บท
ตั้งค่า

3. อยู่ไม่สู้ตาย (1)

ความเจ็บปวดบริเวณแผ่นหลังและบั้นท้าย ปลุกคนที่นอนหลับให้ตื่นจากห้วงนิทรา ตากลมค่อยๆ ลืมขึ้น บาดแผลที่ถูกทรยศยังคงสดใหม่ รู้สึกราวกับมีมีดกรีดซ้ำๆ ทุกครั้งที่นึกถึง

“จวินเอ๋อร์”

“ท่านพ่อ!!!” ทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มใหญ่ ดวงตากลมก็เบิกโพลงขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้า ลี่จวินแทบไม่อยากเชื่อสายตา ทั้งท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ชาย และเสี่ยวฟู่ กำลังยืนล้อมนางอยู่

ร่างเล็กฝืนความเจ็บลุกขึ้นนั่ง จ้องมองทุกคนอย่างพินิจ ก่อนจะเอื้อมมือสั่นๆ ไปลองสัมผัสผู้เป็นมารดา กลัวเหลือเกิน กลัวว่าภาพตรงหน้าจะเป็นเพียงความฝัน

“น้องพี่ เจ็บมากหรือไร จึงได้ร้องไห้ออกมาเช่นนี้”

“นั่นสิ เสี่ยวฟู่เรียกท่านหมอเข้ามาตรวจอาการลูกข้าอีกทีเถิด” เจียซูหมี่ ฮูหยินเพียงคนเดียวของแม่ทัพใหญ่ฟ่านกงเฉิน มารดาของฟ่านอู๋จวงและฟ่านลี่จวิน

“พี่ใหญ่ ฮึก ท่านแม่ ท่านพ่อ” น้ำตาเม็ดโตร่วงลงจากหน่วยตา จนคนที่มองอยู่นึกใจหาย แม่ทัพฟ่านตกอกตกใจรีบคว้าบุตรสาวตัวน้อยเข้ามาในอ้อมกอด ลูบหลังปลอบให้บุตรสาวหยุดร้อง

แต่เล็กจนโตฟ่านลี่จวินมิเคยร้องห่มร้องไห้จนสะอึกสะอื้นเช่นนี้มาก่อน ครั้งนี้ถูกคนร้ายลอบโจมตี โดนธนูปักที่แขนและตกลงจากหลังม้า คงจะเจ็บน่าดู จึงได้มีอาการเช่นนี้

“มิต้องร้องๆ พ่อจะลงโทษพวกมันให้สาสมกับที่มันทำลูกพ่อเจ็บดีหรือไม่”

“ท่านพ่อ ฮึก ท่านยังไม่ตาย”

“อันใดกันจวินเอ๋อร์ เจ้าก็รู้ว่าตาแก่หนวดรุงรังนี่หนังเหนียวเพียงใด โอ๊ยๆ ท่านแม่” อู๋จวงร้องโอดครวญ เมื่อใบหูถูกมารดาดึงอย่างแรง

“เจ้าลูกคนนี้ ว่าบิดาได้อย่างไร”

“คิก” ฟ่านลี่จวินหัวเราะทั้งน้ำตา บรรยากาศเช่นนี้เป็นครอบครัวของนางไม่ผิด ท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ใหญ่ยังไม่ตาย แต่เพราะเหตุใดกันเล่า

หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงความฝัน...

ไม่สิ นางเจ็บลึกเข้าไปถึงกระดูก อย่างไรก็มิใช่ฝัน หรือสวรรค์ให้โอกาสนางย้อนกลับมาแก้ไขเรื่องที่ผิดพลาด

หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงดีไม่น้อย

หึ...เหรินซ่งอวิ้น หงชินฮวา ข้าจะทำให้พวกเจ้าลิ้มรสความทุกข์ทรมานบ้าง

“เอ่อ เสี่ยวฟู่ๆ รีบพาท่านหมอเข้ามาเร็วเข้า น้องสาวข้าท่าทางจะบ้าไปแล้ว เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวร้องไห้ ตอนนี้ทำตาขวางราวกับจะฆ่าคนอีกแล้ว”

“พี่ใหญ่!” บุตรีแม่ทัพใหญ่ของแคว้นทำเสียงงอแง แต่ก็ยอมนั่งนิ่งให้ท่านหมอตรวจโดยดี

สภาพร่างกายทั่วไปไม่มีสิ่งใดต้องเป็นห่วง เพียงฟกช้ำจากการตกม้า และบาดแผลจากลูกธนูที่โดนยิง เมื่อได้รับคำยืนยันจากท่านหมอ ทุกคนก็เบาใจ จึงได้เริ่มเดินทางกันต่อ

ฟ่านลี่จวินเปลี่ยนจากการควบม้าเป็นนั่งรถม้าแทน เพราะต้องพักร่างกายอย่างน้อยสามวัน ให้อาการปวดบวมหายดีก่อน ค่อยออกไปควบม้าเคียงข้างครอบครัวอย่างที่เคยทำ

“เสี่ยวฟู่” ขนมถูกกลืนลงท้อง ก่อนที่ลี่จวินจะเอ่ยเรียกคนสนิท

“เจ้าคะ อ๊ะ!”

“ข้าขอโทษนะ เสี่ยวฟู่” ลี่จวินโน้มตัวลงมากอดสาวใช้คนสนิท

ในชาติก่อนนางจำได้ว่าเสี่ยวฟู่สิ้นใจเพราะความหูเบาของนาง ปักใจเชื่อคำของขันทีในจวนซ่งอวิ้น ว่าเสี่ยวฟู่ขโมยของมีค่า นางจึงสั่งให้เสี่ยวฟู่ออกจากจวนไปช่วยดูแลชาวบ้านที่ชายแดน จนมารู้ข่าวว่าบ่าวตัวน้อยถูกศัตรูฆ่าตายที่นั่น

ทุกอย่างย่อมเป็นความผิดของลี่จวิน จะโทษผู้ใดได้อีก

“ขอโทษเรื่องใดเจ้าคะ บ่าวต่างหากที่ต้องขออภัยคุณหนู ที่ปล่อยให้คนร้ายลอบโจมตีท่าน”

“เอาเถิดๆ ถือเสียว่าเราเลิกแล้วต่อกันดีหรือไม่”

“เจ้าค่ะ อ๊ะ จริงสิ”

“อันใดหรือ” เห็นว่าบ่าวตัวเล็กค้นบางอย่างในสาบเสื้อ ลี่จวินจึงเฝ้าดูว่าจะเป็นสิ่งใด

เสี่ยวฟู่ที่สวมชุดสีดำสนิทราวกับนักรบ กำลังสอบมือคนบางในสาบเสื้อ เมื่อเจอจึงยิ้มร่าและส่งสิ่งนั้นให้ผู้เป็นนาย

“องค์ชายสามส่งจดหมายมาเจ้าค่ะ” กระดาษม้วนเล็กถูกส่งมาให้ลี่จวินที่กำลังนั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย แต่เมื่อได้ยินคำที่คนสนิทพูด อารมณ์กลับแปรเปลี่ยนไปในทันใด

“เอาไปทิ้งเสีย!”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel