ตอนที่ 1 ระเบิดสู่โลกใหม่
“เฮ้อ ตั้งแต่เจ้าจูนิเบียวนั่นหายไปโลกก็สงบสุขขึ้นเลยนะ…" ฉันนั่งตัดพ้อไปพลาง…ก็นึกถึงทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของโลกไปด้วย
“แต่มันดันส่งผลต่อธุรกิจของฉันนี่สิ..ไอ้เจ้าบ้านั่น!” ฉันตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง
ซึ่งฉันคือ เมเบล ครอว์ฟอร์ด แม่ค้าอาวุธเถื่อนระดับโลก เจ้าของฉายา “ราชินีแห่งตลาดมืด” หญิงสาวสุดน่ารักที่สามารถขายทุกอย่างตั้งแต่มีดพกยันระเบิดนิวเคลียร์ขนาดพกพา (ไม่เวอร์นะ พกพาได้จริง) คนที่ลูกค้าทั่วโลกต่างกลัวหัวหดแต่ก็ต้องมาขอซื้อของอยู่ดี เรียกง่าย ๆ ว่า 'สาวนักเจรจาที่รอยยิ้มหวานกว่าพิษไซยาไนด์แต่ดีลจบไวกว่าเสียงปืนลั่น'
“นายท่าน นายท่าน นายกจากประเทศ k มาถึงแล้ว” ภาพ AI ได้ถูกฉายออกมาจากถุงมือของฉัน ซึ่งมันเป็นเทคโนโลยีใหม่ของโลกนี้ เสมือนกับว่าเรามีเลขาส่วนตัวนั่นเอง และเจ้าตัวที่กำลังเตือนฉันอยู่ตอนนี้ก็คือแรคคูนสีขาว มันชื่อว่าไวท์
“โอเค โอเค๊” ฉันตอบกลับพลางเดินออกไปจากห้องทำงานและตรงไปยังฐานลับใต้ดิน ซี่งที่นี่มีคนอยู่มากเลยแหละ และพวกเขาทำงานให้ฉันภายใต้องค์กรแร็คนาร็อค (Ragnarok) องค์กรค้าอาวุธเถื่อนอันดับหนึ่งของโลก ไม่ว่าใครหน้าไหนที่คิดจะทำสงครามก็ต้องมาหาฉันกันทั้งนั้นแหละ ยิ่งถ้าพวกที่ยศสูงๆมานะ พวกเขาจะรีเควสว่าขอเจอกับฉันลูกเดียวเลย ทั้งๆที่ฉันคิดว่าจะนอนสบายๆอยู่แล้วเชียว แต่เพราะว่าพวกเขาเองก็เป็นผู้ทรงอิทธิพล ถ้าหากปฏิเสธไปมีหวังว่าอาจจะโดนบึ้มบั้มแน่นอน
ณ ห้องประชุมลับ
“หมายความว่า คุณจะเอาระเบิดพวกนี้มาแลกกับปืนกลหนักเหรอคะ?” ฉันถามกลับไปหลังจากได้ฟังเรื่องคร่าวๆจากท่านนายกประเทศ K
“ถูกต้อง มันไม่ใช่ระเบิดธรรมดานะ”
“มันคือโครตระเบิด” เขาตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทำให้ฉันหัวเราะออกมา
“โธ่ ลุง แล้วฉันจะเอาระเบิดนี่ไปทำอะไรล่ะ?” ฉันกล่าวถามกลับถึงแม้จะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่ามันสามารถเอาไปขายที่ไหนต่อได้ และที่จริงแล้วถึงแม้ฉันจะขายอาวุธเถื่อน อาวุธสงคราม จะรถถังเครืองบินมิสไซด์อะไรฉันก็ขายหมด แต่พวกฉันไม่ทำสงคราม ฉันแค่ขายอาวุธเท่านั้นแหละ
“ลุงงั้นเหรอ!?” หน่วยอารักขาที่ได้ยินฉันเรียกท่านนายกแบบนั้นก็หยิบปืนขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ทันฉันหรอก เพราะในที่แห่งนี้คือที่ของฉัน ฉันควบคุมเอาไว้ทั้งหมด ปืนกลได้ออกมาจากกำแพงทั้งสี่ด้านพร้อมที่จะลั่นไกได้ในทันที
“อย่าไปถือสาเธอเลย เมเบลทำธุรกิจกับเรามานานแล้ว”
“และก็เพราะอาวุธของเธอที่ทำให้เราขึ้นแท่นเป็นประเทศมหาอำนาจได้”
“มันจะดีกว่าถ้าพวกนายอยู่นิ่งๆ” นายกหันไปกล่าวกับทีมอารักขา พวกนี้เองก็ฝีมือใช่เล่น เป็นทั้งอดีตหน่วยรบพิเศษ บ้างก็เคยเป็นทหารที่อยู่แนวหน้า แต่ละคนฉันมีข้อมูลหมด เพราะเวลาฉันจะทำอะไรฉันต้องรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายทั้งหมดเสียก่อน
“อึก…” พวกเขายอมเก็บปืนลงพร้อมกับฉันที่ลูบกำไลข้อมือของตัวเองหนึ่งครั้ง อาวุธทั้งหมดถูกจัดเก็บเข้าไปในกำแพงเหมือนเดิม
“พวกนี้..มันคือของเก่าไม่ใช่เหรอคะ แต่ถ้าเก็บเอาไว้ไปใช้ในบางแผนการก็ได้อยู่เหมือนกันนะคะ” ฉันกล่าวพลางหยิบระเบิดมาถอดสลักเล่นและตรวจสอบของตัวอย่าง ซึ่งฉันรู้และมั่นใจอยู่แล้วว่าระเบิดนี่มันไม่ทำงานหรอก เบาซะขนาดนี้
“หรือคิดจะให้ฉันเอาไปขายประเทศ B เหรอคะ?” ฉันกล่าวถามกลับไปทำให้ทุกคนอึ้งกันไปหมด
“มันจะทำงานก็ต่อเมื่อตกลงพื้นเท่านั้น ถ้ามองเผินๆอาจจะคิดว่าเป็นระเบิดด้าน” ฉันกล่าวอีกครั้ง เพราะประเทศ B กำลังสู้กับอิสราเอลอยู่ และพวกเขากำลังขาดแคลนอาวุธสุดๆ แถมยังเป็นหนี้ฉันเยอะเลยแหละ ไม่ว่าจะอาวุธอะไรพวกเขาเอาหมด และยิ่งระเบิดพวกเขายิ่งต้องการ เพราะมันทำความเสียหายเป็นวงกว้าง อย่างน้อยเอาระเบิดพวกนี้ไปเขวี้ยงเล่นที่ชายแดนคงจะเก็บได้หลายศพอยู่ แต่เพราะแบบนั้นแหละฉันถึงเข้าใจว่าเพราะอะไรประเทศคู่กรณีถึงมาขายอะไรแบบนี้ให้
“ไม่ต้องระวังกันหรอก ลุงคงจะมีแผนอย่างอื่นใช่ไหมล่ะ?” ฉันกล่าว เพราะท่านนายกเขาคงจะรู้ดีว่ามาขายอะไรแบบนี้ให้โดยมีนัยยะให้ฉันมันไม่ใช่เรื่อง มีหวังอาจจะโดนยิงพรุนอยู่ในห้องนี้แน่ เพราะลุงเขาก็รู้จุดยืนของตัวเองเหมือนกัน ฉันไม่คิดร้ายกับใครก่อนทั้งนั้น แต่ถ้ามีใครหรือกองกำลังไหนเล่นตุกติกกับเรา ฉันก็เคยเชือดไก่ให้ลิงดูมาแล้ว ส่งสินค้าสงครามให้คู่อริของพวกเขาสักหน่อย ปลุกระดมอีกนิด สร้างความร้าวฉานให้บังเกิด….
จบปิ้ง!!
“อืม…คุยกับเธอมันง่ายแบบนี้แหละ”
“แผนคือ-” ก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไร ฉันที่กำลังมองดูระเบิดนี่ก็เผลอทำมันตก
ฟึบ
“เกือบไปแล้วนะคะ” ฉันกล่าวด้วยเสียงตื่นเต้นก็เพราะฉันรับมันไว้ทัน
“น่ากลัวจริงๆเล-” และในขณะที่ฉันกำลังจะพูดต่อ ระเบิดนั้นก็หลุดมือฉันไปอีกครั้ง
ตู้มมม
.
.
.
“ฮึก!” และฉันก็ฟื้นขึ้นมา ที่ไหนก็ไม่รู้แต่มันขาวไปหมดเลย
“ไวท์” ฉันเรียกไวท์ เลขาของฉันแต่ก็พบว่าบนตัวไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย มีแค่ชุดสวมใส่เท่านั้น
[การเชื่อมต่อล้มเหลว]
[คุณไม่ได้รับการยอมรับ]
[กำลังเชื่อมต่ออีกครั้ง…]
[การเชื่อมต่อล้มเหลว]
[ปฏิเสธการเข้าถึง]
[กำลังเชื่อมต่อใหม่]
[ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง] [ปฏิเสธการเข้าถึง]
[คุณได้รับการยอมรับในกรณีพิเศษ]
หน้าต่างแจ้งเตือนคล้ายระบบเกมเด้งขึ้นมาตรงหน้าของฉันมากมาย ซึ่งฉันกำลังใช้สมองคิดอะไรหลายอย่างอยู่ แต่ทันใดนั้นเองก็มีหน้าต่างระบบใหม่ขึ้นมานับถอยหลัง 3 2 และ 1
วุบ
“อืม…” ฉันรู้สึกตัวก็ไม่เห็นอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงแจ่บๆๆราวกับว่ากำลังมีใครหรือสิ่งมีชีวิตใดกำลังซอยจุ๊บางอย่างอยู่อย่างน่าเอร็ดอร่อย
“ทำไมรู้สึกว่าร่างกายมันแปลกๆ” ฉันพูดกับตัวเองและลองจับร่างกายตัวเองดู… ปรากฏว่าตัวฉันมีขนเต็มไปหมด แถมมือก็เล็กมากมีเล็บคมๆด้วย พอลองเลื่อนมือขึ้นไปสัมผัสหน้าดู…ก็น่าจะไม่ใช่แล้วล่ะ
หมายถึงไม่ใช่หน้าฉัน!!
และไม่ใช่มนุษย์ด้วย!!
ขาสั้น... แขนมีขน... มือเล็กเท่าถ้วยชา...
มีทั้งหูบนหัว และมีหางใหญ่ๆตรงบั้นท้ายด้วย แถมยังขยับได้อีก แต่ที่ฉันต้องคิดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องตัวตนของฉัน แต่เป็นสิ่งรอบตัวต่างหาก เพราะฉันได้ยินเสียงการกินอะไรสักอย่างที่ดุร้ายและป่าเถื่อนมากๆ
'มองเห็นในที่มืดสินะ' ครั้งนี้ฉันไม่พูดแต่คิดในใจเผื่อจะมีใครได้ยินบ้าง ซึ่งจากการลองประมวลผลดูแล้ว ฉันอยู่ในร่างของสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีทั้งหูบนหัวและหางใหญ่ๆ ตัวก็นุ่มนิ่มขนปุกปุยน่าฟัดเหลือเกิน ซึ่งโครงหน้าของฉันมันเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายกับหนู แต่ตัวฉันไม่ได้เล็กขนาดนั้น แถมมีหางนุ่มฟูอันใหญ่ด้วย ถ้าคิดไม่ผิดคงจะเป็น….แรคคูนแน่ๆ
โฮกกก!!
จู่ๆก็มีเสียงคำรามดังก้องไปทั่ว คิดว่าฉันคงอยู่ในถ้ำ เพราะทั้งมืดและชื้น แต่เจ้าตัวที่กำลังคำรามอยู่คงไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ เพราะมนุษย์ไม่มีเสียงคำรามแบบนี้ มันคงเป็นตัวอะไรที่น่ากลัวมากๆ เท่าที่ฉันรู้จักสัตว์จำนวนมากมา ไม่มีเสียงตัวไหนคล้ายสิ่งมีชีวิตนี้เลย
เอิ่กกก
มันเรอ เสียงลั่นออกมาอีกครั้ง เดาว่าคงจะซอยจุ๊จนอิ่มแปล้แล้ว อย่างนั้นฉันก็ค่อยโล่งใจหน่อยเพราะตัวฉันคงจะยังไม่ถูกกินไปสักพัก
ตุบ ตุบ ตุบ
แต่เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวหรือการเดินของมัน มันคงจะมีตัวที่สูงใหญ่มากๆถึงขั้นที่พื้นดินสะเทือนเลยแหละ และตรงที่ฉันอยู่มันก็เป็นจุดที่มีสัตว์แปลกหน้าแปลกตาอยู่เต็มไปหมด แต่เจ้าพวกนี้มันไม่มีชีวิตแล้ว และเมื่อเจ้าตัวใหญ่นั่นกำลังเดินมา ฉันเลยต้องหาที่แอบ ใช่ไปแอบในรูขนาดเล็กเพราะคิดว่ามันคงเข้ามาไม่ได้หรอกเพราะตัวมันใหญ่
ฮึก ฮึก
และเมื่อฉันได้พบกับเจ้าสิ่งมีชีวิตนั้น มันทำให้ฉันอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะมันคือออร์ค หรือเจ้าตัวเขียวในเกม RPG ที่ฉันชอบเล่นเวลาเบื่อๆ มันสูงสี่เมตรเห็นจะได้ แถมตัวมันยังหนาและใหญ่กว่าตู้เสื้อผ้ารวมกันสองตู้อีก
