ตอนที่ 4 หาที่อยู่
ตอนที่ 4 หาที่อยู่
หลี่เหมยเดินออกจากบ้านตระกูลเฟิ่งสูดลมหายใจสายตามองไปด้านหน้า การเดินทางของเธอได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าไม่เคยจะไปที่ไหนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ไม่เคยกลัวว่าจะลำบาก สองเท้าเดินบนถนนด้วยความตั้งใจมือเรียวลูบที่หน้าท้องพูดกับลูกน้อยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ต่อจากนี้แม่จะเป็นแม่ที่ดีที่สุดและจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่สุขสบายไม่ให้พบคนตระกูลเฟิ่งอีก เธอเดินมาจนถึงป้ายรถประจำทางไม่นานรถประจำทางเที่ยวสุดท้ายของวันนี้ก็มาถึง
ซูหลี่เหมยเคยได้ยินมาจากป้าหลินว่าหมู่บ้านหลิงหลานอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่มีโรงงานมากมายที่เปิดรับสมัครคนงาน มีงานมากมายให้ผู้คนไปสมัครและเลือกทำ ซูหลี่เหมยจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปอยู่หมู่บ้านหลิงหลานหางานทำเพื่อดำรงชีวิตต่อจากนี้
มาถึงหมู่บ้านหลิงหลานท้องฟ้าก็มืดสลัว เธอถือกระเป๋าใบน้อยเดินหาที่พักสำหรับวันนี้เอาไว้รุ่งเช้าเธอจะหาที่พักรายเดือน ระหว่างที่หาที่พักอยู่นั้นท้องของเธอก็เกิดร้องประท้วงด้วยความหิวสายตาเหลือบไปเห็นร้านอาหารเล็ก ๆ ข้างทางจึงเลือกที่จะเข้าไปกินข้าวเสียก่อน
“หิวแล้วสินะตั้งแต่มีตัวน้อยอยู่ในท้องทำให้หิวมากกว่าเดิมสินะ เอาล่ะไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“เชิญด้านในเลยแม่หนู ที่ร้านของเรามีอาหารมากมายต้องการอะไรสั่งได้เลยนะ” หญิงวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับอย่างเป็นมิตรใบหน้ายิ้มแย้ม
“ฉันขอเป็นข้าวและกับข้าวสองอย่างค่ะ ไม่เอาของที่มีเครื่องเทศกลิ่นแรงนะคะ”
“ได้เลย ๆ เข้ามานั่งก่อนนะ” ร่างเล็กตามหลังคุณป้าเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่เธอผายมือให้เข้าไปนั่ง ไม่นานนักอาหารก็มาตั้งอยู่ต่อหน้า หลี่เหมยนั่งกินข้าวเย็นกวาดสายตาสังเกตบริเวณร้านและบริเวณใกล้เคียง
“แม่หนูจะเดินทางไปที่ไหนหรือ หรือว่ามาหางานทำคงมาจากชนบทสินะ ใบหน้างดงามไร้การแต่งเติมเพียงมองก็ดูออกช่างหายากจริง ๆ หญิงสาวที่งดงามธรรมชาติ” คุณป้าเจ้าของร้านเห็นกระเป๋าเสื้อผห้าของหลี่เหมยก็พอมองออกว่าเธอคงมาหางานทำ
“ใช่ค่ะ ฉันยังไม่เคยมาที่นี่ยังไม่รู้ว่าต้องหาที่พักที่ไหนคุณป้าพอรู้จักบ้านพักมั้ยคะ”
“หนูมาถูกที่แล้วล่ะ ห่างจากที่นี่ไปไม่เกินห้าร้อยเมตรจะพบอพาร์ทเม้นท์ใกล้ ๆ ราคาไม่แพงมากนักแต่น่าอยู่มาก ๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ลองไปดูนะส่วนงานลองสมัครดูว่าหนูชอบงานแบบไหน”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” หลี่เหมยสบายใจขึ้นมาไม่น้อยเพราะคิดว่าคืนนี้ตัวเองจะได้นอนข้างถนนเสียแล้ว หลังจากกินอิ่มคุณป้าใจดีพาเธอไปที่อพาร์ทเม้นท์ที่พูดถึงเมื่อครู่
“อาจาง อาจางฉันพาลูกค้ามาให้อยู่หรือเปล่า” คุณป้าตะโกนเรียกอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์พักใหญ่ ชายร่างสูงโปร่งเดินออกมาขานรับทันที
“อยู่ครับ ผมอยู่นี่คุณป้าใจร้อนยิ่งกว่าวัยรุ่นเสียอีกนะครับ” น้ำเสียงทุ่มต่ำเอ่ยออกมาพลางยิ้มกริ่มเพราะเขากับคุณป้าสนิทสนมกันและเขาก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีกับทุกคนในพื้นที่ต่างก็ชื่นชอบ สายตาของเขาหันมาสบตาผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คุณป้าครานั้นราวกับว่าทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวแม้กระทั่งตัวของเขาที่ชะงักหยุดนิ่งจ้องมอง หลี่เหมยสายตาแทบไม่กระพริบ
“ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดไปทั่วแล้ว จะไม่ให้ใจร้อนได้อย่างไรแม่หนูคนนี้ต้องการห้องพักพอจะมีห้องว่างหรือเปล่า อ้าว! จ้องมองตาไม่กระพริบเลยนะ แม่หนูคนนี้ก็สวยจริง ๆ ขนาดฉันยังชอบเลย ฮึ ฮึ”
“คุณป้าเลิกล้อผมได้แล้วครับ ตอนนี้เหลือห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งพอดี ต้องการเข้าไปดูก่อนมั้ยครับ” จางจิ้นฟงเขินอายเมื่อถูกคุณป้าจับได้รีบเก็บอาการของตัวเองและทำหน้าที่เจ้าของห้องพักอย่างมืออาชีพ
“ค่ะ แต่ว่าฉันขอห้องว่างไม่ต้องใหญ่มากนะคะ ไม่ต้องมีของใช้ในห้องก็ได้ ขอเป็นราคาที่ถูกที่สุด”
“มาเถอะครับ ห้องพักของผมถูกที่สุดในย่านนี้แล้ว คุณป้าขอบคุณนะครับที่พาลูกค้ามาให้ผม” หลี่เหมยรู้สึกระแวงชายแปลกหน้าคนนี้และไม่่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่นักแต่ตอนนี้เมื่อมองออกไปก็ยากที่จะหาที่พักเธออยากจะนอนพักแล้วแค่คืนเดียวคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จิ้นฟงพาหลี่เหมยเดินมาจนถึงห้องพักห้องสุดท้ายริมสุดของห้องพักของเขา เขาเปิดประตูให้หลี่เหมยเข้าไปด้านใน ส่วนเขาเว้นระยะห่างเพราะสังเกตเห็นสีหน้าของเธอที่ไม่สบายใจและระแวงในตัวเขา เขาไม่อยากให้เธอกลัวและอยากให้เธอพักอยู่ที่นี่เขายอมรับเลยว่าเขาถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว
“เชิญเข้าไปเดินดูในห้องก่อนนะครับพอจะอยู่ได้มั้ย ราคาห้องพักที่นี่อยู่ที่ย่อมเยาราคาเพียงแค่ 300 หยวนต่อเดือนแต่ว่าตอนนี้มีส่วนลดถ้าคุณอยากพักที่นี่เราลดให้เหลือเพียง 200 หยวนต่อเดือน” หลี่เหมยเริ่มคำนวณเงินที่อยู่ในกระเป๋าตอนนี้เธอได้เงินออกมาจากบ้านเฟิ่งไม่ถึง 2000 หยวนกว่าจะหางานได้และกว่าจะได้รับเงินเดือนเธอจะต้องประหยัด ห้องนี่ก็ไม่ได้แย่มีของใช้ครบครันแถมยังใหญ่มากกว่าที่จะอยู่คนเดียวถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป อีกอย่างที่นี่อยู่ใกล้โรงงานหลายแห่ง เธอจึงตัดสินใจจะเช่าที่นี่
“ตกลงค่ะ ฉันจะเช่าที่นี่”
“ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยนะครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับผมจะได้ทำสัญญาเช่าให้ไว้ถือคนละฉบับ ส่วนผมชื่อว่าจางจิ้นฟง เรียกจิ้นฟงก็นะครับ”
“ฉันชื่อซูหลี่เหมยค่ะ”
“ครับอย่างนั้นขอให้คุณพักผ่อนในค่ำคืนที่เหน็ดเหนื่อยอย่างสบายนะครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะมาหาคุณที่หน้าห้องพร้อมเอกสารการเช่าที่นี่ คุณซูหลี่เหมยนี่ครับกุญแจห้อง” จิ้นฟงยิ้มระรื่นอย่างดีใจที่เธอตัดสินใจอยู่ที่นี่เขาไม่ได้มีส่วนลดให้คนอื่นเพียงแต่เขาอยากให้เธออยู่ที่นี่จึงลดราคาให้เป็นพิเศษ หลี่เหมยยิ้มบาง ๆ ต้อนรับยื่นมือไปรับกุญแจจากเขาท่าทางยังคงหวาดกลัวและไม่เชื่อใจเขา เมื่อได้รับกุญแจจิ้นฟงเดินจากไปเธอจึงเดินเข้าห้องล็อคประตูลงกลอนแน่นหนาวางกระเป๋าลงบนเตียงนอนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตอนนี้เธอได้ออกมาจากบ้านตระกูลเฟิ่ง แต่ทว่าจู่ ๆ เธอกลับรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ
“หึ รักฉันแต่ไม่แม้จะเดินตามออกมาง้อสักนิด ดีแล้วล่ะหลี่เหมยที่เธอตัดสินใจหย่ากับเขาได้ ไม่มีเขาฉันสามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวของฉันเองแม้จะทุกข์ยากแค่ไหนฉันจะไม่ไปขอร้องอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากเขาแน่นอน ป่านนี้คงดีใจจนเนื้อตัวสั่นที่จะได้ครองรักกับภรรยาใหม่ที่แม่หาไว้ให้ ตอนนี้ถึงเวลาตัดใจเสียทีและเริ่มต้นชีวิตใหม่” หลี่เหมยจิตใจเริ่มเข้มแข็งชีวิตต่อจากนี้ของเธอมีเพียงแต่เธอกับลูกในท้องเท่านั้นไม่ไปคิดถึงผู้ชายอย่างเฟิ่งเจี้ยนเฉินอีกเด็ดขาด
