3 อรุณในอ้อมแขน
ตอนที่ 3
อรุณในอ้อมแขน
ไออุ่นจากแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านบางเบาเข้ามาในห้องไม้เก่าๆ หลังพายุที่โหมกระหน่ำได้สงบลงแล้ว ความเงียบที่เข้ามาแทนที่ความบ้าคลั่งของลมฝน ทำให้รู้สึกราวกับคืนที่ผ่านมาคือภาพลวงตาที่เกิดจากเสียงฟ้าร้องและแรงปรารถนาอันรุนแรง
แต่สำหรับ น้ำขิง...
เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่แค่เพราะกลิ่นกายของเขาที่ยังคงอบอวลติดปลายจมูก กลิ่นหอมดิบๆ ของผู้ชายที่ปะปนกับกลิ่นไอฝนและเหงื่อ
ไม่ใช่แค่เพราะรอยแดงจางๆ ที่ประปรายอยู่เกลื่อนร่างเธอ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเร่าร้อนที่ถาโถมเข้ามาแต่เป็นเพราะ...เขา ยังนอนอยู่ข้างๆ จริงๆ
ภูผา ยังคงหลับตาพริ้ม ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าท่อนบน หน้าท้องแบนราบที่ยังคงชื้นเหงื่อเป็นหย่อมๆ สะท้อนแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่ส่องเข้ามา แขนแข็งแรงที่พาดรอบเอวเธออยู่นั้นกระชับแน่นราวกับโซ่ตรวนที่ผูกมัดเธอเอาไว้กับเขา
เขาไม่ได้พูดอะไรแม้แต่นิดเดียว...แต่การที่เขายังคงกอดรัดเธอไว้แน่น และยังไม่ยอมปล่อยเธอไปไหน...มันก็ชัดเจนมากพอที่จะทำให้น้ำขิงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้
น้ำขิงจ้องมองใบหน้าคมเข้มของเขา พลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หัวใจของเธอยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ และความรู้สึกหลากหลายตีรวนอยู่ในอก
“เมื่อคืน...มันหมายความว่าอะไร” เธอถามเบาๆ ราวกับกระซิบถามตัวเองมากกว่าจะถามเขา
“มันก็แค่...ไม่รู้จะห้ามใจยังไง” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นเบาๆ แต่ชัดเจน ราวกับเขาตื่นอยู่ตลอดเวลา
น้ำขิงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเขาตื่นอยู่แล้ว และกำลังฟังเธออยู่
“แล้ววันนี้...จะห้ามได้หรือยัง” น้ำเสียงของเธอแข็งขึ้นอย่างอัตโนมัติ เพื่อสร้างเกราะป้องกันใจตัวเองที่กำลังจะพังทลายลงจากความสับสน
ภูผาลืมตาเต็มที่ พลิกตัวหันมามองเธอตรงๆ ดวงตาคมกริบของเขาเรียบนิ่ง แต่กลับแฝงไว้ด้วย เปลวไฟแห่งความเร่าร้อน ที่ร้อนแรงจนแทบจะเผาเธอเป็นจุณ
“คุณอยากให้ผมห้ามเหรอ” เขาถามกลับช้าๆ เสียงทุ้มแหบพร่าเต็มไปด้วยความท้าทาย
หญิงสาวไม่ตอบ...แต่เธอก็ไม่ได้ขยับหนีไปไหน เธอยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เธอพยายามหลบสายตาคมกริบของเขา แต่หัวใจกลับสั่นวูบเมื่อ มือใหญ่แข็งแกร่งของเขาเลื่อนขึ้นมาสัมผัสแก้มเธอเบาๆ ปลายนิ้วโป้งไล้เช็ดหยาดเหงื่อที่ซึมอยู่ข้างขมับ
“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าเธอจะไม่มีวันลืมฉันได้” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง ความท้าทาย และคำประกาศิต
เขาโน้มตัวลงทาบทับเธออีกครั้ง...ในเช้าวันใหม่ที่ยังไม่ทันเริ่มต้นอย่างแท้จริง
เสียงลมหายใจเริ่มถี่จัดอีกครั้งเมื่อภูผาไล้ปลายจมูกลงผ่านซอกคอขาวเนียนของเธอช้าๆ สูดดมกลิ่นหอมกรุ่นจากผิวกายของเธออย่างหิวโหย มือใหญ่แข็งแรงไล้จากเอวคอดขึ้นมายังเนินอกอวบอิ่ม ปลายนิ้วของเขาลากวนรอบยอดอกที่แข็งเป็นไตอย่างทรมานใจ ก่อนจะก้มลงใช้ริมฝีปากร้อนผ่าวดูดเม้มยอดถันอย่างไม่ปรานี ความหิวโหยที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
น้ำขิงจิกผ้าห่มที่ยับยู่ยี่แน่น ขาของเธอกระตุกเกร็งเมื่อ ปลายนิ้วมือหนาของเขาแทรกผ่านกลีบเนื้ออ่อนไหว สัมผัสความชื้นแฉะที่รอคอยการเข้ามาของเขา เสียงครางหวานลึกหลุดรอดจากปากเธออย่างห้ามไม่ได้
“ภูผา...อ๊า...พอแล้ว...” เธอครวญครางด้วยน้ำเสียงพร่าพรึง ความปรารถนาเข้าครอบงำจนร่างกายอ่อนระทวย
“ยังไม่พอ...ผมยังจำรสเมื่อคืนได้ไม่หมด” เขาครางตอบข้างหู เสียงของเขาแหบพร่าบ่งบอกถึงความต้องการที่มหาศาล
ชายหนุ่มกดร่างเธอลงจนแนบกับเตียงไม้เก่าๆ แผ่นหลังของเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากไม้ แต่ไฟในกายของเธอกลับร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ แล้วในวินาทีที่เขาเคลื่อนกายเข้าสู่ตัวเธออีกครั้ง ความคับแน่นที่กลับเข้ามาปลุกเร้าทุกอณูของร่างกาย
น้ำขิงก็รับรู้ได้ว่า หัวใจของเธอ...อาจไม่มีทางหนีจากชายคนนี้ได้อีกแล้ว มันถูกผูกมัดไว้กับเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
เสียงกระแทกหนักหน่วงดังประสานกับเสียงลมหายใจร้อนผ่าวของคนทั้งสอง เตียงไม้เก่ากระแทกกับพื้นทุกครั้งที่ร่างใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนและรุนแรง เขาไม่เพียงแค่อยากได้ร่างกายเธอ แต่ยังต้องการวิญญาณของเธอด้วย เขาก้มจูบเธอทั้งเนื้อทั้งตัว สลับกับการดูดดึงยอดอกและเรียกชื่อเธอซ้ำๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
“คุณเป็นของผม...รู้ไว้ซะ” เสียงเขากระซิบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นเจ้าของในขณะที่เขากระแทกกายเข้ามาอย่างหนักหน่วง
น้ำขิงหลับตาแน่น ปล่อยให้ร่างเธอ แตกกระจายอีกครั้งภายใต้ร่างของเขา สู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ไม่อาจต้านทานเพราะเธอก็รู้...เธอไม่เคยเป็นของใครมาก่อนและตอนนี้...เธอเป็นของเขาไปแล้วทั้งร่างกายและหัวใจ
เมื่อทุกอย่างจบลง น้ำขิงพลิกตัวหันหลังให้เขา ไม่ยอมสบตาเธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในตอนนี้คืออะไรกันแน่
“ถ้ามันจะเป็นแค่ครั้งเดียว...”
เธอพูดขึ้นเบาๆ น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“ช่วยบอกฉันตอนนี้เลย” เธออยากให้เขายืนยันความรู้สึกที่ชัดเจน เพื่อที่เธอจะได้ไม่หลงไปมากกว่านี้
ภูผาไม่ตอบ เขาสลัดผ้าห่มออกอย่างเงียบเชียบ ลุกขึ้น สวมเสื้อเชิ้ตที่เปียกชื้นเมื่อคืน กลับคืนสู่ความนิ่งเงียบที่คุ้นเคย ท่าทางของเขาเหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ
แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป...เขาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู และพูดโดยไม่หันกลับมามองเธอ
“มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแน่...เพราะคุณจะไม่มีวันหนีผมได้อีกแล้ว น้ำขิง”
