บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๕ คุณหญิงจันทร์

หลายวันผ่านไป...

เจ้าจันทร์ไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้นั่งๆ นอนๆ เหมือนที่ผ่านมา เธอเริ่มลุกขึ้นมาออกกำลังกาย บ้างครั้งก็ออกไปนั่งดูบ่าวผู้ชายที่เอาต้นมะลิซ้อนมาลงใหม่ หรือไม่ก็ไปทำขนมในครัวเรือนใหญ่ เป็นแบบนี้อยู่เสมอ

แต่สิ่งที่เจ้าจันทร์ต้องทำเป็นประจำทุกวันเพื่อไม่ให้โดนจับพิรุธได้ คือการยกน้ำชากับของว่างไปให้เจ้าคุณนี่แหละ

ซึ่งค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยง เพราะพักหลังๆ เจ้าคุณเริ่มถึงเนื้อถึงตัวมากขึ้น ตั้งแต่เกิดใหม่ในร่างนี้เจ้าจันทร์ก็ทำใจไว้บ้างแล้วว่าจะต้องตกเป็นเมียเจ้าคุณเข้าสักวัน แต่ก็ยังไม่ชินสักที

“ คุณเจ้าจันทร์เจ้าคะ เมื่อเช้าเห็นคุณหญิงท่านบ่น ว่าอยากทานแกงส้มสายบัวฝีมือคุณเจ้าจันทร์น่ะเจ้าค่ะ ” ชบาที่เพิ่งเดินกลับจากเรือนรับรองเมื่อเห็นเจ้าจันทร์ก็รีบเดินเข้ามาบอก

“ คุณแม่มณีน่ะเหรอ? อยากทานแกงส้มสายบัว ”

ดีที่การทำอาหารไม่ได้ยากสำหรับเจ้าจันทร์ ตอนที่อยู่ในโลกปัจจุบันเจ้าจันทร์ชอบทำอาหาร เพราะว่าพ่อของเธอต้องทำงานหนัก เจ้าจันทร์จึงเรียนรู้การทำอาหารเพื่อจะได้ทำของอร่อยให้พ่อได้ทาน ท่านจะได้หายเหนื่อย

“ เจ้าค่ะ นี่บ่าวก็กำลังจะไปเก็บสายบัวในบึงบัวหลังเรือน เอามาให้คุณเจ้าจันทร์ทำน่ะเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินที่ชบาบอกว่าจะไปเก็บสายบัวเท่านั้นแหละ ดวงตาของเจ้าจันทร์ก็ลุกวาวขึ้นมาทันที

ปรกติแค่เดินไปที่ครัวหลังเรือนใหญ่และทำอาหารที่คนครัวเตรียมเอาไว้ก็เสร็จแล้ว แต่ที่เป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าจันทร์ก็คือการได้ออกไปหาวัตถุดิบกับชบานี่แหละ ถ้าบอกไปตรงๆ ว่าอยากไปด้วยจะเป็นไรไหมนะ?

“ พี่ชบาจ๊ะ..”

“ เจ้าคะคุณเจ้าจันทร์ ”

“ ถ้าจันทร์ขอไปด้วย พี่ชบาจะว่าอะไรจันทร์ไหม?”

“ โอ้ย.. บ่าวหรือจะกล้าว่าคุณเจ้าจันทร์เจ้าคะ ไปได้เจ้าค่ะ แต่คุณเจ้าจันทร์ต้องยืนดูิย่างเดียวเท่านั้นนะเจ้าคะ เดี๋ยวชบาจะเป็นคนลงไปเก็บสายบัวเองเจ้าค่ะ เพราะคุณหญิงมณีกับท่านเจ้าคุณคงไม่อนุญาตให้คุณเจ้าจันทร์ลงไปในบึงกับบ่าวแน่นอนเจ้าค่ะ”

ชบาพูดอธิบายพร้อมส่งยิ้มมาให้ เจ้าจันทน์รีบพยักหน้าตกลงทันที

“ จ้ะ พี่ชบา จันทร์จะยืืนดูอย่างเดียว ”

ในตอนนี้เจ้าจันทร์ขอแค่ได้ไปดูก็ดีใจมากแล้ว ถึงจะไม่ได้เป็นคนลงไปเก็บสายบัวด้วยก็เถอะ แต่ก็ถือว่าได้ไปเปิดหูเปิดตานอกชานเรือนบ้างก็ยังดี

~*~

เจ้าจันทรเดินตามชบาไปทางบึงบัวที่อยู่ไกลจากเรือนใหญ่ไปอีกราวๆ ครึ่งกิโลเมตร

ระหว่างทางไปบึงบัวก็จะผ่านสวนผลไม้หลากหลายชนิดรวมไปถึงพื้นที่เพาะปลูก

มีบ่าวผู้ชายหลายคนกำลังรดน้ำพรวนดินและขึ้นแปลงเพาะกันอยู่ ยังมีบ่าวผู้หญิงอีกหลายคนที่กำลังปลูกผักสวนครัวกันอย่างขมักเขม่น

นี่สินะวิถีชาวบ้านฉบับดั้งเดิม บ่าวในเรือนมีไม่ใช่น้อยเลยหากจะเลี้ยงดูก็ต้องใช้เงินมากมาย ท่านเจ้าคุณฉลาดมากที่ให้บ่าวปลูกผลไม้และพืชผักสวนครัวไว้กินเอง

ระหว่างที่เดินไปด้วยมองพวกบ่าวปลูกผักไปด้วย หางตาของเจ้าจันทร์ก็เหลือบไปเห็นเด็กน้อยสองคน กำลังไล่เก็บดอกไม้ที่หล่นตามพื้นขึ้นมาเล่นกันอย่างสนุกสนาน

และหนึ่งในดอกไม้ที่พวกเขาเก็บมีดอกมะลิด้วย มันแน่อยู่แล้ว เพราะเรือนของท่านเจ้าคุณเต็มไปด้วยดอกมะลิ ในหัวของเจ้าจันทร์คิดไปถึงเมนูอาหารชนิดหนึ่ง

ที่เคยลองทำให้พ่อทาน แล้วก็กลายเป็นอาหารจานโปรดของพ่อเธอไปเลย แล้วดอกมะลิในยุคนี้ต้องปลอดภัยไม่มีสารพิษหรือยาฆ่าแมลงแน่นอน

มุมปากสวยยกยิ้มเล็กน้อย เย็นนี้จะมีเมนูใหม่ ที่เธอทำเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเมนู เจ้าจันทร์เดินไปหาเด็กน้อยทั้งสองคน ก่อนจะทักทายทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม

“ เล่นอะไรกันอยู่จ๊ะ? ดูน่าสนุกจัง”

“ เอ่อ.. คุ..คุณหญิงเจ้าจันทร์ ” เด็กน้อยทั้งสองคนดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ต่างพากันยืนอ้ำอึ้ง เหมือนกลัวว่าเจ้าจันทร์จะดุยังไงอย่างนั้น

“ คุณหญิงเหรอ? ”

เจ้าจันทร์เลิกคิ้วเล็กน้อย จริงสิ เจ้าคุณเป็นถึงพระยา เธอเป็นภรรยาก็ต้องมีศักดิ์เป็นคุณหญิง บ่าวพวกนี้คงไม่กล้าเรียกเธอว่าคุณเจ้าจันทร์สินะ

“ เอ่อ.. คุณหญิงเจ้าจันทร์ มีอะไรให้พวกเรารับใช้หรือไม่เจ้าคะ?”

เด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ

เรียกแบบนี้เธอไม่ชินเลยแห๊ะ! เจ้าจันทร์หันไปฉีกยิ้มใจดีให้ ก่อนจะยกมือขึ้นไปลูบศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ อย่างอ่อนโยนและเป็นกันเอง เพราะเธอไม่อยากทำให้เด็กๆ กลัว

“ พี่จันทร์แค่จะวานให้เราสองคนช่วยเก็บดอกมะลิให้พี่จันทร์หน่อย ได้ไหมจ๊ะ ขอดอกที่สวยๆ งามๆ และไม่ช้ำ ที่สำคัญอย่าเด็ดจากต้นเด็ดขาด ให้เก็บดอกที่พึ่งล่วงใหม่ๆ ก็พอจ้ะ ทั้งสองคนทำให้พี่จันทร์ได้ไหม? ”

เพราะดอกที่เด็ดจากต้นจะมียางติดออกมาด้วย เจ้าจันทรไม่อยากให้รสชาติอาหารเปลี่ยน

เมื่อเจ้าจันทร์บอกในสิ่งที่เธอต้องการให้เข้าใจ เด็กน้อยทั้งสองมองไปหน้ากันและเหมือนจะคลายความกังวลไปบ้างแล้ว ทั้งสองก็ฉีกยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้าและสัญญาว่าจะเก็บดอกไม้มาให้เยอะๆ

“ ได้เจ้าค่ะ พวกบ่าวจะเก็บให้ได้เยอะๆ เลยเจ้าค่ะคุณหญิงเจ้าจันทร์ ”

“ ขอบใจจ้ะ.. อ้อ แล้วต่อไปให้เรียกพี่จันทร์เฉยๆ นะจ๊ะ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มก็ได้ มันยาวไป เรียกยาก ” เจ้าจันทร์บอกเด็กๆ ด้วยรอยยิ้ม

“ ได้เจ้าค่ะ คุณหญิงจันทร์..”

เด็กทั้งสองคนตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน จากนั้นทั้งสองก็พากันวิ่งไปเก็บดอกไม้กันอย่างสนุกสนาน

ทิ้งให้เจ้าจันทร์ยืนนิ่งกระพริบตาปริบๆ ก็บอกให้เรียกพี่จันทร์เฉยๆ ไง ต้องมีคุณหญิงนำหน้าด้วยเหรอ? เธอส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปหาชบาที่หยุดยืนรออยู่อีกด้าน

~*~

ไม่นานชบากับเจ้าจันทร์ก็มาถึงบึงบัว ชบาเริ่มลงไปในบึงบัวอย่างไม่รีรอ ส่วนเจ้าจันทร์ก็ยืนชะเง้อดูอยู่ในศาลาข้างบึงอย่างว่านอนสอนง่าย เพราะถ้าอยากไปไหนมาไหนอีกชบาจะได้ยอมง่ายๆ เหมือนวันนี้

แป๊บเดียวชบาก็เก็บสายบัวขึ้นมาได้เยอะแยะเลย ก็คงจะเซียนพอตัว ขากลับเจ้าจันทร์แวะรับดอกมะลิที่เด็กๆ เก็บให้ จากนั้นก็นำสายบัวไปที่ครัวเรือนใหญ่ เอาไปให้เดือน คนที่เป็นบ่าวหน้าห้องของเจ้าจันทค์อีกคน จัดการเอาเส้นใยออกให้หมด ก่อนจะนำมาให้เจ้าจันทร์ทำอาหาร

เมื่อถึงเวลาเย็น พวกบ่าวก็ยกสำรับอาหารขึ้นมาบนเรือน วันนี้มีสำรับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งที่ เพราะเจ้าคุณพิพัฒน์จะมาร่วมโต๊ะด้วย พวกบ่าวต่างก็พากันแปลกใจ ก็ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเจ้าคุณมาร่วมโต๊ะสักครั้ง

..สงสัยว่าวันนี้พายุจะเข้า

~*~

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel