บทเริ่มต้นของนางร้ายที่ไม่ยอมจำนน 1
ริมฝีปากบางพึมพำพร้อมกับมือเรียวที่กำผ้าห่มแน่นจนสั่น เธออยากจะกรีดร้อง อยากระเบิดอารมณ์ อยากกระชากหมอนมาปิดหน้าคนข้าง ๆ ให้ขาดอากาศหายใจตายไปเสีย
แต่สิ่งที่ทำกลับตรงกันข้าม เธอพยายามหลับตาแน่นและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งแววตาของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“ถ้าพระเจ้าตั้งใจส่งฉันมาอยู่ในนรกนี้ อย่างนั้นก็หมายความว่าฉันต้องห้ามอ่อนแอ”
เจียงอวี้หลานพึมพำก่อนจะยันกายเพื่อลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้า ๆ และทำให้รู้ว่าตอนนี้ร่างกายของเธอปวดร้าวทุกข้อต่อ สะโพกเจ็บแทบลุกไม่ไหว ขาทั้งสองข้างก็สั่นระริกจากแรงกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่เธอก็ไม่ยอมคราง ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอใด ๆ ออกมาทั้งสิ้น มีเพียงเสียงฟันที่ขบกันแน่น และหยาดเหงื่อที่เกาะขมับ เจียงอวี้หลานหยิบผ้าห่มผืนบางจากเตียงขึ้นมาคลุมร่างกายของตัวเองเอาไว้อย่างลวก ๆ ก่อนจะเดินโซเซไปยังห้องน้ำ จากนั้นก็หยุดชะงักอยู่ที่หน้ากระจกบานกลม
หญิงสาวในกระจกนั่นผิวขาวซีดจนเหมือนกระดาษ ร่างบางสะโอดสะองในชุดคลุมขาดวิ่น ผมยาวถึงกลางหลังดูยุ่งเหยิง ใบหน้าเหมือนคุณหนูที่ถูกทอดทิ้งในละครย้อนยุค
แต่ในดวงตาคู่นั้นไม่มีความอ่อนแออีกต่อไป มีแต่ความแน่วแน่และไฟแค้นที่เริ่มจุดขึ้นอย่างช้า ๆ
“ตลกดีนะ ที่ฉันต้องเกิดใหม่ในนิยาย ในร่างของตัวละครที่ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ และจะต้องถูกเขี่ยทิ้งตอนกลางเรื่อง ซ้ำยังตายตอนจบอีกด้วย”
“แต่เจียงอวี้หลานคนใหม่คนนี้จะเขียนเรื่องของตัวเองใหม่ จะไม่ขอแตะต้องพระเอกและไม่ขอยุ่งกับนางเอก ไม่ต้องการความรัก ไม่เอาความยุติธรรม ใครอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันจะวางยาพิษเรียงตัวเลยคอยดู ยาที่ไร้สีไร้กลิ่นฉันถนัดนักล่ะ”
เจียงอวี้หลานพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีความอบอุ่นสักนิด ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งเช็ดคราบน้ำตาที่ค้างอยู่บนแก้ม แล้วหมุนตัวกลับออกไปอย่างสง่างามทั้งที่ขาแทบจะทรุดลงพื้น
เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมอีกต่อไป เจียงอวี้หลานคนนี้จะเปลี่ยนแปลงบทละครนางร้ายของเรื่องนี้เอง
เช้าวันต่อมา เสียงโวยวายจากหน้าบ้านไม้หลังเล็กดังเข้ามาถึงด้านในดั่งพายุ เจียงอวี้หลานกำลังยกน้ำล้างหน้าอย่างใจเย็น ราวกับว่าเสียงนอกบ้านไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้เหตุการณ์ที่ต้องเจอล่วงหน้าดี
“นางอยู่ที่นี่แน่! ยุวชนเห็นกับตาว่าคุณหนูเจียงเดินเข้ามาที่บ้านนี้เมื่อคืน!”
“ใช่! ผู้หญิงร้าย ๆ แบบนั้น คงจะตั้งใจมาอ่อยพ่อหม้ายของบ้านหลังนี้เป็นแน่”
“นั่นสิ! ทั้งที่หล่อนก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วยังจะกล้าทำไปได้!”
เสียงยุแหย่ปนดูถูกกระหน่ำใส่ประตูบ้านราวกับคลื่นน้ำเสีย และแน่นอนว่าถังหนานกับเหวินลี่ก็ยืนรวมอยู่กับกลุ่มชาวบ้านเหล่านี้ด้วย เจียงอวี้หลานที่รู้เรื่องราวของนิยายเรื่องนี้ดีจึงค่อย ๆ เดินออกไปเปิดประตูออกอย่างใจเย็นหลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เจียงอวี้หลานปรากฏตัวด้วยเสื้อคลุมบางสีขาว ผมเปียกชื้นเล็กน้อยจากการล้างหน้า และใบหน้าซีดเซียวถูกแต่งแต้มด้วยแววตาเยือกเย็นจนชาวบ้านเงียบเสียงไปทีละคน ก่อนที่สายตาของเธอจะหยุดมองที่ถังหนานอย่างพิจารณาแล้วเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“นี่น่ะเหรอคุณชายถัง หน้าตาตรงตามแบบฉบับของพระเอกในนิยายมากเลยนะเนี่ย ผิวขาว ตาใส มือไม่เคยจับอะไรสกปรก แม้แต่ถ่านหุงข้าวยังไม่รู้ว่าคืออะไรเลยกระมัง นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าหล่อแต่ไม่มีประโยชน์”
หลังจากที่เจียงอวี้หลานพูดจบ ถังหนานและเหวินลี่ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที หญิงสาวที่เคยอ่อนหวานน่าสงสารในสายตาชาวบ้านนั้นตอนนี้กำหมัดแน่น ริมฝีปากก็เม้มจนเป็นเส้นตรง
