บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ข้าต้องการหย่า [2/2]

บทที่ 5

ข้าต้องการหย่า [2/2]

จ้าวหว่านชิงจูงมือซูเหยาวัยแปดขวบเดินไปตามทางท่ามกลางเสียงซุบซิบของชาวบ้านดังขึ้นไม่ขาดสาย พอทั้งสองก้าวเข้าสู่ลานบ้านสกุลฉู่ก็กลายเป็นจุดสนใจทันที

“นั่นหว่านชิงที่ตายแล้วฟื้นไม่ใช่หรือ…นี่นางจะมาอาละวาดที่บ้านแม่สามีอีกแล้วหรือ?”

“เดี๋ยวสินี่ข้าตาฝาดไปหรือ...เหตุนางถึงเดินจับมือลูกที่นางเอาแต่ทุบตีมาตลอดแบบนั้นได้กัน”

คำพูดที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและการนินทาของชาวบ้านในบริเวณนั้นทำให้บรรยากาศกดดันยิ่งขึ้น ทว่าภายในเวลาไม่นานหญิงชราผู้เป็นแม่สามีก็รีบย่างกายออกมาจากเรือน ร่างกายโค้งงอแต่สายตากลับดุดันเฉียบคมทันทีที่เห็นลูกสะใภ้กับหลานสาวที่ตนเกลียดชัง

“ตัวซวย! ยังกล้าหน้าด้านเหยียบเข้ามาในบ้านของข้าอีกหรือ!” หญิงชราเอ่ยเสียงด่าทอแหลมสูงราวกับจงใจให้ชาวบ้านได้ยินพลางยกมือสั่นระริกชี้หน้าจ้าวหว่านชิงด้วยความโกรธจัด

หญิงสาววัยกลางคนมีสถานะเป็นพี่สะใภ้ของจ้าวหว่านชิงย่างกายเดินตามออกจากเรือน เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้านางไม่เพียงไม่ห้ามยังพยักหน้ารับส่งเสียงเสริมสนับสนุนแม่สามีให้ขับไล่น้องสะใภ้และหลานสาวออกไปจากบ้าน

“สิ่งอัปมงคลอย่างเจ้าที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมามีแต่จะนำพาความซวยมาเยือนที่บ้านข้า รีบออกไปก่อนที่ข้าจะเอาน้ำร้อนมาสาดเสีย”

จ้าวหว่านชิงที่ถูกด่าทอว่าเป็นสิ่งอัปมงคลได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ นางไม่ได้โต้ตอบทันทีแต่หันไปย่อกายนั่งลงเคียงข้างซูเหยาพลางวางมืออุ่นลงบนไหล่เล็ก ๆ ของเด็กน้อย

“เหยาเอ๋อร์ไปเล่นกับเพื่อน ๆ ข้างหน้ารอข้าก่อนนะ” น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเด็ดขาด

“หากข้าคุยกับท่านย่าของเจ้าเสร็จแล้วข้าจะไปตามเจ้าเอง”

ซูเหยาพยักหน้ารับเงียบ ๆ ทว่าก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากลานบ้านสายตากลับเหลือบมองหญิงชราผู้เป็นย่าด้วยแววตาเย็นเยียบราวกับมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ แต่สุดท้ายเด็กน้อยก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาทำเพียงหันหลังเดินห่างออกไปทีละก้าว

เมื่อแน่ใจว่าร่างเล็กพ้นระยะสายตาแล้วจ้าวหว่านชิงที่ยังคุกเข่าอยู่ก็ค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าสวยจางหายวับไปในทันทีก่อนจะเผยสีหน้าบึ้งตึงเฉียบขาด สายตาที่เคยอ่อนโยนเมื่อครู่กลับกลายเป็นเย็นชาและแข็งกร้าวจ้องตรงไปยังแม่สามีและพี่สะใภ้ที่ยังยืนลำพองอยู่ตรงหน้า

“ท่านแม่...ข้ามาที่นี่วันนี้ไม่ได้จะทนฟังคำด่าทอของใครหากแต่ข้าต้องการมาพูดเรื่องหย่าเท่านั้น!” จ้าวหว่านชิงเอ่ยออกมาน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงแรงกดดันจนคนทั้งสองตรงหน้านิ่งชะงัก

เสียงซุบซิบรอบลานบ้านดังขึ้นทันที ชาวบ้านตื่นตะลึงไม่คาดคิดว่าจ้าวหว่านหนิงจะกล้าพูดเช่นนี้หญิงชราเบิกตากว้างก่อนจะชี้หน้าอีกครั้ง

“หย่า? เจ้ากล้าพูดเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร! นี่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าพูดว่าหย่ากับบุตรชายขะ....”

ทว่าแต่ยังไม่ทันที่หญิงชราจะได้ด่าจบลูกสะใภ้คนโตก็รีบก้าวเข้ามาคว้าแขนแม่สามีไว้พลางกระซิบเสียงเบาที่ข้างหู

“ท่านแม่อย่าด่วนโกรธไปเลยเจ้าค่ะ หากคิดดูให้ดีอีกไม่นานน้องสามีจะสอบได้เป็นขุนนางใหญ่นี่ถือเป็นโอกาสดีหากพวกเราตัดนางออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ หลังจากหย่าแล้วระหว่างสกุลฉู่และนางก็จะไม่มีห่วงผูกพันนี่นับว่าดีต่อครอบครัวเรานะเจ้าคะ”

แววตาหญิงชราแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากได้ฟังคำพูดของลูกสะใภ้ ความโกรธเกรี้ยวค่อย ๆ ถูกแทนด้วยความคิดคำนวณก่อนที่นางหันกลับมามองจ้าวหว่านชิง

“เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะหย่า?”

“ข้าแน่ใจ”

“ดี!...เช่นนั้นข้าจะส่งข่าวไปหาจิ่นหานให้เขาเขียนหนังสือหย่าส่งมาโดยเร็ว”

คำตอบง่ายดายจนชาวบ้านพากันฮือฮาแต่ในขณะที่ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงง่าย ๆ สีหน้าหญิงชรากลับหม่นลงอีกครั้งเมื่อสายตาเหลือบไปยังร่างเล็กที่เพิ่งเดินห่างออกไป

“แต่ซูเหยา…เด็กคนนั้นเป็นหลานข้า หากเจ้าหย่ากับจิ่นหานแล้วนางย่อมต้องกลับมาอยู่กับสกุลฉู่ ไม่ใช่หรือ” น้ำเสียงแฝงด้วยความไม่พอใจชัดเจน

จ้าวหว่านชิงราวกับคาดไว้ก่อนแล้วนางยกยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“เรื่องนั้นข้าได้คิดไว้แล้ว แม้ข้าจะหย่ากับฉู่จิ่นหานแต่ซูเหยาจะยังคงอยู่กับข้า ข้าจะเลี้ยงดูนางเสมือนลูกแท้ ๆ ของตนเอง เพียงแต่ข้ามีข้อแม้เดียว...หากวันใดพวกท่านย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับจิ่นหานที่เมืองหลวงพวกท่านต้องให้ซูเหยาติดตามไปด้วย”

หญิงชราเงียบไปครู่หนึ่งแววตาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดแต่ลึก ๆ ก็โล่งใจยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่แรกนางไม่เคยต้องการเลี้ยงดูซูเหยาเลยเพราะสำหรับนางเด็กหญิงผู้นี้คือภาระกินแรงหากจ้าวหว่านชิงจะเอาไปเองก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ส่วนเรื่องพาไปที่เมืองหลวงนางค่อยคิดหาทางขัดขวางอีกที

“เจ้ากล้าพูดเช่นนั้นข้าก็ไม่มีเหตุผลอันใดจะขัด ข้าไม่สนใจอยู่แล้วว่าเจ้าจะเลี้ยงเด็กคนนั้นหรือไม่…”

หลังจาหญิงชราพูดจบประโยคเสียงซุบซิบจากชาวบ้านรอบลานดังขึ้นอีกครั้ง หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองจ้าวหว่านชิงด้วยสายตาเปลี่ยนไป

“ข้าขอบคุณท่านแม่ที่เข้าใจหลังจากนี้นอกจากเรื่องของเหยาเอ๋อร์แล้ว ข้าจ้าวหว่านหนิงและสกุลฉู่จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

แม่สามีเพียงสะบัดแขนเสื้ออย่างรำคาญราวกับไม่อยากสนทนาต่อก่อนจะเอ่ยเสียงห้วน

“ในเมื่อเสร็จเรื่องแล้วสิ่งอัปมงคลอย่างเจ้าก็ออกไปจากบ้านข้าเสียเถอะ!”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel