บท
ตั้งค่า

4. อยู่ไม่สู้ตาย (2)

“ตะ แต่คุณหนูเจ้าคะ ท่านชอบพออยู่กับองค์ชายสามมิใช่หรือเจ้าคะ”

“หึ เหรินซ่งอวิ้นน่ะหรือ นอกจากไม่รักแล้ว ข้ายังเกลียดเสียด้วยซ้ำ...เจ้าอย่าถามมากเลยเสี่ยวฟู่ เอาทิ้งไปเสีย”

“เจ้าค่ะๆ” ฟังจากน้ำเสียง ก็พอจะรู้ว่าเจ้านายไม่พอใจจริงๆ แต่มันเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่ ก่อนออกเมืองหลวงมาทำสงคราม องค์ชายสามก็ไปมาหาสู่ พาคุณหนูของนางออกไปเที่ยวเล่นบ่อยครั้ง ยามอยู่ที่เผ่าเปี้ยนหัวก็ส่งจดหมายรักถึงกันอยู่ตลอด

แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

“...คุณหนูลองทานผลไม้เจ้าค่ะ” เสี่ยวฟู่รีบทิ้งจดหมายนั้นไป ก่อนจะหยิบยกตะกร้าผลไม้มาวางตรงหน้าลี่จวิน

“นี่เจ้าจะขุนข้าให้เป็นหมูหรือ”

“คุณหนูจะได้แข็งแรงโดยเร็วอย่างไรเล่าเจ้าคะ” มือเล็กใช้ผ้าเช็ดถู ทำความสะอาดผลไม้ก่อนจะยืนให้เจ้านาย ทั้งคู่จึงพูดคุยกันไป หยิบกินผลไม้ไป

มีบ้างที่ฟ่านอู๋จวงแวะมาพูดเล่นกับน้องสาวให้หายเหงา แต่ก็ดูเหมือนจะมาก่อกวนเสียมากกว่า เอ่ยเย้ยว่าหากไม่หายโดยเร็ว คงมิได้ควบม้านำทัพเข้าเมืองหลวงเคียงข้างบิดา ด้วยเหตุนี้ลี่จวินจึงรักษาตัวอย่างดี พักผ่อน ทานข้าว ดื่มยาทุกมื้อ จนตอนนี้เข้าวันที่สาม อาการก็เริ่มจะดีขึ้นมากแล้ว

“โอสถเจ้าค่ะ ท่านหมอเอ่ยว่าวันพรุ่งคุณหนูก็สามารถควบม้าได้แล้ว”

“ขอบใจนะเสี่ยวฟู่ ยึ้ย!” บุตรสาวแม่ทัพไม่ถูกโรคกับยาเป็นที่สุด ดื่มเสร็จเป็นต้องอ้าปากขอพุทราเชื่อมจากเสี่ยวฟู่ทุกที

“เอาอีกหรือไม่เจ้าคะ”

“พอแล้วๆ ...จริงสิ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”

“เรื่องใดหรือเจ้าคะ” มือที่ง่วนอยู่กับการเก็บถ้วยโอสถชะงักนิ่ง หันมาให้ความสนใจกับคำถามนั้นทันที

“หากว่ามีคนสังหารครอบครัวของเจ้า ทำให้เจ้าเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เจ้าจะแก้แค้นพวกมันอย่างไร จะฆ่ามันให้ตายเลยดีหรือไม่”

“ไม่เจ้าค่ะ ความตายมันง่ายดายเกินไป หากว่ามีคนมาทำร้ายคุณหนูของบ่าว บ่าวจะทรมานมันทีละนิด ยื้อชีวิตให้มันอยู่ต่อ ให้มันรู้ว่าอยู่ไม่สู้ตาย”

ลี่จวินเห็นนัยน์ตาวาวโรจน์ของคนสนิทก็นึกพอใจ นี่แหละหนาบ่าวเรือนสกุลฟ่าน ไม่มีผู้ใดอ่อนแอ ทุกคนล้วนจับดาบพร้อมสู้เมื่อภัยมาถึงตัว

เสี่ยวฟู่ของนางก็เช่นกัน เห็นอย่างนี้เชี่ยวชาญทั้งหมัดมวยทั้งรบราฆ่าฟัน เอ่ยได้ว่าไม่เป็นตัวถ่วงรอให้ผู้อื่นมาปกป้อง

“นั่นสินะ ให้มันอยู่อย่างตายทั้งเป็น ย่อมสาสมกับสิ่งที่มันทำมากกว่า”

ทัพหลวงรอนแรมกลับจากการทำสงครามที่ชนเผ่าเปี้ยนหัว กินเวลากว่าสองหนาว บัดนี้แม่ทัพใหญ่ฟ่านกงเฉินควบม้านำทัพเข้าเมืองหลวงแคว้นหนานซี โดยมีฮูหยินและบุตรทั้งสองอยู่เคียงข้าง

ชาวบ้านต่างมายืนต้อนรับเหล่าทหารกล้าที่จัดการกบฏชาวเปี้ยนหัว รักษาดินแดนเอาไว้ได้ ผู้คนโห่ร้องด้วยความดีใจ ทว่าการศึกย่อมต้องมีผู้สูญเสีย กระนั้นครอบครัวก็ซึ้งใจที่แม่ทัพใหญ่ของแคว้นมิทิ้งขว้าง แบกโลงศพทหารกล้าที่ตายในสนามรบกลับมาด้วย

ทันทีที่ส่งทหารกล้าทุกนายกลับสู่ครอบครัว สกุลฟ่านก็เดินทางกลับเรือนทันที จะมีก็แต่แม่ทัพใหญ่และบุตรชายอย่างฟ่านอู๋จวง ที่เดินทางไปเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้เหรินเฟยหรง จักรพรรดิแคว้นหนานซี

“ฮูหยิน ท่านกลับมาแล้ว” หงเหม่ย ภรรยาของขุนพลที่ร่วมรบกับท่านแม่ทัพเป็นผู้มายืนต้อนรับอยู่หน้าเรือน ข้างกันก็มีหงชินฮวาสตรีชั่วที่แม้แต่หน้า ลี่จวินก็ไม่อยากมอง ตากลมแข็งกระด้าง เหลือบไปมองทางอื่นแทน

“คำนับท่านป้าเจ้าค่ะ ฮวาเอ๋อร์ดีใจยิ่งนักที่ทุกท่านกลับมาอย่างปลอดภัย...น้องหญิง เจ้าคงลำบากมากใช่หรือไม่”

“หึ ข้ามิได้ลำบาก ออกรบได้ช่วยเหลือบ้านเมืองจะเอ่ยว่าลำบากได้อย่างไร แล้วพี่หญิงเล่า หลบๆ ซ่อนๆ ลอบพบกัน เหนื่อยบ้างหรือไม่”

“เอ่อ” ชินฮวาหน้าเสีย คำพูดของนางหมายความว่าอย่างไรกัน หรือจะรับรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel