ตอนที่ 5
“งั้น..วางสายก่อน”
“อืม...ไม่ต้องเป็นห่วงนะ...รัก...”
“บ๊องส์.....”
“อืม...บ๊องส์ก็ได้...รักนะคนดื้อ”
ตึ้ด....ตึ้ด....ตึ้ด........
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ที่ตัดไปเพราะคนต้นสายหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอายในคำบอกรักนั้นจนมือไม้อ่อนแทบจะหมดแรงยกโทรศัพท์ค้างไว้ สองมือน้อยๆ ปิดหน้าตัวเองไปมาด้วยความอาย ใบหน้านวลแดงระเรื่อด้วยโลหิตสูบฉีด ใช่ว่าไม่เคยได้ยิน นายนั่นก็บอกรักทุกครั้งทุกทีทุกที่ที่เจอกันแต่ทุกครั้งก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้สักที
ภาพม่านไหวที่สะท้อนเห็นภาพของร่างบางตรงหน้าเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าสง่างามนั้นไม่จืดจาง พระหฤทัยราชบุตรแห่งนาคพิภพเสมือนประหนึ่งว่าจักเติบโตขึ้นเมื่อได้รดน้ำใส่ปุ๋ยด้วยคำรักทุกคืนวัน ร่างสูงสง่าก้าวมั่นด้วยความอาจองเข้าในไปห้องโถงใหญ่ เรื่องวุ่นๆ คงไม่จบเพียงแค่นี้แน่ต้องวิ่งวุ่นปิดข่าวกันอีกนานเท่าไหร่นี่ ครั้งที่สองแล้วที่เป็นข่าวครึกโครมและที่ไม่เป็นข่าวอีกสามครั้งได้ องค์นาคาหนุ่มส่ายพระเศียรไปมาด้วยความอะรา
“เมื่อใดหนอกิเลสมนุษย์จึงจะลดน้อยถอยลง ความอยากได้ใคร่มีในของที่มิใช่เจ้าของ มิมีสิทธิ์ครอบครอง เมื่อใดหนอจักลดหลั่นลง...มนุษย์น้อยเอ๋ย...กิเลสแห่งเจ้าช่างทับถมปะปนกันสูงเสียกว่ายอดเขาพระสุเมร”
องค์นาคาหนุ่มแห่งนาคพิภพพึมพำสิ่งที่ครอบงำมนุษย์ให้รู้สึกอยากได้อยากมี แต่พระองค์มิรู้เลยว่า...หาใช่เพียงมนุษย์นั้นไซร้ที่อยากได้อยากมีในสิ่งที่มิใช่ของตัวตน ในสิ่งที่มิมีสิทธิ์ครอบครอง ทุกชีวิตภายในหล้า..หากไม่ถึงซึ่งอรหันต์ล้วนมีกิเลสครอบงำทั้งสิ้น มิเว้นแม้แต่ว่านวงศ์.....
ผ้าม่านหน้าต่างไหวขึ้นเล็กน้อยตามแรงลมปะทะจากด้านนอกเข้ามาสู่ด้านในห้องนอนใหญ่ แสงนวลจากโคมไฟด้านข้างหัวเตียงไม่สว่างมากเพราะเจ้าของห้องไม่ชอบที่จะนอนแล้วมีความรู้สึกว่าแสงไฟเข้าตา ถึงแสงที่มีจะไม่สว่างมากพอจะเห็นรายละเอียดต่างๆ ภายในห้องนอนได้ก็ตามที แต่ภายใต้แสงสลัวๆ นั้นยังเห็นได้ว่าห้องนอนใหญ่นี้ตกแต่งด้วยสีโทนอ่อนเกือบทั้งหมด ลวดลายดอกไม้บางเบา ผ้าม่านกรุยกรายรอบห้อง เครื่องเรือนสีนวลสว่างตาแม้ในยามมืดสลัว แม้จะเห็นได้จากนิมิตภาพที่สร้างขึ้นว่าห้องนอนนี้ตกแต่งด้วยโทนสีขาวชมพูก็ตาม แต่เมื่อได้มาอยู่ในสถานที่จริง บรรยากาศจริง กลับยิ่งรู้สึกว่าห้องนี้เหมาะสมสำหรับเป็นห้องของเจ้าหญิงเสียนี่กระไร
เตียงใหญ่สี่เสาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าแห่งตัวห้องนี้เล่า ผ้าม่านลูกไม้ฝรั่งเศสชั้นดีละเลื่อยลดหลั่นกันลงมาตั้งแต่หัวเสาด้านบนแล้วมาจับจีบที่เหนือโคนเสาบริเวณใกล้กันกับที่นอนหนานุ่ม ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นเท่าใดองค์นาคาหนุ่มที่ร้อนรุ่มเมื่อจินตนาการไปถึงเจ้าของห้องที่นอนหลับใหลนิทรารมณ์อยู่ในห้องที่สวยงามปานเจ้าหญิงในเทพนิยายฝรั่งนี้ เธอจะสวมใส่อาภรณ์ใดเข้าสู่นิทรารมณ์ สองเท้าแข็งแกร่งก้าวช้าๆ เนิบนาบตรงไปที่เตียงนอนใหญ่ที่เห็นตรงหน้า สายตาคมเข้มหวานเชื่อมกรุ่นไอรัก พลันรอยฉงนงุนงงก็ปรากฏอยู่บนสายตาคู่นั้น ชายหนุ่มยกมือปิดกั้นเสียงหัวเราะอดไม่ได้ที่จะขำกับสิ่งที่ตัวเองจินตนาการไปไกลเพริดแพร้วและนึกขำกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ร่างบางที่นอนคุดคู้กอดก่ายหมอนข้างเจ้าแมวสีฟ้าตัวอ้วนกลมอยู่กลางเตียงใหญ่ รายรอบกายเต็มไปด้วยหมอนหัวใจมากมาย มีทั้งสีเข้ม สีนวล ซึ่งน่าจะเป็นสีชมพูเข้มและสีชมพูอ่อน ทั้งใบเล็กใบใหญ่คละเคล้ากันไป ชุดนอนคอกลมแขนยาวและกางเกงขายาวเข้าชุดนั้นก็ยังเป็นลายเจ้าแมวสีฟ้าอยู่ดี ใบหน้ารั้นๆ รับกับผมซอยสั้นระต้นคอไร้เครื่องสำอางใดๆ นิทรารมณ์หลับใหล มิรู้เลยว่าเจ้าของหัวใจนั้นพระหฤทัยเต้นรัวเพียงใดที่ได้ยินยลเจ้าใกล้ขนาดนี้.. แค่เพียงลมหายใจรดริน
ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ปลายผมที่ปกคลุมใบหน้าน้อยๆ นั้นทัดหู พลางลูบไล้ฝ่ามืออุ่นจัดนั้นแนบตั้งแต่ไหล่กลมมนลงไปถึงเอวคอดกิ่ว ใบหน้าคมคายก้มต่ำหมายจักขโมยจุมพิตเจ้าคนแสนรั้นให้หายคิดถึงคะนึงหา ลมหายใจอุ่นพร่ารดรินแก้มนวลดอมดมความหอมแห่งเจ้าผลไม้ทิพย์ ริมฝีปากอุ่นจัดจนเกือบร้อนก้มประทับริมฝีปากรั้นๆ นั้นอย่างหักห้ามใจตนไม่ไหว
รอยอุ่นวาบที่สัมผัสได้จากแก้มนวลจนถึงลมหายใจอุ่นจัดเกือบร้อนละลอยเหนือจมูกรั้นๆ เรียกเจ้าของดวงตาหวานให้ลืมโพรงท่ามกลางความสลัว สองมือยันอกกว้างที่ก้มลงหมายจุมพิตอย่างเร็วไว แรงทั้งหมดที่พึงมียันรั้งใบหน้านั้นให้ไกลออก กำปั้นน้อยๆ ระดมทุบทุกที่ที่สามารถทำได้ แต่ยังช้าไปกว่าฝ่ามือแข็งแกร่งที่รวบเอาข้อมือน้อยๆ นั้นทาทาบไว้ที่แผ่นอกกว้าง
ใบหน้างามส่ายไปมาไม่หมายให้ชายใดได้ล่วงเกินริมฝีปากหยิ่งรั้นที่หมายเจ้าของไว้แล้ว ความรู้สึกตื่นกลัวที่สัมผัสได้ เสียงเรียกของหัวใจที่พร่ำเพรียกหาองค์นาคาหนุ่มทำให้องค์เคสินาคาชะงักงัน ริมฝีปากอุ่นจัดกระซิบพร่าแนบแก้มนวล “พี่เอง....อืม......” แลไร้ริมฝีปากอุ่นจัดทาทาบควานหาความหอมหวานที่ร้างไกลไปเสียนาน
