ตอนที่ 8
ร่างสูงพิงผนังห้องเรียนด้านนอกแอบมองเจ้าคนแสนซนผู้อยู่ด้านใน คนเจ้าแง่แสนซนแสนงอนวันนี้เติบโตขึ้นมาก ภายใต้อาภรณ์เรียบง่ายนั้นหาได้ราบเรียบอย่างแลเห็น สัมผัสนวลเนื้อเมื่อใกล้รุ่งยังกรุ่นกลิ่นระนาสิก ชายหนุ่มส่ายศีรษะไปมาขับไล่ความคิดนอกลู่นอกทางที่พาลจะเกิดขึ้นอีก ทุกครั้งที่เข้าใกล้เจ้าผลไม้ทิพย์นี้เหตุใดองค์นาคาหนุ่มเสมอเหมือนควบคุมพระหฤทัยตนเองได้ยากเต็มทน
“โบราณคดี คือ วิชาที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับโบราณวัตถุและโบราณสถาน
โบราณคดี คือ วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวในอดีตของมนุษย์ โดยผ่านทางการศึกษาหลักฐานทางโบราณคดี ที่ได้มาจากการขุดค้นโบราณวัตถุ การขุดแต่งโบราณสถานและการศึกษาเอกสารทางประวัติศาสตร์ประเภทต่างๆ เช่น ศิลาจารึก จดหมายเหตุ หรือพงศาวดาร โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้ศาสตร์ด้านอื่นๆ ประกอบด้วย เพื่อให้เรื่องราวในอดีตของมนุษย์ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ศาสตร์เหล่านั้น เช่น ประวัติศาสตร์ศิลปะ ธรณีวิทยา สัตววิทยา พฤกษศาสตร์ เรณูวิทยา การกำหนดอายุทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
แนวทางการศึกษาวิชาโบราณคดี โดยทั่วไปจำแนกได้ 6 ลำดับคือ 1.ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจากเอกสารต่างๆ, 2.การออกสำรวจภาคสนาม, 3.การขุดสำรวจเพื่อประเมินความสำคัญของแหล่ง, 4.การขุดค้นทางโบราณคดี, 5.การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการขุดค้น, 6.การสังเคราะห์ข้อมูลและตีความเรื่องราวของแหล่งโบราณคดีนั้นๆ
นักศีกษาทราบหรือไม่คะว่า “โบราณคดี” มีที่มาจากคำประเภทใด และมีคำแปลว่าอะไร”
“มาจากคำสันสกฤตค่ะ”
“เก่งมากค่ะ ทำการบ้านมาดีนะเนี่ย”
นักศึกษาสาวยิ้มแป้นกับคำกล่าวชมของอาจารย์สาวแล้วก้มลงจดแลคเชอร์ต่ออย่างตั้งใจ
“คำว่าโบราณคดี มาจากคำสันสกฤต 2 คำ ก็คือคำว่า "ปุราณะ" ซึ่งแปลว่า “เก่า” สมาสกับ "คตี" ที่แปลว่า “เรื่องราว” ถ้าแปลตามรูปศัพท์ก็แปลว่า "เรื่องราวเก่าแก่" ซึ่งคำนี้มีนัย หมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวสมัยโบราณนั่นเอง”
สายตาคมเข้มปรายมองเหล่านักศึกษาที่อาจารย์สาวคนใหม่ประจำภาควิชาโบราณคดีได้สอนเป็นครั้งแรก ดูราวนักศึกษาจะตั้งใจฟังอาจารย์สาวผู้นี้กันเป็นอย่างดี.. ดีเสียจนเกินไป นักศึกษาสาวหลายคนตั้งใจจดแลคเชอร์ แต่นักศึกษาหนุ่มหลายคนก็ตั้งใจ แต่เป็นการตั้งใจนั่งจ้องหน้าอาจารย์สาวเสียมากกว่า อาจารย์สาวที่เคยเป็นรุ่นพี่ในคณะเดียวกัน ถึงชั้นเรียนนี้จะเป็นชั้นเรียนของนักศึกษาปีหนึ่งแต่ก็มีนักศึกษาเก่าบางคนปะปนมาลงเรียนใหม่ด้วย
สาวเซอร์..ติสต์เล็กๆ ที่เคยเห็นเป็นประจำเป็นขวัญใจของรุ่นน้องมากมายในความสดใสไร้มลพิษ พี่ทับทิมในวันวานกลับมาวันนี้ในมาดอาจารย์สาวคนใหม่ลบภาพความเซอร์ความติสต์ออกหมดไม่หลงเหลือ กลายเป็นอาจารย์สาวที่สวยสะพรั่งแต่ยังคงไร้มลพิษเฉกเช่นเดิม ใบหน้านวลที่ปราศจากเครื่องสำอางใดๆ มีเพียงลิปกลอสบางเบากันแดดเท่านั้น นักศึกษาหนุ่มหลายคนทำท่าคล้ายเพ้อฝัน ไม่รู้ว่ารับเอาวิชาความรู้ใส่ตัวไปเท่าใดบ้าง หัวหน้าภาคหนุ่มส่ายศีรษะไปมาด้วยความอิดหนาละอาใจ
“ไอ้พวกนี้เดี๋ยวก็ได้ลงซ่อมอีกรอบ” ดวงตาขวางๆ พุ่งจุดสนใจไปที่นักศึกษาหนุ่มที่นั่งทำหน้าชวนฝันนั้นในทันที
เป๊าะ!
นักศึกษาหนุ่มสะดุ้งวาบนั่งตัวตรงในทันที เสียงดีดนิ้วข้างใบหูดังเสียจนแก้วหูแทบระเบิด สองมือกดหูข้างขวาแน่น รอยแดงปื้นใหญ่ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาทันที อาจารย์สาวรีบรุดมาที่นักศึกษาหนุ่มในเกือบทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโอดโอย มือบางสำรวจดูใบหูที่เป็นรอยปื้นแดงนั้นอย่างงงๆ เสียงดีดนิ้วที่ดังขึ้นนั้นได้ยินกันทั่วห้องแม้จะดังแต่ก็ไม่มากและไม่มีใครเลยที่มายืนดีดนิ้วบริเวณที่นักศึกษาหนุ่มนั่งอยู่ แต่ทำไมนักศึกษาหนุ่มถึงได้ละล่ำละลักบอกว่ามันดังมากจนแก้วหูเขาแทบระเบิดแล้วรอยปื้นแดงเหมือนโดนความร้อนแผดเผานั่นอีกเล่า ความแปลกพิสดารเรียกเสียงฮือฮาได้จากนักศึกษาทั้งชั้นเรียน
“พี่ทับทิม”
“อาจารย์พิลา...” อาจารย์สาวกล่าวเสียงเข้มให้นักศึกษาหนุ่มเปลี่ยนคำเรียกขาน
“ครับอาจารย์ .. ผมได้ยินจริงๆ นะครับ เสียงมันดังบาดแก้วหูผมแทบจะแตก โอ๊ย! ร้อนไปหมดแล้ว”
“นี่เธอ..ช่วยพาเพื่อนไปที่ห้องพยาบาลทีเร้ว”
ร่างบางหันไปพยักเพยิดกับเพื่อนนักศึกษาหนุ่มที่นั่งใกล้กัน นักศึกษาหนุ่มสองคนเข้ามาพยุงคนหูแดงออกไปส่งที่ห้องพยาบาล นักศึกษาที่เหลือยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้น อาจารย์ใหม่มาสอนวันแรกน่าจะถูกลองเชิงเสียแล้ว เรื่องเหนือธรรมชาติอย่างนั้นเหรอ
สองมือน้อยเตรียมพนมมือหวังจะไหว้สาเจ้าที่เจ้าทาง ด้วยคิดว่าเรื่องแปลกนี่คงมาจากที่ตนนั้นยังไม่ได้เข้าไปไหว้พระภูมิเจ้าที่ผู้ปกปักษ์รักษาเขตแดนมหาวิทยาลัยแห่งนี้แน่ แม้ตอนเป็นนักศึกษาจะกราบไหว้สาทุกวันเพื่อเข้าเรียนแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้หญิงสาวหาใช่นักศึกษาแต่เป็นอาจารย์เป็นบุคลากรคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยยิ่งควรฝากฝังตัวเองกับเจ้าของที่ สองมือน้อยยกเหนือศีรษะ
“เจ้าประคุ.....”
น้ำเสียงชะงักงันด้วยเห็นแผ่นหลังที่เพิ่งผ่านพ้นระเบียงด้านหน้าห้องไป สายตาหวานหวามแววขึ้นหัวใจชุ่มชื่นดังน้ำทิพย์รดริน ฉับพลันเจ้าคนแสนงอนก็หน้าง้ำขึ้นทันควัน สองมือกอบกำคู่มือเตรียมสอนขึ้นแนบอกเพราะให้รู้ที่มาของความแปลกประหลาดในชั้นเรียนแรกของตนว่ามาจากผู้ใดกัน
“หมดชั่วโมงเรียนแล้ว พบกันคราวหน้านะจ๊ะ ชั่วโมงหน้าครูจะสอนเรื่องโบราณสถานในประเทศไทยนะ ยังไงเตรียมทำการบ้านกันมาด้วยล่ะ”
