บทนำ
กล่าวถึงป่าแห่งหนึ่ง บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงสายลมเบาบางพัดหญ้าเขียวปลิวไสว มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาตา แม้ไม่ได้หนาแน่นเหมือนต้นไม้ในป่าลึกทว่าแต่ละต้นล้วนสูงชะลูดบดบังแสงอาทิตย์ยามเย็นทำให้บรรยากาศโดยรอบที่ไร้ผู้คนอยู่แล้วยิ่งวังเวงเข้าไปใหญ่
สถานที่แห่งนี้ เวลานี้ ดูไม่น่าสมควรมีมนุษย์นอนสลบไสลอยู่ได้เลย
ร่างบอบบางของสตรีผู้หนึ่งในอาภรณ์เนื้อดีสีชมพู ปักด้ายทองลายผีเสื้อโบยบินกลางหมู่บุปผา เสื้อตัวนอกที่เคยมีสีสันงดงามบัดนี้เปื้อนเศษดิน เศษใบไม้ เปื้อนฝุ่นละทิ้งซึ่งความสง่างามของชุดดั้งเดิมไปหมดสิ้นแล้ว
อีกทั้ง....
มวยผมนางยุ่งเหยิงดูไม่เป็นทรง
บนเปลือกตามีผ้าสีดำคาดปิดอยู่ด้วยเช่นกัน
ข้อมือทั้งสองถูกมัดแน่นด้วยเชือกหนา
และที่สำคัญ….
บนศีรษะมีคราบเลือดแห้งกรังเหมือนร่องรอยจากการโดนของแข็งกระแทกอย่างรุนแรง
เพราะเหตุใดจึงมีร่างสตรีถูกพันธนาการนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ตรงนี้เล่า
ไม่แน่ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานขนาดนี้แต่เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลปริมาณมากขนาดนั้นอาจทำให้เจ้าของร่างสิ้นชีวิต วิญญาณออกจากร่างไปพบยมบาลแล้วกระมัง
ณ ที่แห่งนี้คือป่าแห่งหนึ่งในเมืองหลวงแห่งแคว้นเฉียนฉิน ตั้งอยู่ทางซีกตะวันออกของเมือง
แม้ว่าป่าแห่งนี้จะไม่ใช่ป่าที่อันตรายที่สุด ทว่าป่าอย่างไรก็คงเป็นป่า ตอนกลางคืนย่อมมีสัตว์ป่าอันตรายนานชนิดออกจากรังมาหากิน ลองนึกภาพพวกมันมาบังเอิญเจอเหยื่ออันโอชะเช่นสตรีผู้นี้....
มีหรือจะรอดพ้น
หากเป็นเช่นนั้นจริงยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายสตรีผู้น่าสงสารผู้นี้ ร่างนางก็คงหายไปจากโลกนี้เสียก่อนแล้วด้วยซ้ำ
เวลายังคงดำเนินผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ดวงตะวันกำลังคล้อยต่ำจนเกือบลับขอบฟ้า ในที่สุดร่างไร้สตินั่นก็เริ่มขยับตัวเสียที
มือบางขาวซีดยกมือขึ้นกุมบาดแผลบนศีรษะ ฟันเล็กขบริมฝีปากตัวเองเล็กน้อยเพราะรู้สึกเจ็บ
เปลือกตาบางเปิดออกท่ามกลางแสงสว่างน้อยนิดลอดเข้ามาหา ทว่าก็ยังคงมากพอสามารถเห็นรายละเอียดสิ่งแวดล้อมไม่คุ้นตารอบตัว
ที่นี่ที่ไหน?
ไยนางจึงมาอยู่ที่นี่?
ในสภาพเช่นนี้?
ไม่ใช่ว่านางที่เป็นบอดี้การ์ดมือขวาของมาเฟียกำลังขับรถพาบอสหนีศัตรูหรอกหรือ
ใช่แล้ว ภาพสุดท้ายก่อนที่ตัวเองสลบคือมีรถยุโรปหนึ่งคันแล่นสวนมาชนกับคันของนางและเจ้านาย
“โอ๊ย!”
จู่ๆก็มีความทรงจำแปลกประหลาดมากมายถาโถมเข้ามาในห้วงความคิดของนาง ตามมาด้วยความเจ็บปวดทรมานพุ่งทยายมาเกิดบริเวณสมองข้างในกะโหลกศีรษะ
ความเจ็บปวดทรมานดำเนินต่อเนื่องจนเจ้าของร่างอดไม่ได้ยกสองมือขึ้นมากุมศีรษะ ลำตัวบิดไปมาทุรนทุราย ร่างบางพยายามทำทุกทางหวังคลายความเจ็บปวดให้ตัวเอง
จนในที่สุดความทรงจำมากมายเหล่านั้นก็หยุดไหลบ่าเข้ามาสักทีพลอยให้ศีรษะนางลดความเจ็บปวดลงเหลือในระดับที่พอรับได้ หญิงสาวได้โอกาสจึงรีบหายใจเข้าสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเพื่อตั้งสติประมวลผลความทรงจำมากมายที่มันหลั่งไหลเข้ามาในหัวของนาง
“ซ่งเจียซิน….”
ซ่งเจียซินคือนามของร่างนี้ที่ หวังเค่อ หรือบอดี้การ์ดมือขวาของมาเฟียในยุคปัจจุบัน ที่มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่างๆ
และใช่…
นางได้ตายจากชาตินั้นแล้ว ด้วยโชคชะตานำพา หรือสวรรค์กลั่นแกล้งก็ไม่รู้จึงทำให้วิญญาณนางไม่ได้ไปเกิดในภพภูไม่ใหม่อย่างเช่นคนอื่นเขา
ไม่ได้ดื่มน้ำแกงลืมเลือน
ไม่ได้กำเนิดตั้งแต่เป็นทารกจนเติบใหญ่อย่างเช่นปกติ
ทว่า…
นางดันมาเกิดในร่างของคุณหนูตระกูลขุนนางยุคโบราณ ย้อนไปเกือบ สองพัน ปีนู่น
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!!
คุณหนูร่างนี้วิญญาณออกจากร่างไปแล้วโดนแทนที่โดยวิญญาณของหวังเค่อ
ชีวิตที่ไร้มารดาของคุณหนูผู้นี้ไหลเข้ามาในหัวสมองของนาง
ทั้งภาพบิดาที่หมางเไม่น
ภรรยาคนอื่นของบิดาตีสองหน้าเก่งล้ำเลิศ…ต่อหน้าบิดานางนั้นปฏิบัติตัวดีกับร่างนี้ ทว่าลับหลังกลับตรงกันข้าม ปัจจุบันแม้ร่างนี้มีฐานะเป็นคุณหนูใหญ่ก็จริงแต่นั่นก็เป็นเพียงสถานะจอมปลอม!
ไหนจะภาพบุตรสาวและบุตรชายของภรรยาอีกคนของบิดา มีชีวิตที่ดีกว่าคุณหนูใหญ่อย่างร่างนี้เสียอย่างนั้น
พวกนั้นรวมหัวกันกลั่นแกล้งลับหลัง
และสิ่งเจ็บปวดที่สุดสำหรับร่างนี้คือภาพน้องชายร่วมอุทร….
สายตาที่มองพี่สาวคนนี้อย่างกับสายตามองศัตรูแสนเกลียดชัง
วิญญาณเดิมเจ้าของร่างนี้ไม่ได้มีคำขอเรื่องใดใหญ่โตมากนักกับหวังเค่อ
หวังเค่อสามารถดำเนินชีวิตใหม่ในร่างนี้ได้ต่อไปแลกเปลี่ยนกับความปรารถนาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นของวิญญาณเดิมนี้
คือ….
ปกป้องและช่วยเหลือน้องชายร่วมสายเลือดหนึ่งเดียวในตอนนี้ให้ปลอดภัย ให้รอดพ้นจากอันตรายชั่วร้ายในตระกูลแห่งนั้นด้วยเถิด
นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของวิญญาณเจ้าของร่างที่ขอร้องนางในฐานะวิญญาณใหม่มาใช้ร่าง
หวังเค่อลืมตาขึ้นอีกครา
คราวนี้ นางปราศจากความสับสนมึนงงอย่างที่ผ่านมาแล้ว
เรียกได้ว่ากระจ่างแจ้งแล้วว่านางไม่มีโอกาสกลับไปยังโลกเดิมที่ตนจากเสียแล้ว
โอกาสเดียวที่เหลืออยู่คือใช้ชีวิตต่อในร่างนี้เท่านั้น!!!
จากนี้ไม่มีอีกแล้วบอดี้การ์ดของมาเฟียที่ชื่อ หวังเค่อ
มีแต่คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลขุนนางขั้นสามระดับต้น ตระกูลซ่ง….ซ่งเจียซิน
คุณหนูผู้กำพร้ามารดาตั้งแต่เด็ก ร่างเดิมนั้นอ่อนแอเกินไปจึงได้ถูกรังแกสุดท้ายต้องตายในสภาพเช่นนี้
เหอะ!
หนึ่งในความทรงจำทั้งหลายที่เข้ามาในหัวนางคือภาพบุตรีของเหลียงอี๋เหนียง…ซ่งเจิ้งเหม่ย
บุตรีของอนุทว่ากับเป็นบุตรีที่บิดาโปรดปรานมากที่สุด
ตลกสิ้นดี
ซ่งเจิ้งเหม่ยต่อหน้าเรียกพี่หญิงใหญ่อย่างนั้นอย่างนี้ ทำทีเป็นพูดจาสุภาพ นิสัยแสนดี นางเห็นว่าร่างเดิมเหงาไม่มีสิ่งใดละเล่นอยู่ที่เรือนจึงเอ่ยปากชวนมาเล่นการละเล่นซ่อนหา
ร่างเดิมที่หัวอ่อน เชื่อคนง่าย จึงรีบพยักหน้าตกลงเล่นด้วยทันที
ตอนแรกก็เล่นตามกติกาของคนทั่วไปนั่นแหละ ยิ่งเล่นซ่งเจิ้งเหม่ยยิ่งชวนเดินออกจากประตูจวนทางด้านหลัง เข้าไปในป่าแห่งนี้
วัตถุประสงค์แอบแฝงของซ่งเจิ้งเหม่ยนั้นชั่วร้ายยิ่งนัก
ที่แท้แล้วก็เพียงแค่ต้องการกำจัดคุณหนูใหญ่อย่างร่างนี้เท่านั้น
แม้ว่าในความทรงจำของดั้งเดิมจะไม่มีความคิดว่าน้องสาวร่วมบิดาผู้นั้นเป็นผู้ฆ่าตนเองด้วยการตีศีรษะเพราะถูกปิดตาทั้งสองข้างจึงไม่เห็น
แต่นางนั้นไม่ได้เป็นคนดีคิดในแง่ดี หัวอ่อนอย่างร่างเดิมเสียหน่อย
ดูก็รู้ว่าการละเล่นนั้นมีวัตถุประสงค์ชั่วร้ายแอบแฝง…. คงคิดว่าจะกลบปิดหลักฐานโดยเอามาทิ้งไว้ในป่าให้สัตว์ป่ากำจัดละสิ
ซ่งเจียซินคนใหม่ยืนขึ้นหลังจากพยายามกำจัดเชือกมัดมือได้สำเร็จ มือบางสาละวนกับการปัดเศษฝุ่นดินออกจากเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุด
นางยกมือขึ้นกุมบาดแผลแววตาเยือกเย็นจ้องมองไปข้างหน้าก่อนออกเดินจากตำแหน่งเดิมมุ่งหน้าออกจากป่า
