ตอนที่2-3
“ดอนอเล็กซานโดร!” ศศิผงะมองร้องออกมาอย่างตกใจ
“ใช่พี่เอง ตกใจมากหรือไง”เขาพูดกึ่งตะคอกใส่เธอ
ไม่รู้ว่าไปโมโหใครมาจากไหนไม่รู้ฉีดยามาหรือยังจะกัดหรือเปล่าก็ไม่รู้
“เข้ามาได้ยังไงคะ” คนถูกรั้งตัวไว้ในอ้อมแขนแกร่งถามเสียงสูงอย่างไม่พอใจ แล้วพอนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นใคร เธอก็ไม่แปลกใจอะไรอีกแล้ว ดวงตาวาววับตวัดมองราวกับแม่เสือดุ นึกถึงความแปลกประหลาดได้อีกหนึ่งอย่าง วันนี้บอดี้การ์ดทั้งสองไม่เข้ามาตรวจตราในโซนที่เธอพักก่อน ก็คงเพราะรู้อยู่แล้วว่าจะมีใครแอบเข้ามา
มันน่านัก! คนพลาดพลั้งเสียทีเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแกร่งเม้มปากแน่น มองจ้องตาคนที่กอดเธอไม่ยอมปล่อยอย่างเอาเรื่อง
“ปล่อยศศิค่ะ ดอนไม่ควรทำแบบนี้กับศศิ” ปากก็บอก มือน้อยก็ผลักอกเขาออกห่างไปด้วย
“ไม่ควรทำแบบนี้แล้วควรทำแบบไหน” เจ้าพ่อหนุ่มถามกลับ ดวงตาเจ้าชู้มองหวานเชื่อมแล้วแอบขโมยหอมแก้มหญิงสาวไปหนึ่งฟอดใหญ่เป็นการลงโทษเบาๆ
“อื้อ อย่าค่ะ” ศศิปรามทั้งที่หัวใจเต้นระทึก แล้วต้องตัวแข็งค้างเมื่อมองตามสายตาของเจ้าพ่อหนุ่ม สายตาของอเล็กซานโดรจับจ้องไปที่ดอกลิลลี่ในมือเธอที่เผลอกำไว้แน่น
“ปัญญาอ่อนชะมัด ให้ดอกไม้ผู้หญิง” อเล็กซานโดรดูถูก มือใหญ่กระชากดอกไม้ในมือของหญิงสาวมาถือไว้อย่างถือวิสาสะ
“อย่านะ นั่นมันดอกไม้ของศศิ” เสียงหวานตวาด ขณะที่คนถือวิสาสะยิ้มมุมปากก่อนจะขว้างมันลงกับพื้นอย่างไม่แยแสแล้วส่งบาทาตามลงไปขยำขยี้จนกลีบดอกสีสวยปริแตก ดอกไม้ช่องามชอกช้ำไม่เหลือชิ้นดี
“รู้ไหมว่าพี่ต้องเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องบินจากเบอร์ลินมาหาเธอถึงที่นี่” ชายหนุ่มไม่สนเรื่องดอกไม้ปัญญาอ่อนแล้วกระชากเสียงถามเรื่องที่ทำให้เขาเป็นกังวลจนต้องทิ้งงานมาที่มิลานทันที
“ไม่รู้ ใครใช้ให้ดอนมาล่ะ แล้วก็ปล่อยศศิได้แล้ว ศศิเจ็บ” คนตัวเล็กประกาศก้อง ทำให้เจ้าชายมาเฟียที่ไม่ค่อยมีใครยอกย้อนกวนประสาทด้วยบ่อยครั้งนัก หน้าถมึงทึงบูดบึ้งขึ้นทันควัน
จากที่ว่าจะปล่อยมือหนาเลยออกแรงบีบเพิ่มมากขึ้น ความกรุ่นโกรธทบทวี ศศิยอกย้อนเขาเก่งนักและความผิดเดิมที่ทำให้เขาต้องแล่นมาถึงนี่คือ การที่ศศิไปถ่ายแบบเปลือยอก แล้วเขายังเดาเจตนาของศศิต่ออีกด้วยว่าคงต้องการมาหว่านเสน่ห์หนุ่มๆ ไกลถึงโรมและมิลานมากกว่า เพราะมาทำงานได้ไม่นานก็มีหนุ่มตามจีบให้ดอกไม้เสียแล้ว
“ลูกสาวของเซซาเร่ไม่จำเป็นต้องมาเดินแบบปลุกใจเสือป่า รู้ไหมว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดมหันต์แค่ไหน” อเล็กซานโดรถาม ไม่ได้สนใจว่าที่พูดนั่นเป็นเพราะห่วงหน้าตาบิดาจริง หรือว่าลึก ๆ แล้วอาจทั้งหวงและห่วงเจ้าของเรือนร่างอรชรแสนเย้ายวนคนนี้กันแน่ แต่ที่รู้คือเขาไม่มีทางยอมให้ใครมาตีตราจองแม่น้องสาวนอกไส้ก่อนเขาเป็นอันขาด ศศิเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาแต่เพียงคนเดียว
“ศศิไม่ใช่ลูกน้องของพี่ที่จะคอยรอฟังคำสั่ง ศศิไม่จำเป็นต้องเชื่อและทำตามอย่างที่พี่อเล็กซ์ต้องการ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของศศิ ศศิอยากทำงานนี้และศศิก็จะทำ แล้วศศิก็ไม่ได้เดินแบบปลุกใจเสือป่าอย่างที่พี่ อเล็กซ์ว่าด้วย คงจะมีแต่ดอนอเล็กซานโดรคนเดียวล่ะมั้งที่มองเป็นแบบนั้น”
คนถูกดูหมิ่นว่าเป็นนางแบบเดินปลุกใจเสือป่าตาลุกวาว โต้กลับอย่างไม่ยอมลดละ หญิงสาวรู้แค่ว่าตอนนี้ความโกรธพวยพุ่งมาจุกอยู่ที่อกจนขอบตาร้อนผ่าว
“ปากเก่งนักนะศศิ เป็นผู้หญิงถ้าปากเก่งนักระวังจะมีภัย ถ้าอยากเก่งหัดหาวิธีเอาใจผัวบนเตียงยังไงให้อยู่หมัดมันจะดีเสียกว่า” เจ้าพ่อหนุ่มแยกเขี้ยวขู่
สาวสวยดวงตาลุกวาวขึ้นเท่าเทียมกัน เขาเพิ่งคลายแรงบีบรัดที่ต้นแขนเพราะสงสารแม่น้องน้อยที่ผิวอ่อนบางจะปวดเจ็บจนเกิดร่องรอย แต่อารมณ์ที่ปะทุดุเดือดตอนนี้ทำให้ความอ่อนโยนใจดีก่อนหน้ามลายหายไป มือหนาจึงเปลี่ยนมาบีบคางมน
“ศศิเจ็บนะ” ความกลัวทำให้ศศิอ่อนข้อลง
“เมื่อกี้ยังเก่งกับพี่อยู่เลยไม่ใช่หรือ ตอนนี้เธอจะกลัวพี่ทำไม” อเล็กซานโดรกระชากเสียงถามห้วนจัด ร่างสูงตระหง่านรวบเอวบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง อดใจที่จะดอมดมกลิ่นกายหอมๆ ของศศิไม่ได้
คนถูกคลายแรงบีบที่ปลายคางมน ไม่กล้าตอบโต้อะไรเขาอีก เพราะความเสียเปรียบในทุกประตู มีเพียงดวงตาส่ายไหวระริกเท่านั้นที่บอกว่าน้อยใจ เสียใจ แกมโกรธจัด
“ที่พี่มาวันนี้ก็ต้องการมาบอกเธอให้รู้และจดจำใส่สมองเอาไว้ ว่าห้ามไปค้างคืนที่ไหนไกลจากเวโรนาและห้ามให้หนุ่มหน้าไหนมาเข้าใกล้ด้วยจำไว้”
บอกเสียงเข้มแล้วก็นึกแปลกใจ ว่าทำไมต้องสั่งน้องนอกไส้ไปแบบนั้น เขาปล่อยมือที่บีบคางมนไว้ตั้งแต่พูดคำแรก ศศิสวยหวานบอบบางเกินไป จนเขาต้องหักใจไม่อาจทำให้เรือนร่างอรชรนี้เกิดร่องรอยเขียวช้ำจากน้ำมือเขาได้ หากคิดจะฝากร่องรอยแล้วล่ะก็ อเล็กซานโดรคิดขณะยกยิ้มมุมปาก ขอให้มันเกิดจากริมฝีปากของเขาที่ลากไล้พรมจูบไปทั่วร่างแน่งน้อยของเธอดีกว่า
“เผด็จการ เอาแต่ใจ มันจะมากไปแล้วนะดอน” เสียงบริภาษด่าทอนั้นทำให้ความคิดอกุศลที่เขาอยากทำให้เกิดขึ้นจริงล้มพับไม่เป็นท่า เจ้าพ่อหนุ่มออกจากภวังค์ สนใจกับความจริงตรงหน้า
“ศศิเป็นนางแบบคงเลือกไม่ได้ว่าจะต้องไปทำงานที่ไหนและต้องเจอใครด้วย บางทีก็ต้องมีถ่ายคู่กับนายแบบต่างชาติอยู่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นศศิคงทำตามที่พี่อเล็กซ์ต้องการไม่ได้”
เจ้าพ่อหนุ่มดวงตาลุกวาว ศศิมีพรสวรรค์อันเก่งกาจด้านการโต้เถียงกับเขาจนไม่น่าให้อภัย ปากดีๆ ช่างต่อล้อต่อเถียงแบบนี้มันน่านักเชียว รู้สึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมาตงิดๆ
“พี่ไม่ได้อ้อนวอนขอร้อง จำไว้นี่คือคำสั่งเข้าใจไหม แล้วเธอก็ต้องทำให้ได้ตามที่พี่บอก พี่จะยอมให้เธอเรื่องนั้น...เรื่องที่เธออยากเป็นนางแบบ แต่พี่ไม่ยอมให้เธอไปร่านใส่ไอ้หนุ่มหน้าไหนก็ตามที่มันพยายามเข้ามาใกล้เธอหรอกนะ พวกนั้นมันคงกระสันอยากจะฟันเธอเต็มที่ และเธอก็ยิ่งชอบทำท่าพร้อมต้อนรับพวกมันอยู่”
ยั่วเหรอ เธอไปยั่วใครตอน ศศิอ้าปากค้างนึกสงสัยว่าอเล็กซานโดรไปหยิบเอาอะไรมาพูดว่าเธอ เพราะมันไม่มีมูลความจริงสักนิด
“ทุเรศ ศศิไม่เคยทำอะไรแบบที่ดอนว่าสักนิด ยังไงศศิก็มีความเป็นไทยอยู่ในตัว ผู้หญิงไทยต้องรักนวลสงวนตัว แม่เคยสอนศศิเสมอตั้งแต่ศศิจำความได้ แล้วที่ผ่านมาพี่กับแด๊ดก็รู้ดีว่าศศิไม่เคยเหลวไหลเรื่องผู้ชาย”
“จริงเหรอ พี่ว่าเธอคงไม่เคยจดจำ และทำมากกว่าที่พี่พูดล่ะสิ”
“หึ คงใช่ ถ้างั้นก็แล้วแต่ดอนจะคิด” คนน้อยใจตอบโต้กลับออกไปอย่างเหลืออดและทำให้ดอนหนุ่มโกรธจัดขึ้นมาได้ทันตาเห็นเพราะแรงอารมณ์อยากประชดประชันนั่น
“ถ้าเธอร่านนักพี่ก็จะสนองให้ เอาที่โซฟานี่ก็แล้วกัน ไม่ต้องไปไกลเพราะสำหรับเธอที่ไหนเธอก็คงพร้อมรับศึกอยู่แล้วใช่ไหม หรือจะอ่างจากุชชี่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าอยากให้เร้าใจตรงราวบันไดหรือริมระเบียงก็ย่อมได้”
อเล็กซานโดรดวงตาแดงก่ำ พล่ามจบก็ผลักร่างบางในอ้อมแขนที่ไม่ทันตั้งตัวให้ล้มลงไปบนโซฟาตัวยาวใหญ่ที่วางอยู่ในเหตุการณ์ศึกรักศึกรบนี้พอดิบพอดี
“ไม่นะ คนบ้า ปล่อยศศินะ”
เสียงร้องเพราะเจ็บจุกจากการถูกเหวี่ยงลงกับโซฟาดังไม่นาน ศศิก็เปลี่ยนมาเป็นด่าทอกรีดร้อง พร้อมมือบางที่ส่งออกไปเพื่อทุบตีผลักไสปกป้องตัวเองให้พ้นจากการถูกรังแก แต่ก็ไม่เป็นผลอีกตามเคยเมื่อร่างหนาใหญ่ของอเล็กซานโดรตามลงมาทาบทับได้จังหวะพอดี ใบหน้าหล่อคมจมหายไปกับซอกคอขาวผ่องราวกับรอเวลาที่จะได้ดอมดมกลืนกินกุหลาบงามช่อนี้มานาน คิสมาร์คแรกที่ต้นคอจากริมฝีปากสากระคายจึงเกิดขึ้นทันที
ไฟปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีปี่มีขลุ่ย ราวกับอดอยากโหยหามานานทำให้ชายหนุ่มที่ความจริงก็ไม่เคยขาดแคลนเรื่องบนเตียงเลยสักคืนถึงกับหิวกระหาย ลากจุมพิตไปทั่วใบหน้าและซอกคอขาวเนียนอย่างไม่รู้จักอิ่ม มือหนาเริ่มตะโบมโลมไล้เข้าไปที่ใต้เสื้อ สอดเข้าไปใต้ฐานชั้นในตัวจิ๋วไม่นานก็ถึงจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
อเล็กซานโดรครางฮือกับความนุ่มหยุ่นที่นิ้วโป้งสัมผัส ปลายถันบนยอดทรวงอกอิ่มถูกมือหนาไล้วนสะกิดเบาๆ จนทำให้แข็งเป็นตุ่มไตสีชมพูสด ก่อนทั้งมือใหญ่และร้อนผ่าวจะบีบเคล้นกอบกุมทรวงอกมานวดเฟ้นเคล้าคลึงเล่นอย่างมีความสุข
ริมฝีปากหยักลึกหยอกเอินกับร่างอรชรที่แสนจะนุ่มนิ่มหอมหวานอย่างหลงใหลพึงใจ เขาไม่เคยนึกเลยว่าศศิจะทำให้เขาขาดการควบคุมและร้อนไปทั้งตัวได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เวลานี้ไม่ว่าที่ไหนแค่เพียงเขานึกถึงใบหน้าสวยหวานของน้องสาวตัวดีขึ้นมา มันก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์วาบหวามผงาดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จนอดโมโหไม่ได้สิน่าว่านี่เกิดอะไรขึ้น ใบหน้าสาวไทยที่เขาแอบหลงรักค่อยๆ เลือนไปจากหัวใจ ในขณะที่ใบหน้าของน้องน้อยที่ไม่เคยไยดีกับชัดขึ้นมาทุกที มันคืออะไรกันแน่ นี่คงไม่ได้หมายความว่าประตูหัวใจเขาเปิดรับน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้เข้ามานั่ง ไม่มีทาง เขาหรือจะมีใจให้กับเด็กขี้อิจฉาแบบศศิ
“ดอนปล่อยศศิ ไหนบอกว่าเกลียดศศิไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวไหม คนเกลียดกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก” ศศิรวบรวมกำลังจากที่ชายหนุ่มมัวหลงวนกับทรวงอกสล้างทั้งสองข้าง แล้วเค้นเสียงแปร่งปร่าถามออกไป
“เธอว่ายังไงนะศศิ” อเล็กซานโดรถามคล้ายละเมอ
“คนเกลียดกันเขาไม่ทำกันแบบนี้”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าศศิเกลียดดอนมาก และมันก็คงจะพอๆ กันกับที่ดอนเกลียดศศินั่นแหละ และถ้าเราเกลียดกันมากขนาดนี้ ก็ควรจะปล่อยศศิไป อย่ามาทำแบบนี้กับศศิ”
อเล็กซานโดรกำลังจะอ้าปากถามอยู่แล้วว่าอะไรทำให้ศศิคิดว่าเขาเกลียดเธอมากขนาดนั้น แต่ความจริงที่ว่าตอนนี้ศศิเกลียดเขาไปแล้ว นั่นเป็นความรู้สึกที่รุนแรงน่าตกใจมากกว่า ชายหนุ่มผละออกจากอกอวบอิ่มหยุดการกระทำอนาจารทุกอย่าง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือหนาลูบใบหน้าหาทางออกให้กับความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านที่บรรยายไม่ได้ว่าทำไมต้องแคร์ด้วยว่าศศิจะเกลียดเขา
“พี่ให้เธออยู่ที่มิลานได้ถึงคืนนี้ ถ้าเช้าวันพรุ่งนี้พี่ยังไม่เห็นเธอที่เวโรนาอย่าคิดว่าจะได้เป็นอิสระไปไหนมาไหนอีก” คนที่ถูกตราหน้าว่าเกลียดกัน เสเปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่ตัวเองทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะถ้าเป็นเรื่องนี้เขาสามารถควบคุมตัวเองและควบคุมเกมทุกอย่างให้เป็นอย่างที่ใจเขาต้องการ แต่ถ้าให้ตอบศศิในเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกที่ซับซ้อนยากเย็นกว่านั้น เขายังหาคำตอบไม่ได้
“คนใจร้าย ศศิไม่ทำตามที่พี่ต้องการหรอก พี่ไม่ใช่แด๊ดอย่ามาบังคับศศิ พี่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของศศิเข้าใจเอาไว้ด้วย”
คนใจร้ายเริ่มเข้าคุมเกมอีกครั้ง
“ลองดูก็ได้ว่าถ้าเธอไม่กลับไปที่เวโรนาเธอจะเจอกับหายนะอะไรบ้าง” มาเฟียตัวฉกาจคำรามในลำคอ
สิ้นประโยคเอาแต่ใจของเขา ศศิกำมือแน่นโกรธจัดกับคำข่มขู่ที่ไร้ซึ่งเหตุผล เธอไม่กลัวเขาแน่นอนเพราะเธอเห็นอเล็กซานโดรมาตั้งแต่เล็กและมั่นใจว่าเขาไม่ทำร้ายเธอถึงตาย แต่ระยะหลังมาเธอก็เริ่มไม่แน่ใจ แต่เรื่องนั้นเธอสามารถพักไว้ก่อนได้ ที่เป็นห่วงกังวลมากกว่าคือเธอไม่อยากทำให้ใครที่เกี่ยวข้องกับเธอต้องเดือดร้อนไปด้วย เพราะเธอมั่นใจว่าอเล็กซานโดรจะทำทุกอย่างเล่นงานทุกคนเพื่อบีบบังคับให้เธอกลับไปจนได้
“เจอกันที่เวโรนา” เจ้าพ่อหนุ่มบอกอย่างผู้ชนะ
“อ้อ แล้วบอกไอ้กองหน้าหนุ่มคนนั้นด้วยว่าเธอไม่ได้ชอบลิลลี่สีชมพูเลยสักนิด แต่เธอชอบดอกกุหลาบสีขาวต่างหาก และลิลลี่สีชมพูของมันก็ช่างตุ๊ดสิ้นดี” อเล็กซานโดรพูดจบก็คลี่ยิ้มกว้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่นแล้วสาวเท้ายาวๆ ออกไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น
ทว่าคนที่ยังไม่ได้จัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง นั่งโมโหกับท่าทางและคำพูดเอาแต่ใจของเขา ใบหน้างามงอง้ำ กัดริมฝีปากแน่นไม่พอใจที่ถูกเขาบังคับให้กลับไปที่เวโรนาอีกจนได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ให้อุ่นซ่านแปลกประหลาดที่เขาล่วงรู้ว่าเธอชอบดอกกุหลาบสีขาวทั้งที่อยู่ด้วยกันมายี่สิบสองปีเขาไม่เคยมีทีท่าทำให้เธอรู้เลยว่าเขาสนใจใคร่รู้อะไรในตัวเธอบ้าง
