บทที่ 5
เฉินหย่งเล่อในตอนนี้กำลังปีนต้นไม้ สี่วันที่นางเดินสำรวจหาช่องทางหลบหนีนางไม่พบทางหมารอดอย่างที่ตั้งใจ แต่โชคดีที่เทพเซียนยังไม่ทอดทิ้งนางเพราะนางได้พบต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ติดกำแพงจวนแทน เฉินหย่งเล่อจึงตัดสินใจรวบรวมของมีค่าของนางใส่ห่อผ้าใช้จังหวะที่บ่าวในจวนไม่ได้สนใจนางปีนต้นไม้ข้ามกำแพงออกไป
พรึบ!! ตุบ!!
เมื่อร่างบางไม่เห็นผู้คนเดินผ่านไปมาก็เรียกความกล้ากระโดดลงมาจากกำแพงสูง ทันทีที่ร่างของนางล้มกระแทกกับพื้นความรู้สึกเจ็บก็ตามมาทันที เฉินหย่งเล่อเม้มปากแน่นพยายามไม่ส่งเสียงร้องแม้จะเจ็บมาเพียงใดเพราะเกรงว่าจะทำให้คนในจวนสงสัย
เฉินหย่งเล่อหยิบห่อผ้าที่อยู่ข้างกายขึ้นก่อนจะใช้มือบางยันกำแพงประคองร่างของนางให้ลุกขึ้นยืน นางมองทางเบื้องหน้าด้วยหัวใจสั่นรัวนี่หรือไม่ที่เรียกว่าอิสรภาพ เพราะตั้งแต่นางมาอยู่ในร่างนี้ก็โดนกักขังอยู่ในวังอีกทั้งพอกลับจวนเฉินนางก็ทะเลาะกับเฉินเทียนอี้จนล้มป่วย
เอาเถอะชีวิตสามปีนี้ของข้า ด้วยเงินและของมีค่าที่ข้ามีตอนนี้คงอยู่ได้อย่างสบาย
เฉินหย่งเล่อคิดในใจก่อนจะพยุงร่างกายที่บอบช้ำจากการตกจากที่สูงเมื่อครู่เดินออกไป จุดหมายของนางคือที่เช่ารถม้านางจำเป็นต้องออกจากเมืองหลวงก่อนที่เฉินหย่งเล่อและองค์รัชทายาทจะรู้ตัวว่านางหลบหนี
เฉินหย่งเล่อคิดเพียงว่าหากหนีออกไปได้นางจะใช้ชีวิตที่ต่างเมืองเงียบเงียบ เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาและหายไปจากโลกนิยายนี้ในอีกสามปี เฉินหย่งเล่อคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนของนาง จนกระทั่ง....
"องค์หญิง จะไปใดหรือเพคะ"
เฉินหย่งเล่อที่เดินออกจากจวนแม่ทัพเฉินได้ไม่ไกลก็ต้องชะงัก เมื่อพบแม่นมและชายชุดดำสี่คนยืนดักรอนางอยู่ พวกเขาก้มลงมองสำรวจเฉินหย่งเล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะมองไปที่ห่อผ้าที่นางถืออยู่ แม่นมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ
"ท่านจะคงไม่ได้โง่งมจนคิดจะหนีใช่ไหมเพคะ"?
เฉินหย่งเล่อกำห่อผ้าที่อยู่ในมือแน่น พวกเขาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร? แต่เพื่อไม่ให้ตรงน่าสงสัยนางจึงแสร้งฝืนยิ้มออกไป
"หนีหรือท่านพูดเรื่องโง่อะไรกัน ข้าเพียงเบื่อที่ต้องถูกกักขังในจวนเลยคิดอยากออกมาเที่ยวเล่นเท่านั้น"
"ออกมาเที่ยวเล่น? แล้วเหตุใดต้องเอาเสื้อผ้าออกมาจากจวนด้วยเล่าองค์หญิง"
"แม่นมท่านเข้าใจผิดแล้ว ในห่อผ้าของข้ามีเพียงตั๋วเงินและของมีค่าเท่านั้นหากไม่เชื่อก็เอาไปดูเถิด"
เฉินหย่งเล่อพูดจบก็ยื่นห่อผ้าในมือไปให้คนตรงหน้า ที่นางพูดล้วนเป็นเรื่องจริงเพราะความรีบร้อนนางจึงไม่ได้นำสิ่งใดติดตัวมานอกจากของมีค่าและตั๋วเงินเท่านั้น
แม่นมรับห่อผ้าไปเปิดดูเมื่อพบว่าเป็นดั่งคำที่สตรีตรงหน้าพูดนางก็โยนห่อผ้าคืนให้เฉินหย่งเล่ออย่างไม่ไยดี แต่ในใจของนางก็ยังรู้สึกสงสัยกับท่าทางของคนตรงหน้า
"เหตุใดต้องนำของมีค่ามามากมายเพียงนี้"
"ข้าคือองค์หญิง จะให้ใช้เงินเพียงเล็กน้อยเท่าแม่นมได้อย่างไร"
เฉินหย่งเล่อพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แม้จะรู้ดีคำพูดของนางเป็นการยั่วโมโหคนตรงหน้าแต่นางก็ไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่อาจให้แม่นมไปกราบทูลกับองค์รัชทายาทว่านางคิดจะหนีได้ เห็นทีแผนหนีของข้าวันนี้คงพังไม่เป็นท่าเสียแล้ว
"เพราะพวกเจ้าทำให้ข้าหงุดหงิด ข้าคงไม่มีอารมณ์ไปที่ใดแล้วขอตัว"
เฉินหย่งเล่อหมุนกายหันหลังเตรียมกลับไปตั้งหลักที่จวนแม่ทัพเฉิน แม่นมมองแผ่นหลังของสตรีตรงหน้าในใจเต็มไปด้วยความสงสัยมากกว่าเดิม แต่เพราะองค์รัชทายาทโปรดปรานนางแม่นมเลยไม่อาจแตะต้องเฉินหย่งเล่อได้
"องค์รัชทายาทฝากข้ามาย้ำเตือนท่านอย่าได้หลงลืมหน้าที่"
"......"
"หากแม่ทัพเฉินถูกสังหาร ท่านจะได้รับยาถอนพิษและได้ครอบครองตำแหน่งพระชายารองตามที่ท่านต้องการ"
ตำแหน่งพระชารองที่ข้าต้องการหรือ? ผู้ใดมันต้องการกัน!!
"อย่าได้มัวแต่กักตัวอยู่ในห้อง ท่านควรเริ่มทำในสิ่งที่ได้รับมอบหมายได้แล้ว ยาที่ได้รับท่านควรเริ่มใช้ได้แล้ว"
เฉินหย่งเล่อหยุดชะงักนางไม่ได้หันกลับไปมือบางกำห่อผ้าในมือแน่น
"ในเมื่อท่านปีนกำแพงออกมาเข้าไปทางหน้าจวนคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี พวกเจ้าพาองค์หญิงไปส่งในจวนแม่ทัพ"
เฉินหย่งเล่อในตอนนี้กำลังปีนกำแพงจวนแม่ทัพเฉินหมายจะเข้าไปด้านในด้วยความช่วยเหลือของชายชุดดำที่แม่นมส่งมานางจึงไม่ต้องใช้แรงมากเช่นตอนแรกที่ปีนออกไป
หากเฉินเทียนอี้มาเห็นข้าตอนนี้คงคิดสังหารข้าเป็นแน่....
"เจ้า!!!"
อ่านึกถึงผี ผีก็โผล่มาเฉินหย่งเล่อที่กำลังก้าวไปยืนบนกำแพงมองลงไปด้านล่างเห็นเฉินเทียนอี้ยืนมองนางด้วยความไม่พอใจ ชายชุดดำที่ได้ยินว่าด้านหลังกำแพงมีคนอยู่พวกเขาก็รีบหนีหายไปทันที
"เฉินหย่งเล่อ"
"ไง เฉินเทียนอี้"
แม้จะรู้ว่าไม่ควรพูดตอบโต้กลับไปแต่ปากของนางมันไม่ยอมฟัง เฉินเทียนอี้กำมือของเขาแน่นมองสตรีที่กล้าท้าทายตรงหน้าก่อนจะหลับตาลงพยายามข่มความโกรธไว้
"ลงมา"
"ลงแล้ว ลงแล้ว"
เฉินหย่งเล่อพยายามปีนลงไปอย่างว่าง่าย แม้น้ำเสียงของเฉินเทียนอี้จะดูราบเรียบแต่ก็รู้ว่าเขาพยายามข่มอารมณ์ความโกรธไว้มากมายแค่ไหน นางไม่ควรเสี่ยงที่จะทะเลาะกับตัวร้ายผู้นี้อีก..
"กรี๊ดดด"
พรึบ!!! ตุบ!!!
มีอะไรซวยกว่านี้ไหม ช่วยบอกทีว่ามันไม่จริง!!!!
เฉินหย่งเล่อเบิกตากว้างมองบุรุษที่นางคร่อมอยู่บนตัวริมฝีปากบางสัมผัสเข้ากับแก้มของเฉินเทียนอี้เบา ๆ คนที่โดนกินเต้าหู้ไม่ได้มีท่าทางตกใจหรือเขินอาย เขาหันมองสตรีตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจผลักนางออกจากตัวอย่างไม่ไยดี
ตุบ!!!
เฉินหย่งเล่อในตอนนี้ลงไปนอนกองกับพื้นทันที เฉินเทียนอี้ปรายตามองไปที่นางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"วิธีสกปรกเช่นนี้อย่าคิดทำอีก"
"........."
"ข้าไม่ใช่บุรุษที่จะหลงใหลในร่างกายของเจ้า เช่นบุรุษอื่นที่เจ้าผ่านพบมา"
เฉินหย่งเล่อที่กำลังจะเถียงออกไป แต่เฉินเทียนอี้กลับเดินหนีนางไปก่อน
"ไอ้บุรุษหลงตัวเอง ไม่ได้หล่อขนาดให้ข้ามาเปลืองตัวหรอก!!"
ไม่รู้ว่าเฉินเทียนอี้จะได้ยินไหมแต่เฉินหย่งเล่อก็ตะโกนออกไปสุดเสียง นางกำพื้นหญ้าแน่นมองทางที่แผ่นหลังของเขาที่กำเดินออกไป ไม่คิดว่าตัวร้ายที่นางตั้งใจปั้นแต่งจะเป็นบุรุษหลงตัวเองและไร้มารยาทเช่นนี้
