เสียชีวิต 1.1
บทที่ 3
เสียชีวิต
หลังจากที่กลับมาจากมอบเงินให้บ้านเด็กกำพร้าแล้ว เธอก็รีบกลับที่พักทันทีเพราะรู้สึกว่านอกจากจะมีสายตาที่พร่าเลือนแล้วร่างกายของเธอก็เริ่มชาขึ้นมา ยิ่งขับรถนานก็ยิ่งชามากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเธอจึงพยายามขับรถอย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะกลับไปให้ถึงคอนโดของตนเองอย่างปลอดภัย แต่ในระหว่างทางกลับมีอาการมึนงงขึ้นมา พร้อมกับสมองเริ่มสั่งการได้ไม่ต่อเนื่อง เธอจอดรถข้างทางแล้วลงไปนั่งพัก พร้อมกับดื่มน้ำให้มาก ๆ เพราะเข้าใจว่าเป็นอาการเลือดหนืดเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้นะ”
เธอพูดออกมาอย่างกังวลใจอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะดื่มน้ำหรือพยายามขยับร่างกายอย่างไร กลับยังรู้สึกถึงความอ่อนล้าอ่อนเพลีย ซึ่งในจังหวะนั้นเอง หมอโจก็ขับรถผ่านมาพอดีเห็นเข้า เขารีบจอดรถแล้วเปิดประตูเพื่อวิ่งมาหาเธอ
“หมอซูมาทำอะไรที่นี่ครับ แล้วทำไมถึงต้องเดินวนไปมาและสลัดแขนแบบนั้นด้วย เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามออกไปอย่างเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังง่วงมาก เลยจอดรถเพื่อขยับแข้งขยับขาเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าการทำงานดึก ๆ มันจะมีผลกับระบบประสาทได้จริงจังถึงขนาดนี้ เห็นทีอาทิตย์นี้ฉันคงจะต้องลางานเพื่อที่จะนอนพักผ่อนให้เต็มที่บ้างแล้ว”
หญิงสาวตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เพราะเธอเข้าใจว่าตัวเองเกิดอาการเหล่านี้เพราะทำงานหนักจริง ๆ
“ผมดีใจนะครับที่คุณยิ้มให้ผม ผมนึกว่าคุณยังไม่หายโกรธเรื่องที่ยกเคสคนไข้มาให้ผมซะอีก” หมอโจพูดขึ้นมาอย่างยินดี
“อะไรกัน ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ นะคะ ที่จะต้องไปนั่งโกรธเรื่องอะไรแบบนั้น ฉันจะต้องขอบคุณหมอโจถึงจะถูก เพราะฉันจะได้ลาพักผ่อนจริง ๆ สักที แล้วคุณหมอล่ะคะมาทำอะไรที่นี่”
หญิงสาวตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง การที่มีคนมาช่วยงานยิ่งเป็นการดี เพราะเธอจะได้พักผ่อนบ้าง
“ผมแค่ขับรถมาบ้านแฟนเท่านั้นครับ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่อยู่บ้าน พักนี้เราไม่ได้ติดต่อกันเลย เหมือนเธอจะกำลังมีแฟนใหม่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาคล้ายกับหนักใจ
“อย่าเพิ่งคิดอะไรในแง่ร้ายเกินไป พวกคุณทะเลาะกันหรือเปล่า ถ้าทะเลาะกันอย่างน้อยที่สุดก็ควรจะรีบปรับความเข้าใจกันนะคะ” หญิงสาวพยายามพูดปลอบใจ ทั้งที่ตอนนี้ร่างกายตัวเองก็แทบจะไม่ไหว
“ใช่ครับ ผมกับเธอทะเลาะกัน เมื่อก่อนเราเคยคบกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะจับได้ว่าเธอติดการพนันอย่างหนัก แต่ถึงยังไงผมก็ยังรักเธออยู่ดีถึงได้ตามมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้ พอจะรู้จักหรือเปล่าครับ แฟนผมเธอชื่อจูอันอัน” หมอหนุ่มพูดทุกอย่างออกมาเหมือนกำลังอยากระบายให้ใครบางคนรับรู้ด้วย
หลังจากที่ได้พบและพูดคุยอย่างเปิดอกกับซูเหมยลี่
ชายหนุ่มจึงรู้ว่าเธอเป็นคนอัธยาศัยดีและไม่เคยคิดโกรธใคร เพราะฉะนั้นเขาเองก็จึงกล้าที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้เธอได้รับรู้
ส่วนซูเหมยลี่เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากอีกฝ่าย เธอก็เกิดความเห็นใจ อย่างน้อยต่อให้เป็นเพื่อนร่วมงานที่เริ่มแรกไม่ค่อยจะลงรอยกันบ้าง แต่ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี เธอก็คิดว่ายังไงก็ควรจะแสดงน้ำใจกับเขา จึงพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม
“เอาไว้เดือนหน้า ที่บ้านของคู่หมั้นฉัน เราจะจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่าย ยังไงฉันจะต้องเชิญคุณด้วย คุณลองชวนเธอไปด้วยกันสิคะ เผื่อว่าเห็นฉันกับคู่หมั้นแต่งงานกันแล้ว พวกคุณอาจจะรื้อฟื้นความรู้สึกดี ๆ แล้วอยากจะหันหน้ากลับมาคุยกันก็เป็นได้นะ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอซู คุณเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดีจริงๆ นอกจากจะเป็นคนเก่งแล้ว คุณยังมีน้ำใจอีกด้วย ผมอิจฉาผู้ชายที่จะเป็นสามีของคุณเสียจริง เขาต้องเป็นคนโชคดีมากแน่ ๆ”
หมอโจตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่ดีขึ้น เขาคิดว่าจะต้องพาแฟนตัวเองไปด้วยแน่ ๆ
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไว้เจอกันใหม่ค่ะ” หญิงสาวเห็นว่าตัวเองเริ่มไม่ไหวแล้ว จึงขอตัวเพื่อจะรีบกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกัน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากที่เธอขึ้นรถแล้วขับออกมา อาการเหล่านั้นจะย้อนกลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง เริ่มจากขาที่ไม่มีแรง ทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ อีกทั้งตอนนี้รถยนต์กำลังลงเนิน จึงกลายเป็นเร่งอัตราความเร็วที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ซูเหมยลี่ตกใจมากเมื่อรู้สึกว่าร่างกายของตนไร้เรี่ยวแรง แต่ก่อนที่เธอจะเปล่งเสียงร้องออกมา รถยนต์ที่กำลังลงเนินด้วยความเร็วและไม่สามารถเบรกได้ทัน พุ่งชนขอบถนนอย่างแรงและตกลงไปในคลองชลประทานข้างทาง
นั่นทำให้ซูเหมยลี่เสียชีวิตทันที…
