บทที่ 2 พบราชบุตรเขย [1/2]
"องค์หญิง ราชบุตรเขยเสด็จมาแล้วเพคะ"
ซินซินนางกำนัลข้างกายของเยว่เล่อพูดขึ้น เมื่อคืนนางก็แทบนอนไม่หลับหลังจากได้ยินว่าตัวเองมีสามีถึงสองคนในตำหนัก ความกังวลก็เกิดขึ้นในใจของนาง
หากเป็นเช่นนี้ความคิดที่จะออกไปใช้ชีวิตนอกวังอาจจะลำบากแล้วลำพังตัวนางคนเดียวก็แทบเอาไม่รอด เห็นทีต้องปลดพวกเขาก่อนที่นางจะออกจากวังหลวงเช่นนี้จึงจะตัดปัญหาออกไป
"ให้พวกเขาเข้ามา ส่วนพวกเจ้าออกไปให้หมด"
"เพคะ"
เยว่เล่อเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด ถึงแม้พวกเขาจะเป็นสามีของเยว่เล่อคนเก่าแม้เยว่เล่อคนเก่าจะรักพวกเขาเพียงใด แต่นางผู้นี้มิใช่เยว่เล่อคนนั้นคงทำหน้าที่สามีภรรยาให้พวกเขาไม่ได้ มีเพียงพูดให้พวกเขาเข้าใจและจากกันด้วยดีเท่านั้น
"องค์หญิง"
"พวกเจ้ามาได้สักทะ......"
คำพูดของเยว่เล่อหายไปในลำคอทันทีที่เห็นบุรุษสองคนตรงหน้า การแต่งกายของพวกเขาตอนนี้ไม่ต่างจากขอทานเสื้อผ้าที่สวมใส่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าถูกซ่อมแซมมานับไม่ถ้วน อีกทั้งร่างกายที่ซูบผอมจนเห็นโครงกระดูกราวกับคนที่อดข้าวมานาน
ตรงหน้าข้า...นี่..ใช่ราชบุตรเขยสามีขององค์หญิงจริง ๆ หรือ?
"นะ...นั่งสิ"
เยว่เล่อพูดออกมาไม่เต็มเสียงนัก ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าตอนนี้นางควรทำสีหน้าอย่างไรเพราะเดิมทีไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเจอพวกเขาในสภาพเช่นนี้
"พวกเจ้าไม่นั่งหรือ"
นางเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อพบว่าบุรุษทั้งสองไม่ได้นั่งตามคำสั่งของนางแต่กลับยืนนิ่งจ้องมองมาที่นางด้วยสายตายากคาดเดา
"ครั้งนี้เป็นผู้ใด ซืออี้ หรือข้า"
"เฟินหัวอย่าทำเช่นนี้.....ข้าขอประทานอภัยองค์หญิงแทนเฟินหัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ"
เยว่เล่อมองบุรุษตรงหน้าที่เอ่ยขออภัยกับนางเขามีใบหน้าที่งดงามราวสตรีแม้ดูซูบผอมก็ยังซ่อนความงดงามบนใบหน้าไม่ได้ แต่เหตุใดกับรู้สึกว่าแววตาที่จ้องมองนางมันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แม้คำพูดจะดูเคารพนางแต่สายตาของเขากลับไม่เป็นเช่นนั้น เยว่เล่อมองสำรวจพวกเขาไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมา
"พวกเจ้าออกไปเถอะ"
"นี่เจ้า!!" เฟินหัว
"พ่ะย่ะค่ะ" ซืออี้
ซืออี้รับคำก่อนจะจับแขนเฟินหัวเดินออกจากห้องไป เยว่เล่อเมื่อเห็นว่าภายในห้องเหลือแค่เพียงนางก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันทีร่างกายของพวกเขาในตอนนี้ไม่ต่างกับโครงกระดูกเดินได้เลยสักนิด ในเมื่อพวกเขามีสภาพเช่นนี้ข้าจะกล้าพูดเรื่องจะปลดพวกเขาออกไปได้เช่นไร
"ซินซินเจ้าเข้ามาหน่อย"
"เพคะ"
"เหตุใด ราชบุตรเขยถึงได้มีสภาพเช่นนี้"
ซินซินเป็นนางกำนัลคนสนิทของนางและรู้เรื่องราวที่นางความจำเสื่อมจึงไม่จำเป็นที่เยว่เล่อจะปิดบังอะไร ถึงแม้นางจะถามไปมากมายซินซินก็จะเข้าใจเพียงแค่ว่านางความจำเสื่อมเท่านั้น
"ตั้งแต่ที่องค์หญิงทรงแต่งราชบุตรเขยเข้ามาในตำหนัก พระองค์ก็สั่งให้คนในตำหนักเลือกที่จะเมินเฉยต่อราชบุตรเขยเพคะ"
"แต่ถึงอย่างไร สภาพเช่นนั้นจะรับใช้บนเตียงได้เช่นไร"
"องค์หญิงทรงไม่เคยแม้แต่เรียกราชบุตรเขยทั้งสองมารับใช้ในยามค่ำคืนเพคะ"
"เช่นนั้น เหตุใดข้าถึงแต่งพวกเขาเข้ามาล่ะ"
"ราชบุตรเขยทั้งสองเดิมทีมีฐานะเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองแต่ละเมืองเพคะทั้งสองถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการ อาจจะเพราะมีรูปโฉมที่องค์หญิงพอพระทัยจึงทรงทูลขอฝ่าบาทมาเพคะ"
เยว่เล่อที่ได้ฟังก็อ้าปากค้าง เยว่เล่อผู้นี้มีนิสัยชอบสะสมบุรุษรูปงามหรือไงแล้วเหตุใดถึงไม่ดูแลดีดีเล่า!!! ดูสภาพพวกเขาสิข้าที่มาอยู่ในร่างเจ้าต้องทำเช่นไร ในตอนแรกว่าจะสั่งปลดและให้เงินสักก้อนไปใช้ชีวิตใหม่เหมือนในละคร
แต่นี่ดูจากสภาพแล้วแค่เดินออกนอกประตูตำหนักก็คงขาดใจตายแล้ว หรือไม่ร่างกายผอมบางเช่นนั้นออกจากวังหลวงไปคงถูกโจรปล้นจนหมดตัว
"เห้ออออ ข้าในอดีตคงไม่ได้ทำเรื่องร้ายแรงไปกว่านี้แล้วใช่ไหม"
ซินซินที่ได้ฟังก็หน้าเสีย ทำเอาเยว่เล่อที่ตอนแรกแค่พูดเล่น ๆ ถึงกับชะงักมองหน้าซินซินที่เม้มปากแน่น เย่วเล่อลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากภาวนาว่าเจ้าของร่างเดิมจะไม่ทำอะไรรุนแรงหรือเกินขอบเขตที่นางจะรับได้
"องค์หญิงทรงรับสั่งว่า หากผู้ใดมีข้อเสนอหรือสิ่งที่ทำให้องค์หญิงพอใจได้ก็จะสามารถนำสิ่งนั้นมาแลกกับราชบุตรเขยได้ หนึ่งสิ่งต่อหนึ่งค่ำคืน เพคะ"
