สถาปนาตัวเองเป็นแม่บ้าน (5)
“วันนี้ไม่คุยเรื่องงานนะคะ เป็กกี้อยากให้พี่ลูสพักผ่อน”
“....” เมื่อถูกขัดใจเขาจึงหันมาขมวดคิ้วใส่ แต่ระดับเป็กกี้แล้วฝึกมาดีสายตาแบบนี้ไม่ทำให้กลัวได้หรอก
“เป็กกี้มีเหตุผลค่ะ พี่ลูสไปทำภารกิจมานาน ร่างกายต้องการฟื้นฟูนะคะ พักผ่อนให้สมองโล่งก่อน แล้วค่อยคุยงานวันพรุ่งนี้มันมีผลต่อการตัดสินใจนะคะ”
“อืม” เมื่อลองไตร่ตรองดูแล้วก็เป็นจริงดังนั้น ร่างกายของเขาเหนื่อยล้ามานาน รวมถึงสมองด้วยแทบไม่ได้พัก นอนก็ไม่เป็นเวลาฉะนั้นมันมีผลต่อการคิด วิเคราะห์ด้วย
“ดีค่ะ พี่ลูสขึ้นไปก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวเป็กกี้เตรียมวิตามินเสร็จแล้วจะตามขึ้นไป”
“อืม”
เป็กกี้มองตามจนกระทั่งชายหนุ่มเดินหายออกไปจากห้อง จากนั้นเธอก็จัดเตรียมวิตามินบำรุงร่างกาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้พ่อบ้านไปหามาเตรียมไว้ เผื่อว่าวันไหนเขากลับมาเธอจะได้ไม่ต้องไปหาซื้อให้วุ่นวาย
“อะไรเนี่ย? ซ้อมบทเมียเหรอ?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะพี่เซียร์”
“เอาจริงดิ่”
“ก็ต้องเอาจริงสิคะ เป็กกี้รอมานานแล้วนะคะ ไม่รออีกต่อไปแล้วค่ะ ถ้าเป็กกี้ไม่รุกเห็นทีชาตินี้คงเป็นโสดไปจนตาย”
เซอร์เกรย์หัวเราเบาๆ เอ็นดูกับความจริงจังของน้องสาว ยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างหมั่นเขี้ยว ไม่คิดว่าน้องน้อยจะปักใจรักพี่ชายของตนมากขนาดนี้
“พี่เอาใจช่วยนะ”
“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวเป็กกี้ขอตัวก่อนนะคะ” เมื่อพ่อบ้านจัดวิตามินเรียบร้อยแล้ว เป็กกี้ก็อยากจะขึ้นไปหาลูวิสเร็วๆ
“อืม ขอให้ได้ขอให้โดนสักทีนะ”
“พี่เซียร์!”
เป็กกี้เขินอายเพราะเข้าใจว่าเซอร์เกรย์หมายความว่าอย่างไร พูดเหมือนมองทะลุความคิดได้อย่างนั้นแหละ เธอยอมรับว่ามีแผนการพิชิตตัวของลูสอยู่เหมือนกัน และจะเริ่มต้นในคืนนี้เลย!
สาวสวยหน้าหวานเดินถือถาดวิตามินขึ้นมาบนห้อง ลูวิสยังไม่ได้นอนเขานั่งเช็คงานผ่านสมาร์ทโฟนอยู่บนโซฟา เป็กกี้จึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วจัดการวางวิตามินหลายชนิดลงบนฝ่ามือของเขา
“วิตามินบำรุงร่างกายแล้วก็ฟื้นฟูสมองค่ะ” เธอยิ้มหวานให้เขาพร้อมยกแก้วน้ำขึ้นมาเตรียมไว้ให้
ลูวิสมองอยู่ครู่หนึ่งก็กลืนยาทั้งหมดลงคอ และรับน้ำเปล่าจากเธอมาดื่มจนหมดแล้ว เป็กกี้พอใจมากที่เขาไม่ทำตามอย่างว่าง่าย จึงปล่อยให้เขานั่งเช็คงานต่ออีกสักพัก
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เป็กกี้เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่เขาต้องเข้านอนแล้ว ครั้งนี้เธอไม่หยิบสมาร์ทโฟนออกจากมือของเขาแต่ใช้คำพูดเตือนแทน
“พี่ลูสเช็คงานมาหนึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ ควรพักสายตาได้แล้วค่ะ”
“....”
“ไปนอนนะคะ ไม่อย่างนั้นเป็กกี้จะกวนพี่ลูสด้วยการพูดไม่หยุดเลย” เธอมองเขาด้วยสายตาจริงจัง บอกให้รู้ว่าไม่ได้แค่ขู่แต่จะทำจริง
“ก็ได้”
พอขู่ว่าจะพูดไม่หยุด เขาก็ยอมเธอแต่โดยดี หึ...จุดอ่อนของเขาคือกลัวการที่เธอพูดมาก ฉะนั้นเป็กกี้เลยเอาจุดนี้มาขู่ให้เป็นประโยชน์ เธอดึงมือเขาฉุดตัวลุกขึ้นแล้วพาเดินไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่
“เธอนอนที่ไหน” เขาหันมาเอ่ยถามก่อนที่จะตัดสินใจนั่งลงบนเตียงนอน
“ก็นอนข้างๆ พี่ลูสไงคะ”
“งั้นพี่ไปนอนโซฟา”
ลูสหมุนตัวพร้อมจะก้าวเดินกลับไปที่เดิม แต่เป็กกี้ดึงมือเขาเอาไว้ก่อน เธอไม่ยอมให้เขาไปนอนที่โซฟาแน่ๆ เพราะมันไม่สบายเหมือนบนเตียง
“ไม่ได้ค่ะ พี่ลูสต้องนอนบนเตียงเพราะเป็กกี้สั่งมาใหม่ เป็นรุ่นที่นอนสบายลดอาการปวดเมื่อย พี่ลูสไปลำบากมาเป็นเดือนแล้ว ขึ้นไปนอนสบายๆ เถอะนะคะ”
ลูวิสยืนครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะตัดสินใจก้าวขึ้นเตียง เพราะหากเขายังยืนยันจะไปนอนที่โซฟา เป็กกี้คงตามไปพูดกรอกหูไม่หยุดแน่นอน ฉะนั้นจึงตัดปัญหานี้ด้วยการนอนบนเตียง นอกจากสบายแล้วยังลดอาการปวดหูได้ด้วย
“ดีค่ะ เป็กกี้จะไปนอนฝั่งนู้น” เธอบอกแล้วพาตัวเองขึ้นไปนอนอีกฝั่ง
ขนาดของเตียงค่อนข้างกว้างมาก จึงมีพื้นที่ตรงกลางเป็นระยะห่างของทั้งสองคน เป็กกี้ตะแคงตัวนอนมองลูวิส ที่ตอนนี้เขานอนเหยียดตัวตรงแล้วปิดเปลือกตาเข้าหากัน เป็กกี้จึงลดแสงจากโคมไฟข้างเตียงนอนลง พลางนอนจ้องมองเขาอย่างครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อดี....
