บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 หย่ากันเถอะ

ตอนที่ 3 หย่ากันเถอะ

ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเสียงเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ยินมาเนินนานกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาที่หน้าบ้าน หลี่เหมยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด คนที่มาที่นี่จะเป็นใครไม่ได้นอกจากท่านนายพลเฟิ่งเจี้ยนเฉิน

ตึก ตึก หัวใจของเธอเต้นแรงระรัว ร่างเล็กใช้มือทาบลงบนอกพร้อมพูดเตือนสติตนเองก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้อง

“ตั้งสติหน่อยสิหลี่เหมย จำไม่ได้หรือไงว่าผู้ชายคนนี้เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอเลยสักนิด ทั้งระแวงและเชื่อคำพูดของแม่ไม่ยอมตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นถึงท่านนายพลเสียเปล่า ถ้าเธอใจอ่อนให้กับคนเช่นนี้ชะตาชีวิตของเธออาจจะเป็นเหมือนเดิม และสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องอีกแน่ ๆ เอาล่ะไปจบเรื่องนี้กันเถอะ” หลี่เหมยก้าวเท้าออกไปด้วยความแน่วแน่ พร้อมถือกระเป๋าใบน้อยของเธอออกไปด้วย

ฝั่งด้านเฟิ่งเจี้ยนเฉินเขากลับบ้านมาครั้งนี้ด้วยความคิดถึงภรรยาสุดหัวใจ เขามอบหัวใจที่มีให้เธอเพียงคนเดียวและจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่จงรักภักดีตอบแทนที่เธอช่วยเหลือเขา เธอจึงเป็นเจ้าของชีวิตของเขา ในมือใหญ่ถือกำไรข้อมือที่เขาซื้อมาเป็นของฝากใบหน้ายิ้มแย้มมาตลอดทางเมื่อนึกภาพที่เธอเห็นกำไรข้อมือนี้จะดีใจแค่ไหน

“ท่านนายพลครับตอนนี้ถึงบ้านของท่านแล้วครับ พวกผมจะคอยเฝ้าดูแลความปลอดภัยอยู่ด้านนอกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” หม่าถงลูกน้อยคนสนิทของเขาเอ่ยขึ้นเมื่อรถดับเครื่องยนต์มีหทารเดินทางมาคุ้มครองเขาที่บ้านมากกว่าสิบคน เพราะกลัวจะถูกศัตรูหรือคนที่ปองร้ายดักลอบทำร้ายอีก

“สลับเปลี่ยนเวรให้เฝ้าเพียงแค่หน้าประตูพอเพราะบ้านของฉันไม่มีประตูหลังบ้าน ส่วนทหารที่เฝ้าตอนกลางคืนก็ไปพักผ่อนก่อนฉันจะให้ป้าหลินจัดที่นอนให้ที่เรือนแยก”

“ได้ครับท่าน” หม่าถงรับคำสั่งเดินลงมาจากรถเพื่อเปิดประตูให้เจ้านายได้เดินลงมา เวลานี้เฟิ่งซินหนานไม่อยู่ไปตลาดด้วยตนเองเพื่อทำอาหารเย็นรอลูกชาย เสี่ยวลี่จึงอาสาไปด้วยเพราะเธออยากเจอหน้าเฟิ่งเจี้ยนเฉิน มีหรือที่เฟิ่งซินหนานจะไม่เห็นด้วย วันนี้เธอจะใส่ร้ายและให้หนูเสี่ยวลี่เอาอกเอาใจลูกชายของเธอแทน เฟิ่งเจี้ยนเฉินเดินเข้ามาในบ้านด้วยความตื่นเต้นเห็นป้าหลินยืนรอต้อนรับเพียงลำพังคิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย

“คุณเจี้ยนเฉินกลับมาแล้วหรือคะ ป้าช่วยยกของขึ้นไปเก็บที่ห้องให้นะคะ”

“ไม่ต้องเดี๋ยวกระเป๋ามันหนักเพราะครั้งนี้ฉันจะกลับมาอยู่ที่บ้านนานกว่าทุกรอบ ป้าหลินช่วยจัดการเก็บกวาดห้องรับรองเรือนแยกให้ฉันที ว่าแต่นี่ทุกคนไปไหนกันหมดทำไมบ้านถึงเงียบแบบนี้”

“คุณนายออกไปซื้อของมาทำอาหารต้อนรับคุณชายด้วยตัวเอง ส่วนคุณหลี่เหมยน่าจะอยู่ข้างในห้องค่ะ”

“ฉันอยู่นี่และมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณพอดี” หลี่เหมยวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ตอบกลับเฟิ่งเจี้ยนเฉินเมื่อได้ยินเขาถามหาเธอ เขาดีใจที่เห็นใบหน้าของภรรยาสุดที่รีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาสวมกอดเธอด้วยความคิดถึง

“หลี่เหมยฉันคิดถึงเธอจังเลย รู้มั้ยในแต่ละคืนกว่าฉันจะผ่านพ้นไปได้ฉันต้องอดทนต่อความคิดถึงที่มีต่อเธอมากแค่ไหน”

“ปล่อยฉันก่อนเถอะ เพราะฉันก็คิดถึงคุณทุกวินาทีเช่นเดียวกัน” หลี่เหมยใจเต้นตึกตักหวั่นไหวต่ออ้อมแขนที่อบอุ่นของเขา ก่อนที่เธอจะคิดถึงใบหน้าของเขาที่ไม่เชื่อใจผิดหวังแถมยังรังเกียจเธอเมื่อครั้งก่อนเธอรีบผละเขาออกจากร่างกายทันที โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอไม่ได้คิดถึงเขาด้วยความคิดเช่นเดียวกันกับตนเอง

“จริงสิฉันมีของฝากมาให้ด้วย ฉันว่ามันน่าจะเหมาะกับเธอมากเลยนะหลี่เหมย เธอชอบมันมั้ย”

“เราหย่ากันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป” ไม่ทันที่เจี้ยนเฉินจะพูดจบหลี่เหมยพูดแทรกขึ้นมาทำให้ร่างใหญ่ถือกำไรข้อมือชะงัดกลางอากาศใบหน้ายิ้มแย้มกลายเป็นตกใจ

“เธอพูดเรื่องอะไร คิดจะล้อฉันเล่นใช่มั้ย ไม่เอาน่ารู้มั้ยว่าคำนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลย หรือว่าเธอน้อยใจที่ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ พาเธอมาอยู่มณฑลนี้แล้วทิ้งเธอเอาไว้กับคุณแม่ ”

“ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นฉันพูดความจริงฉันต้องการหย่าและออกไปจากที่นี่ ตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว”

“ไม่เอาสิ เลิกพูดเรื่องนี้สักทีหลี่เหมยเธอต้องการอะไรบอกฉันมาสิ ฉันจะทำให้เธอทุกอย่างอย่างที่เธอต้องการ ไม่ว่าเธออยากได้อะไรฉันจะหามาให้เธอเอง หรือไม่ว่าเธออยากทำอะไรที่ทำให้เธอมีความสุขฉันเต็มใจทำให้เธอทุกอย่าง”

“หย่า !! นั่นคือความสุขของฉัน”

“เธอไม่รักฉันแล้วเหรอซูหลี่เหมย เราสองคนรักกันมากเคยผ่านเวลาทุกข์ยากมาด้วยกัน ทำไมเธอยังยืนยันว่าจะหย่ากับฉัน” เจี้ยนเฉินเห็นท่าทางจริงจังของหลี่เหมยเขารู้ทันทีว่าเธอไม่ได้ล้อเล่นอีกต่อไป แต่เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าทำอะไรให้เธอไม่พอใจจนเธอขอหย่าอย่างนี้

“ฉันเคยรักและรักมากด้วย แต่ต่อจากนี้ฉันขอรักตัวเองจะดีกว่า การที่คุณบอกรักฉันแต่ปิดบังตัวเองว่าเป็นใคร พาฉันมาอยู่ที่นี่ทั้งที่คุณแม่ไม่ได้ต้อนรับ ต่อหน้าแม่ของคุณดีทุกอย่างแต่ลับหลังคุณไม่รู้หรอกว่าฉันพบเจออะไรบ้าง เมื่อครู่คุณบอกยอมทำทุกอย่างที่เป็นความสุขของฉัน หย่าให้ฉันซ่ะท่านนายพล” หลี่เหมยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนคิดว่าตนเองจะไม่รู้สึกอะไรและมีแต่ความแค้น แต่ในใจของเธอกลับวูบไหวไปหมด ร่างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทำอะไรไม่ถูกทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแทบไม่มีเรี่ยวแรง กอดขาของเธอเอาไว้แน่นเพราะใจของเขามีแต่เธอเพียงคนเดียว

“เธอเป็นคนให้ชีวิตใหม่กับฉันตอนนี้ก็เป็นคนผลักไสฉันเหรอหลี่เหมยเธอใจร้ายกับฉันเกินไปแล้ว ฉันเคยบอกแล้วไงว่าฉันต้องปิดบังตัวเองเพื่อความปลอดภัยไม่ได้มีเจตนาโกหกเธอเลยสักนิด”

“พูดมาตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ ยังไงฉันก็ไม่เปลี่ยนใจพรุ่งนี้เช้าเจอกันที่อำเภอ” หลี่เหมยแกะมือของเขาออกจากขาของตนเองก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อออกจากบ้านตระกูลเฟิ่ง ตอนนั้นเองเฟิ่งซินหนานกลับมาเห็นสภาพของลูกชายตัวเองเธอร้องออกมาเสียงหลง

“เจี้ยนเฉินลุกขึ้นเดี๋ยวนี้จะไปยอมก้มให้ผู้หญิงคนนี้ทำไมกัน หย่าไปก็ดีเหมือนกัน แค่ผู้หญิงชนบทเพียงคนเดียวไม่มีค่าให้เสียดายสักนิด รีบออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะนังหลี่เหมย กลัวลูกชายของฉันรู้ธาตุแท้ของแกสินะถึงได้ชิงขอหย่าก่อน ร้ายจริง ๆ เจี้ยนเฉินลุกขึ้น”

“ฮึ ฮึ ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนพูด ฉันไม่เคยเสียดายเลยที่จะหย่ากับเฟิ่งเจี้ยนเฉิน และต้องเดินออกจากบ้านตระกูลเฟิ่งที่โหดเหี้ยมแบบนี้ อยู่ไปก็มีแต่ความตายรออยู่พรุ่งนี้ฉันจะหย่ากับเฟิ่งเจี้ยนเฉินวันถัดไปก็จัดงานแต่งให้เขากับสะใภ้ที่คุณแม่เลือกเอาไว้เลยฉันจะเฝ้ามองความพังพินาศของตระกูลเฟิ่ง” หลี่เหมยเดินออกจากบ้านโดยไม่หันหลังไปมองแม้แต่ตาเดียวส่วนเจี้ยนเฉินตกใจตกอยู่ในห้วงความคิดว่าตนเองทำสิ่งใดผิด และเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่ที่นี่ ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ก็เห็นหญิงสาวที่รักกำลังจะเดินออกไป เขารีบลุกขึ้นจะวิ่งตามไปคว้าตัวของเธอเอาไว้ ทว่าตอนนั้นเองซินหหนานทำท่าเหมือนจะเป็นลมเพื่อเรียกร้องความสนใจจากลูกชายไม่ให้ตามไปง้อซูหลี่เหมย

“โอ๊ย!! ทำไมรู้สึกหน้ามืดบ้านหมุนแบบนี้ เจี้ยนเฉินอย่าไปจากแม่เลยนะ”

“คุณป้า เป็นอะไรคะพี่เจี้ยนเฉินรีบพาคุณป้าไปที่เก้าอี้ก่อนเถอะค่ะ อากาศข้างนอกค่อนข้างร้อนกลับมาเจอเรื่องสะเทือนใจแบบนี้เลยทำให้คุณป้าเป็นลมแน่ ๆ” เสี่ยวลี่รีบวางของเข้าไปประคองตัวซินหนานพูดยื้อเขาให้สนใจคุณแม่ และก็เป็นอย่างที่ซินหนานต้องการเพราะเธอรู้ว่าลูกชายรักเธอมากแค่ไหน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel