เป็นร่างบุรุษ
สวบ สวบ สวบ
ซ่งเจียซินเดินย่ำย่างอยู่บนพื้นที่มีต้นหญ้าเตี้ยขึ้นหนา แตกต่างจากต้นไม้ใหญ่นั้นขึ้นไม่หนาแน่นมากนักเพราะว่าเป็นป่าในเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องโชคดีเพราะว่าจะได้มีต้องระวังสัตว์อันตรายที่มันแฝงอยู่ในป่าลึกมากนัก
แววตาสงบนิ่งมองสรรพสิ่งรอบตัวขณะเดินทางตามความทรงจำร่างเดิมนางตอนเข้ามาในป่า จนกระทั่งดวงตาหงส์กวาดมาสะดุดเข้ากับร่างใหญ่ที่ไม่น่าใช่ร่างสัตว์ป่าเพราะร่างนั้นสวมใส่ชุดมนุษย์
ซ่งเจียซินเดินเข้ามาใกล้ๆอย่างระมัดระวัง
ร่างนั้นเป็นร่างบุรุษไม่ผิดแน่…
ร่างไม่ขยับเช่นนี้อาจหมายความว่าเขาไม่ได้สติอยู่
แปลกจริง ไม่นึกว่าในป่าแห่งนี้จะมีมนุษย์ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันกับตนเองอยู่ด้วยอีกหนึ่ง
คนผู้นี้สวมชุดแพรตัวยาว ชุดสีดำเป็นหลักผสมผสานกับสีแดงเข้ม คอเสื้อ แขนเสื้อและชายเสื้อล้วนปักเป็นลายอันใดสักลายนางมองไม่ชัด ทว่าดูประณีตบรรจง แลดูสูงศักดิ์
คนผู้นี้ไม่ใช่คนฐานะธรรมดาแน่
ซ่งเจียซินไม่มั่นใจว่าควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือไม่
นางพึ่งเดินทางเข้ามาอยู่ในยุคนี้ ยังไม่ทันได้ปรับตัวดี เท้าบางจึงก้าวถอยห่างออกไปอย่างลังเล
หญิงสาวมองซ้ายมองขวาไม่พบร่องรอยของกับดักใดๆ ชาติก่อนนางเคยทำงานเสี่ยงอันอันตรายมามากมาย หนึ่งในแผนที่ศัตรูนิยมหลอกล่อให้เหยื่อมาติดกับคือ
แผนคนบาดเจ็บ
เมื่อสายตากวาดมองหาสิ่งผิดปกติรอบข้างไม่เจอ ซ่งเจียซินจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาร่างนั้นอย่างระมัดระวัง
ขั้นแรกนางจับพลิกร่างใหญ่ให้นอนหงายเพื่อตรวจสอบว่ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่
ทันทีที่บุรุษผู้นี้นอนหงาย นางมองใบหน้าอีกฝ่ายไม่ชัดเพราะตอนที่เขาล้มลงใบหน้าคงคลุกดินโคลนเลอะเปรอเปื้อนไปหมดพอดี แล้วยังมีบาดแผลเล็กใหญ่เต็มร่างปรากฏแก่สายตาซ่งเจียซินจนนางเผลอเบิกตาตกตะลึง
แผลเหล่านี้ยังไม่ได้ใส่ยา เลือดไหลออกมาไม่หยุดหากเมื่อสักครู่นางไม่ได้ลองเอานิ้วอังที่รูจมูกของเขาแล้วคงคิดว่าตายจากโลกนี้ไปพบยมบาลเสียแล้ว
เป็นจริงอย่างสัจธรรมของโลกนี้ หากคิดว่าตนเองโชคร้ายแล้ว ในโลกนี้ย่อมมีคนที่โชคร้ายกว่า
แผลที่ศีรษะของนางดูเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับแผลบนร่างกายของบุรุษผู้นี้
ซ่งเจียซินคิดว่าหากนางไม่ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เลือดหยุดไหลในตอนนี้ อีกไม่เกินครึ่งชั่วยามบุรุษผู้นี้คงเลือดไหลหมดตัวตกตายไปเป็นแน่
ในเมื่อนางตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน นางจึงไม่รอช้า มือบางเอื้อมออกไปฉีกผ้าจากชุดหรูหราของเขานั่นแหละออกมา เพื่อนำมาพันปิดบาดแผลระงับเลือดไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้
ในขณะที่ซ่งเจียซินบรรจงฉีกเศษผ้าออกมานั้นมือบางบังเอิญควานไปเจอถุงผ้าตรงช่องเก็บของในอกเสื้ออีกฝ่าย เสียงบรรจุภัณฑ์แข็งกระทบกันขณะนางบังเอิญสัมผัสโดน เรียกความสนใจจากหญิงสาว
ซ่งเจียซินตัดสินใจลงมือค้นช่องเก็บของเล็กๆนั้นจนเจอเข้ากับตลับยาขนาดเล็กของอีกฝ่ายเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าของร่างบาดเจ็บได้สติลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างจะลืมสะลือ
สายตาสองคู่สบกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แน่นอนว่ามือบางเป็นอันต้องหยุดชะงักการปฐมพยาบาลของตนเองชั่วคราวเมื่อเห็นแววตาเข้มดุดันน่ากลัวของคนบาดเจ็บกำลังจ้องมองนางเขม็ง
“เจ้า….”
น้ำเสียงของคนบาดเจ็บดังแผ่วออกมาจากลำคอแห้งผาก แต่นั่นแหละอย่างไรก็ฟังดูน่าเกรงกลัวไม่น้อย
“ท่านบาดเจ็บ ข้าไม่ใช่ศัตรู เพียงช่วยท่านหยุดเลือดแล้วจะจากไปทันที”
“หยุด เจ้าแก้เสื้อผ้าข้าทะ….อุ้บ…”
บุรุษผู้บาดเจ็บตื่นมาแล้วเห็นตัวเองโดนผลัดเสื้อผ้าออกจนแทบเปลือยเปล่าครึ่งบนคงตกใจไม่น้อย
ดีหน่อยที่อีกฝ่ายไม่มีแรงพอขัดขืนสตรีอย่างนาง การฟื้นมาของเขาจึงพอรับมือได้ไม่ยากนัก
ซ่งเจียซินไม่มีเวลามาเจรจามากนักนางจึงเลือกวิธีหยิบเศษผ้าที่เหลือจากการพันบาดแผลของอีกฝ่ายมาปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วยัดใส่ปากชายหนุ่มเพื่อแก้ปัญหาชั่วคราวไปก่อน
หลังจากนั้นนางจึงละทิ้งความสนใจจากเสียงอู้อี้ของคนบาดเจ็บ เร่งมือโรยผงยาในตลับที่นางพึ่งค้นพบจากเสื้อผ้าบนตัวอีกฝ่าย
“หึม….ยานี้ดี ข้าเดาว่านี่คงเป็นผงห้ามเลือด”
ซ่งเจียซินโรยลงไปบนแผลไม่นานเลือดก็เริ่มหยุดไหลนางจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมเชยตัวยาสมัยโบราณที่สรรพคุณดีกว่าที่คิด
ใช้เวลาไม่นานการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของซ่งเจียซินจึงสำเร็จผล หญิงสาวลุกขึ้นยืนก่อนปัดไม้ปัดมือของตนเองยืนมองผลงานที่ค่อนข้างน่าพอใจ
“เอาล่ะ ข้าคงช่วยท่านได้เพียงเท่านี้”
“....”
“ท่าทางท่านคงไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา รอไม่นานลูกน้องของท่านอาจตามหาตัวเจ้านายเจอ อืม...” ซ่งเจียซินเงยหน้ามองแสงจากดวงตะวันที่ใกล้คล้อยลับขอบฟ้าลงไปทุกที “ข้าต้องรีบไปก่อนที่จะไม่ทันเวลา…ขอให้ท่านโชคดี”
จากนั้นหญิงสาวก็เดินจากไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เอาก้อนผ้าอุดออกจากปากชายหนุ่ม
“อื้อ….อื้อ”
