ตอนที่ 2 ไม่ยอมคน
ตอนที่ 2 ไม่ยอมคน
หลี่เหมยเลือกที่จะเดินอ้อมมาอีกทางเพราะรู้ว่าตอนนี้เฟิ่งซินหนานกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขกกลางบ้านเป็นที่ประจำของเธอ และวันนี้เสี่ยวลี่ผู้หญิงที่ต้องการสามีของเธอคงมาที่นี่ ก่อนจะสู้รบปรบมือกับใครหลี่เหมยจึงขอเลือกที่จะเติมพลังเสียก่อน
ป้าหลินแม่ครัวทำงานอยู่ในบ้านเฟิ่งมาหลายปีเห็นหลี่เหมยเดินเข้ามาเธอถอนหายใจเบา ๆ มองด้วยความสงสารเวทนา
“คุณหลี่เหมยวันนี้คุณนายสั่งให้มาทำอาหารอีกแล้วสินะ ทำไมคุณไม่ได้ใช้ชีวิตสุขสบายทั้ง ๆ ที่เป็นภรรยาของคุณเจี้ยนเฉินกัน คุณนายช่างใจร้ายกับคุณจริง ๆ ”
“ใครบอกละคะว่าวันนี้ฉันจะมาทำอาหาร ป้าหลินต่อจากนี้หน้าที่นั้นฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว ที่มาที่นี่เพราะฉันหิวค่ะมีอะไรให้กินบ้างคะ” ป้าหลินยิ้มบาง ๆ ดีใจที่หลี่เหมยรู้จักลุกขึ้นสู้ เธอหยิบชามมาตักข้าวใส่เต็มชามวางลงที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะตักกับข้าวมาวางไว้ต่อหน้า
“วันนี้มีผัดผักกับน้ำแกงค่ะ” ป้าหลินพูดจบก็เดินไปทำงานของตัวเองต่อ หลี่เหมยไม่รอช้านั่งลงจับตะเกียบมาคีบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เวลาผ่านไปครู่ใหญ่หลี่เหมยกินอิ่มเก็บถ้วยชามไปล้าง ตอนนั้นเองเสียงฝีเท้าได้ดังเข้ามาใกล้ ๆ หลี่เหมยคิดว่าแม่เฟิ่งจะเข้ามาหาอะไรกินเมื่อเธอหันหลังกลับมากลายเป็นเสี่ยวลี่แทน
“มาทำอะไรที่นี่!”
“ทำไมถึงพูดกับฉันแบบนั้นล่ะ พี่รู้มั้ยว่าคุณป้าเสียใจแค่ไหนที่พี่พูดจาไม่ดีกับคุณป้า "
“ไม่ต้องมาเสแสร้งหรอกนะเพียงแค่เธออ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่ของเธอแล้วล่ะเสี่ยวลี่ เลิกทำเป็นคนดีอ่อนหวานเสียทีเห็นแล้วฉันจะอ้วก น่าสะอิดสะเอียด” หลี่เหมยวางจานลงในชั้นวางของ กำลังจะเดินหนีเสี่ยวลี่ที่ตอนนี้ร่างกายร้อนผ่าวด้วยความโมโห ยิ่งเห็นหลี่เหมยกำลังจะเดินหนีเธอจะไม่มีทางยอมให้คนบ้านนอกอย่างหลี่เหมยมาต่อว่าเธอฝ่ายเดียวแน่นอน เสี่ยวลี่คว้ามือไปจับแขนของหลี่เหมยให้หยุดเดิน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! คิดว่าต่อว่าฉันแล้วจะเดินหนีได้หรือไง ใช่ฉันไม่ผู้หญิงที่อ่อนหวานแต่ฉันก็เป็นผู้หญิงที่ป้าเฟิ่งซินหนานต้องการให้เข้ามาเป็นสะใภ้ ไม่เหมือนเธอ แม่สามีไม่ต้องการทำทุกอย่างเพื่อขับไล่ยังหน้าด้านไม่ยอมออกไป แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเธอมันมาจากบ้านนอกเห็นสมบัติเงินทองคงตาโตจนเนื้อตัวสั่นเพราะเกิดมาทั้งชีวิตคงไม่เห็นเงินมากมายขนาดนี้สินะที่บ้านของเธอเองก็คงไม่สั่งสอนหรือสอนแค่ให้จับสามีรวย ๆ ชีวิตจะได้สุขสบาย”
เพี้ยะ!!! เสียงนิ้วมือกระทบลงบนเนื้อบริเวณใบหน้าของเสี่ยวลี่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและคิดไม่ถึงว่าหลี่เหมยจะกล้าลงมือตบเธอเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าของเธอสะบัดตามแรงมือ รอยแดงเริ่มเป็นริ้ว ๆ ร้อนชาไปทั้งหน้า ร่างเล็กสั่วเทาด้วยความโมโหมากกว่าเดิม
“แก ..แกกล้าเอามือสกปรกมาตบฉันเหรอ? คิดว่าตัวเองเป็นใครกันห่ะวันนี้ฉันจะสั่งสอนแกเอง คอยดูว่าป้าเฟิ่งจะเชื่อใครมากกว่ากันอีกอย่างแกเป็นฝ่ายลงมือก่อนอย่ามากล่าวหาว่าฉันรังแกก็แล้วกัน” น้ำเสียงสั่นเทาง้างมือขึ้นหวังจะตบที่ใบหน้าของหลี่เหมยเพื่อเอาคืนทว่าอีกฝ่ายกลับหลบทัน จนร่างเล็กเซถลาล้มลงกับพื้น
“กรี๊ด! แก แกหลบทำไม”
“แล้วใครจะโง่ยืนให้โดนตบกันล่ะ เธอต่างหากกล้าดียังไงมาดูถูกคนอื่นคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนเธอรึไง แม้ฉันจะมาจากชนบทแต่ฉันไม่เคยคิดจะแย่งสามีคนอื่น ไม่ยุ่งกับผู้ชายที่มีเจ้าของหรอกนะ นี่นะหรือผู้หญิงที่อยู่ในที่เจริญแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ขอเป็นผู้หญิงชนบทจะดีกว่า” หลี่เหมยเหลือบสายตามองเพียงปลายหางตาราวกับเหยียดหยามก่อนจะก้าวเท้าข้ามขาของเธออย่างตั้งใจ ทำให้ร่างเล็กที่นั่งอยู่กับพื้นกรี๊ดร้องเสียงดังลั่นบ้าน ป้าหลินรีบวิ่งเข้ามาดูพร้อมกับแม่เฟิ่ง
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูเสี่ยวลี่ถึงได้นั่งอยู่กับพื้นแบบนั้น”
“จะเป็นอะไรได้ล่ะคะคุณแม่ เสี่ยวลี่นะสิไม่รู้จักระวังตัวลื่นล้มไม่เป็นท่า กระโดกกระเดกไม่มีมารยาทจริง ๆ ” หลี่เหมยหยุดเดินหันกลับมาตอบแม่เฟิ่งก่อนจะเดินจากไป
“ไม่จริงค่ะคุณป้า พี่หลี่เหมยรังแกฉัน คุณป้าดูนี่สิคะรอยนิ้วมือที่พี่หลี่เหมยลงมือทำร้ายฉัน เพียงแค่ฉันมาบอกให้พี่หลี่เหมยพูดจากับคุณป้าดี ๆ เท่านั้นไม่คิดเลยว่าพี่หลี่เหมยจะโมโหร้ายลงไม้ลงมือทำร้ายกันได้ลงคอ อึก อึก” เสี่ยวลี่รีบบีบน้ำตาเพื่อเรียกร้องความสงสารจากเฟิ่งซินหนานและมันก็ได้ผล
“ไม่ได้การฉันจะต้องจัดการให้นังหลี่เหมยให้มันรู้บ้างว่าไม่สมควรมาทำนิสัยเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ใส่คนอื่น ป้าหลินพาหนูเสี่ยวลี่ไปใส่ยาที่ห้องรับแขกฉันจะไปจัดการกับนังตัวดีนั่นเสียหน่อย”
“อย่าเลยค่ะคุณป้า เพียงแค่นี้พี่หลี่เหมยก็เกลียดฉันมากพอแล้ว หากคุณป้าไปต่อว่าพี่หลี่เหมยคงไม่อยากจะมองหน้าฉันอีกต่อไป” เสี่ยวลี่รีบจับมือของป้าเฟิ่งเอาไว้แสดงให้เห็นว่าเธอจิตใจเมตตายอมให้อภัยคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างนี้ป้าเฟิ่งจะเห็นว่าเธอเป็นคนดีมากขนาดไหน
“เฮ้อ …หนูเสี่ยวลี่ทำไมต้องยอมผู้หญิงคนนั้นด้วยคอยดูเถอะเมื่อไหร่ที่เฟิ่งเจี้ยนเฉินกลับมาฉันจะบอกความชั่วช้าทั้งหมดของหลี่เหมยให้เฟิ่งเจี้ยนเฉินได้รับรู้ว่าธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างไร” เฟิ่งซินหนานยอมทำตามคำขอของเสี่ยวลี่พาเธอไปทายาที่ห้องรับแขก นั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับนิสัยของหลี่เหมย ป้าหลินยืนเงียบ ๆ ไม่ได้ออกความคิดเห็นเรื่องนี้เพราะรู้ดีว่าใครกันแน่ที่ร้ายมากกว่ากัน หนำซ้ำยังสะใจที่หลี่เหมยกล้าลงมือตอบโต้เสี่ยวลี่อีกด้วย
ฝั่งด้านหลี่เหมย
หลังจากเดินกลับมาจากห้องครัวเธอมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็กเพื่อเตรียมตัวออกไปจากบ้านหลังนี้ทันทีที่เฟิ่งเจี้ยนเฉินกลับมา ไม่ว่าเขาจะยอมหย่าหรือไม่เธอก็จะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จไม่ลืมที่จะเก็บสินเดิมของตนเองไปด้วยและเงินที่เฟิ่งเจี้ยนเฉินมอบให้เธอเอาไว้ใช้
“เพียงอีกไม่นานเฟิ่งเจี้ยนเฉินจะกลับมาแล้วสินะ รีบมาเถอะฉันจะได้ออกไปจากที่นี่เร็ว ๆ เมื่อคราวก่อนเป็นเขาที่ขับไล่ไม่สนใจว่าร่างกายของฉันเป็นอย่างไรรอบนี้ฉันจะไม่รอให้เขาทำร้ายจิตใจของฉันอีก แต่จะเป็นฉันเองที่เลือกจะเดินจากไป” หลี่เหมยกอดอกจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างเฝ้ารอเวลาที่สามีของเธอจะกลับมาถึงบ้าน
