บทที่ 2 พบราชบุตรเขย [2/2]
"องค์หญิงทรงรับสั่งว่า หากผู้ใดมีข้อเสนอหรือสิ่งที่ทำให้องค์หญิงพอใจได้ก็จะสามารถนำสิ่งนั้นมาแลกกับราชบุตรเขยได้ หนึ่งสิ่งต่อหนึ่งค่ำคืน เพคะ"
เยว่เล่อที่ได้ฟังก็แทบลมจับนี่มันคือการค้ามนุษย์ชัด ๆ ไม่แปลกใจเลยเหตุใดบุรุษทั้งสองมองนางด้วยสายตาเช่นนั้น ไอ้ที่บอกว่าครั้งนี้คือผู้ใดหมายถึงเรื่องนี้เองสินะ
เยว่เล่อเจ้าเป็นบุตรสาวของพระเอกและนางเอกจริง ๆ หรือ เหตุใดถึงได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ เดี๋ยวนะ...
"แล้วฝ่าบาท"
"ขอเพียงองค์หญิงพอพระทัย ฝ่าบาทจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเพคะ"
ตามใจกันแบบนี้ไงถึงได้เสียคน เยว่เล่อกุมขมับตัวเองไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหาตรงไหนก่อนดี เพราะนิสัยชั่วร้ายเช่นนี้หรือเปล่าผู้คนถึงเอาแต่ไม่ชอบเจ้า เยว่เล่อ..
"เห้อ...ก็คงต้องแก้ปัญหาที่แก้ได้ก่อน ซินซินต่อไปให้ข้ารับใช้ในตำหนักปฏิบัติต่อราชบุตรเขยให้เหมือนปฏิบัติกับข้า จริงสิสั่งตัดชุดให้พวกเขาและไปกำชับแม่ครัวให้ส่งอาหารที่ดีที่สุดให้พวกเขา จากที่ข้าเห็นร่างกายของพวกเขาดูอ่อนแอมากเจ้านำหมอหลวงไปตรวจพวกเขาด้วย อย่างไรก็ต้องให้ดื่มยาบำรุง"
"เพคะ"
"แล้วก็ให้นางกำนัลไปทำความสะอาดที่พักพวกเขาด้วย ข้าไม่อยากเห็นพื้นที่รกร้างในตำหนักอีกแล้ว"
"เพคะ"
"ซินซิน เจ้ายิ้มอะไร"
"หม่อมฉันแค่ชอบมององค์หญิงยามนี้เพคะ"
ซินซินพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้ในสายตาของซินซินเยว่เล่อไม่เหลือคราบของนางร้ายประจำวังหลวงอยู่เลย ข้าควรขอร้องท่านเทพเซียนให้นางเป็นองค์หญิงที่ความจำเสื่อมเช่นนี้ตลอดไปดีหรือไม่
หลายชั่วยามต่อมา
"นี่พวกเจ้า....เข้าใจผิดหรือไม่"
ซืออี้พูดออกมา ในใจเต็มไปด้วยคำถามและความกังวลเมื่อเห็นเหล่านางกำนัลเข้ามาทำความสะอาดที่พัก ข้ารับใช้ดูนอบน้อมกับเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพอถามไปก็พูดเพียงว่าเป็นรับสั่งขององค์หญิง
"ซืออี้เจ้าเองก็ด้วยหรอ"
เฟินหัวเดินเข้ามาในห้องมองบรรดานางกำนัลที่ทำความสะอาดอยู่ภายในห้องด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะปรายตามองไปที่หีบเสื้อผ้ามากมายที่เยว่เล่อนำมาให้ซืออี้
"อย่าบอกนะว่าเจ้าก็...."
เฟินหัวพยักหน้าเบา ๆ ทั้งสองสบตากันเหมือนต้องการสื่อบางอย่าง ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกมาด้านนอกเฟินหัวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เมื่อไม่พบผู้ใดก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหัวเสีย
"นางตั้งใจจะทำอะไรกันแน่"
"เฟินหัวเจ้าใจเย็นก่อน"
"ซืออี้ เจ้าอย่าลืมสิเยว่เล่อไม่ใช่สตรีที่จะทำดีกับผู้อื่นโดยไม่หวังอะไร"
เฟินหัวพูดออกมาแสดงถึงความไม่พอใจและกังวล ซืออี้ที่คิดทบทวนอยู่นานก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะจากที่รู้จักเยว่เล่อมานางเป็นสตรีโลภมากและเจ้าเล่ห์ ไม่มีทางที่จะมอบสิ่งของให้พวกเขาโดยไม่หวังอะไรตอบแทนเช่นนี้
"คงไม่ใช่ว่านางเจอสิ่งที่แลกเปลี่ยนกับพวกเราได้แล้ว เลยทำดีเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่รู้สึกผิดทีหลังหรอกหรือ"
"งั้นที่จัดอาหารอย่างดีมาให้เช่นนี้ คงไม่ใช่ว่า...."
เฟินหัวยกยิ้มมุมปากมือหนาค่อย ๆ จับปลายคางของซืออี้ให้เงยหน้าขึ้น พลางใช้สายตามองสำรวจใบหน้าของผู้เป็นสหาย
"องค์ชายสามยามเจอเจ้าครั้งแรกกล่าวชมเจ้าไม่ใช่หรือว่าหากอวบกว่านี้สักนิดคงงดงามยิ่งกว่าเดิม"
ซืออี้ที่ได้ฟังพลางจินตนาการนึกถึงใบหน้าขององค์ชายสามที่กล่าวชื่นชมเขาก็ถึงกลับใบหน้าซีดเผือด ยิ่งยามนึกถึงใบหน้าหื่นกระหายขององค์ชายชั่วนั่นก็รู้สึกคลื่นไส้เขาปัดมือของเฟินหัวออกทันที
"ส่วนข้าก็คงเป็นองค์หญิงหก หมอที่ส่งมาก็คงตรวจอาการว่าข้าแข็งแรงพอจะร่วมเตียงได้หรือไม่"
ทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วย คิดเพียงว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามความคาดเดาของพวกเขาแน่ ๆ ไม่มีทางที่หญิงละโมบเช่นนางจะมาทำดีกับพวกเขาเช่นนี้ทั้งสองหันมาสบตาก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
"กระต่ายเจ้าเล่ห์"
