “อีวานแล้วนายคอยดูด้วยว่ามันยังติดต่อกับพลอยวารินทร์หรือเปล่า