ตอนที่ 4 เดินตลาด
ตอนที่ 4 เดินตลาด
ตลาดในเมืองเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารหอมกรุ่น และสินค้านานาชนิดทำให้หลิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ออกมาจากจวนครั้งแรก
“ฮูหยินน้อย ระวังด้วยนะเจ้าคะ” ชุนเฟยเตือนขณะที่พวกนางเดินฝ่าฝูงชน
“ไม่ต้องห่วง ข้าระวังตัวอยู่” หลิงเยว่ตอบพลางมองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น “เราไปดูร้านผ้าก่อนเถอะ”
พวกนางเดินไปตามถนนจนมาถึงร้านผ้าขนาดใหญ่ ภายในร้านเต็มไปด้วยผ้าหลากสีหลายลวดลาย หลิงเยว่เดินชมอย่างสนใจ
“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ ฮูหยิน” เจ้าของร้านเป็นหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทาย “วันนี้ต้องการผ้าแบบไหนเจ้าคะ?”
“ข้าอยากได้ผ้าสำหรับตัดชุดใหม่” หลิงเยว่ตอบ “ขอสีอ่อนๆ ลวดลายเรียบๆ”
“เชิญทางนี้เลยเจ้าค่ะ” เจ้าของร้านพาหลิงเยว่ไปยังมุมหนึ่งของร้าน “ที่นี่มีผ้าไหมเนื้อดีหลายสี ทั้งสีฟ้าอ่อน สีชมพูกลีบบัว และสีเขียวอ่อน”
หลิงเยว่จับผ้าไหมอย่างระมัดระวัง “ผ้าสวยมาก ข้าจะเอาสีฟ้าอ่อนและสีเขียวอ่อนอย่างละสองพับ”
“ได้เจ้าค่ะ” เจ้าของร้านยิ้มกว้าง
หลังจากเลือกผ้าเสร็จ หลิงเยว่ก็ให้เจ้าขอร้านนำผ้าพวกนั้นไปส่งที่จวนเหอ จากนั้นพวกนางก็เดินต่อไปยังร้านรองเท้า
พวกนางเดินผ่านร้านขายขนม กลิ่นหอมหวานลอยมาเตะจมูก หลิงเยว่หยุดเดิน
“ขนมพวกนั้นดูน่ากินจัง” หลิงเยว่ชี้ไปที่ขนมรูปสัตว์ต่างๆ “เสี่ยวอันน่าจะชอบ”
“คุณชายน้อยชอบขนมรูปสัตว์มากเจ้าค่ะ” ชุนเฟยยืนยัน
“งั้นเราซื้อกลับไปฝากเขาดีกว่า” หลิงเยว่ตัดสินใจ
นางเดินเข้าไปในร้านและเลือกขนมรูปสัตว์หลายชนิด ทั้งกระต่าย เสือ และมังกร
หลังจากได้ขนมมาแล้ว หลิงเยว่และชุนเฟยก็เดินต่อไปเรื่อยๆ นางซื้อของอีกหลายอย่าง ทั้งเครื่องประดับเรียบๆ สองสามชิ้น หนังสือนิทานสำหรับเด็ก และของเล่นไม้แกะสลักสำหรับเสี่ยวอัน
ขณะที่พวกนางกำลังจะเดินกลับไปยังรถม้า เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“หลิงเยว่?”
หลิงเยว่หันไปมองและพบกับหญิงสาวในชุดสีแดงสด ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางจัด ท่าทางยโสโอหัง
“เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” หญิงสาวผู้นั้นพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ “ไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าที่นี่”
ชุนเฟยกระซิบข้างหู “นั่นคือคุณหนูเฉินเจ้าค่ะ เฉินหรูอี้ สหายเก่าของท่าน... หรือจะเรียกว่าศัตรูก็ได้”
หลิงเยว่พยักหน้ารับรู้ “สวัสดีคุณหนูเฉิน”
“เจ้าดูแปลกไปนะ” เฉินหรูอี้มองสำรวจหลิงเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกติหลิงเยว่ชอบแต่งตัวฉูดฉาด ใส่เครื่องประดับเต็มตัว และแต่งหน้าจัดเหมือนกับนาง
"หรือว่าที่จวนสามีของเจ้า ถูกเจ้าผลาญเงินจนหมดแล้ว" เอ่ยจบเฉินหรูอี้ก็ปิดปากหัวเราะเยาะ
หลิงเยว่เพียงยิ้มบางๆ ไม่ได้ตอบโต้อะไร นางมองเฉินหรูอี้ที่แต่งตัวด้วยชุดสีแดงฉูดฉาด เครื่องประดับมากมายส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งเมื่อนางขยับตัว ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาจนแทบจะไม่เห็นผิวจริง
นางหันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจคำเยาะเย้ยของเฉินหรูอี้ ชุนเฟยรีบเดินตามนายของตนไปอย่างรวดเร็ว
“ฮูหยินน้อย ท่านไม่โกรธหรือเจ้าคะ?” ชุนเฟยถามอย่างระมัดระวัง
“มีประโยชน์อะไรที่จะไปทะเลาะกับนาง?” หลิงเยว่ตอบพลางเดินต่อไป “เสียเวลาเปล่า”
ชุนเฟยมองนายของตนด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรอีก พวกนางเดินไปยังรถม้าที่จอดรออยู่ไม่ไกล
เมื่อกลับถึงจวนตระกูลเหอ หลิงเยว่รีบเดินไปยังห้องของเสี่ยวอัน แต่ไม่พบเด็กน้อยอยู่ที่นั่น สาวใช้บอกว่าคุณชายน้อยอยู่กับหยางซื่อที่สวนหลังจวน หลิงเยว่จึงตรงไปที่นั่น
จากระเบียงทางเดิน นางมองเห็นเสี่ยวอันกำลังวิ่งเล่นอย่างมีความสุข หยางซื่อนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ คอยดูแลเด็กน้อยอย่างใกล้ชิด เสียงหัวเราะใสๆ ของเสี่ยวอันทำให้หลิงเยว่ยิ้มตาม
“ฮูหยินน้อย ผ้าที่ท่านสั่งซื้อมาถูกส่งมาถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งเดินมารายงาน
“ดีมาก” หลิงเยว่ตอบก่อนจะหันมาบอกสาวใช้คนสนิท “ชุนเฟยนำของเล่นไปให้เสี่ยวอันด้วย”
“เจ้าค่ะ” ชุนเฟยรับคำสั่งแล้วเดินจากไป
หลิงเยว่กำลังจะเดินไปหาเสี่ยวอัน แต่สาวใช้อีกคนก็รีบเดินมาหา
“ฮูหยินน้อย ฮูหยินใหญ่ต้องการพบท่านที่ห้องโถงใหญ่เจ้าค่ะ” สาวใช้รายงานพลางก้มศีรษะ
หลิงเยว่ถอนหายใจเบาๆ “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
นางมองไปที่เสี่ยวอันอีกครั้ง เด็กน้อยยังคงวิ่งเล่นอย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่ามารดาของตนยืนมองอยู่ไม่ไกล หลิงเยว่ยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปยังห้องโถงใหญ่
ในห้องโถงใหญ่ ฟางหรงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักอย่างสง่างาม ใบหน้าของนางเคร่งขรึม ดวงตาคมกริบมองมาที่หลิงเยว่าทันทีที่นางก้าวเข้ามาในห้อง
“คารวะท่านแม่” หลิงเยว่ย่อกายคำนับอย่างนอบน้อม
ฟางหรงพยักหน้ารับ แต่สีหน้ายังคงเคร่งเครียด “ข้าได้ยินว่าเจ้าออกไปซื้อของ”
“เจ้าค่ะ” หลิงเยว่ตอบ “ข้าไปซื้อผ้ามาตัดชุดใหม่และของเล่นให้เสี่ยวอัน”
“ซื้อผ้าอีกแล้วหรือ?” ฟางหรงเอ่ยเสียงเข้ม “เดือนที่แล้วเจ้าก็เพิ่งสั่งตัดชุดใหม่ไปสิบชุด”
หลิงเยว่ยืนนิ่ง ไม่ได้ตอบโต้ นางรู้ว่าตัวตนเดิมของร่างนี้เป็นคนฟุ่มเฟือย ชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว
“เจ้าคิดว่าเงินของตระกูลเหอเราเอาไว้ให้เจ้าใช้อย่างไม่รู้จักพอหรือ?” ฟางหรงถามต่อด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แต่ข้าใช้เงินของตัวเอง ผิดด้วยหรือ” หลิงเยว่ตอบเสียงเบา
ฟางหรงมองหลิงเยว่ด้วยสายตาดุดัน “เงินของตัวเอง? เจ้าคิดว่าเงินที่เจ้าได้มาจากไหน? ไม่ใช่จากลูกชายของข้าหรือ?”
หลิงเยว่ยืนนิ่ง ก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าสบตาแม่สามี
“เจ้าไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ตระกูลเรา นอกจากใช้เงินฟุ่มเฟือ แม้แต่หน้าที่ของมารดาเจ้าก็ทำไม่ได้”
“ข้า...” หลิงเยว่พยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ฟางหรงยกมือขึ้นห้าม
“ข้าไม่อยากฟังข้อแก้ตัวของเจ้า” ฟางหรงพูดเสียงเข้ม “ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้เพื่อบอกว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เงินที่เจ้าได้รับทุกเดือนจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง”
หลิงเยว่เงยหน้าขึ้นมองแม่สามีด้วยความตกใจ แต่ไม่กล้าโต้แย้ง
“และอีกอย่าง” ฟางหรงพูดต่อ “ข้าจะให้หยางซื่อดูแลเสี่ยวอันต่อไป เจ้าไม่ต้องยุ่งเกี่ยว”
คำพูดประโยคสุดท้ายทำให้หลิงเยว่รู้สึกเหมือนถูกสาดน้ำเย็น นางเป็นแม่ของเสี่ยวอัน แต่กลับถูกห้ามไม่ให้ดูแลลูกตัวเอง แล้วแบบนี้ลูกจะมีความผูกพันกับนางได้อย่างไร
“ท่านแม่...ข้าเป็นแม่ของเสี่ยวอัน ข้าควรจะได้ใกล้ชิดเขาบ้าง”
ฟางหรงหัวเราะเย็นชา “เจ้าเพิ่งนึกได้หรือว่าเจ้าเป็นแม่? ตลอดสี่ห้าปีที่ผ่านมา เจ้าเคยสนใจเสี่ยวอันบ้างไหม? เจ้าเคยอุ้มเขา กอดเขา หรือแม้แต่จะเล่นกับเขาบ้างไหม?”
หลิงเยว่เริ่มน้ำตาคลอ “ข้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ข้าสัญญาว่าจะเป็นแม่ที่ดี ข้าจะดูแลเสี่ยวอันอย่างดี”
ฟางหรงส่ายหน้า “ข้าไม่เชื่อคำสัญญาของเจ้า เจ้าเคยสัญญาแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยทำตามสัญญาสักครั้ง”
หลิงเยว่ยืนนิ่ง นางไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในเมื่อแม่สามีตัดสินใจแล้ว
ค่ำคืนนั้น เหอเจี้ยนหลงกลับจากวังหลวงด้วยความเหนื่อยล้า เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการประชุมกับฮ่องเต้และขุนนางคนอื่นๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนทางเหนือ
เมื่อเดินเข้ามาในเขตเรือนของตน เขารู้สึกแปลกใจที่ไม่เห็นสาวใช้ของหลิงเยว่มาคอยรับ ปกติแล้วทุกคืน จะต้องมีสาวใช้มาแจ้งว่าฮูหยินน้อยต้องการให้เขาไปพบที่เรือนของนาง
เจี้ยนหลงถอนหายใจอย่างโล่งอก คิดว่าคืนนี้คงได้พักผ่อนเต็มที่โดยไม่ต้องไปทำหน้าที่สามีให้กับนาง
“ท่านเสนาบดีกลับมาแล้วหรือขอรับ” เสียงของเถาเฉิงดังขึ้น เถาเฉิงเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวของเจี้ยนหลง
“อืม” เจี้ยนหลงพยักหน้า “วันนี้เหนื่อยมาก เตรียมน้ำร้อนให้ข้าอาบด้วย”
“ขอรับ” เถาเฉิงรับคำ
